ผ่าประเด็นร้อน
นาทีนี้ถึงคราววัดใจกับคนไทยทั้งประเทศ เจ้าหน้าที่บ้านเมืองที่มีหน้าที่รับผิดชอบทุกคนว่าจะเอาอย่างไร จะยอมให้กลุ่มอันธพาลการเมือง ที่นำโดย ทักษิณ ชินวัตร ข่มขู่คุกคาม ทำตัวอยู่เหนือกฎหมายแบบนี้ต่อไปอีกหรือไม่ หรือว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องจัดการสั่งสอนให้เข็ดหลาบ
เพราะสิ่งที่คนพวกนี้กระทำอย่างเหิมเกริม โดยไม่คำนึงถึงกฎหมาย กติกาบ้านเมือง ทั้งที่ตัวเองอยู่ฝ่ายบริหาร ทำหน้าที่รักษากฎหมาย แต่กลับละเมิดเสียเอง เพียงเพราะตัวเองหวาดกลัวความผิด แต่ไม่ยอมรับผิด ในทางตรงกันข้ามกลับไปกล่าวหาคนอื่น ทำลายคนอื่นอย่างไร้ยางอายที่สุด
แน่นอนว่าในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่ทักษิณ ชินวัตร ให้เครือข่ายท่องจำอยู่ทุกวัน ย่อมมีระบบการแบ่งแยกอำนาจ คือ ฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ และฝ่ายตุลาการ แต่ที่ผ่านมาสามารถยึดกุมครอบครองฝ่ายนิติบัญญัติได้อย่างเบ็ดเสร็จจนกลายเป็น “สภาทาส-ประธานขี้ข้า”ไปเรียบร้อยแล้ว จึงเกิดความเหิมเกริม ลุกแก่อำนาจทำตามใจชอบ ทั้งย่ำยีรัฐธรรมนูญ ละเมิดกฎหมาย และทุจริตคอร์รัปชัน เล่นพรรคเล่นพวกกันแบบไม่เกรงใจใคร เนื่องจากถือว่าตัวเอง“ใครคับฟ้า” ไม่มีใครมาขัดขวางได้
แต่อาจเป็นเพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบ้านเมืองคุ้มครอง ประกอบกับผ่านมากว่าสองปีรัฐบาลและเครือข่ายทักษิณ ได้ประจานความชั่วความล้มเหลวออกมาให้เห็นเอง ทั้งล้มเหลวในการบริหารบ้านเมืองไม่สมกับที่ได้รับความไว้วางใจอย่างท่วมท้นแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน คนที่เป็นผู้นำคือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็สร้างความผิดหวังพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า “ไร้สติปัญญา”หรือที่เรียกว่า “โง่”อย่างชัดแจ้ง จนสร้างความอับอายไม่ได้รับการยอมรับเกิดวิกฤตศรัทธาอย่างที่เป็นอยู่ เรียกได้ว่าล้มเหลวหมดทุกด้าน ทั้งทางเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม ซึ่งไม่ต้องสาธยายอธิบายซ้ำให้รำคาญ
ด้านความเคลื่อนไหวของมวลชนคนเสื้อแดง ไม่ว่าจะมาในสารพัดชื่อแต่ก็รับรู้ว่าเคลื่อนไหวเพื่อปกป้องคนในครอบครัว ทักษิณ ชินวัตร เท่านั้น ไม่ใช่เคลื่อนไหวเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ คนพวกนี้เป็นกลุ่มการเมือง ที่เป็นสมาชิกและผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทย และรัฐบาลของครอบครัวนี้เท่านั้น เพราะบรรดาแกนนำแทบทุกคนมีตำแหน่ง ส.ส. เป็นรัฐมนตรี หรือมีตำแหน่งทางการเมืองตอบแทนทั้งสิ้น ดังนั้นคนพวกนี้เคลื่อนไหวเพื่อรับใช้การเมือง และเพื่อประโยชน์ส่วนตัว ซึ่งที่ผ่านมาสังคมได้มองเห็นและตาสว่างกันมากขึ้นแล้ว แม้กระทั่งพวกคนเสื้อแดงด้วยกันเองจำนวนไม่น้อยเริ่มวางเฉย หรือถอยห่างออกมามากแล้ว พิสูจน์ได้จากความพยายามในการระดมพลใหญ่หลายครั้งก็มีมวลชนเข้าร่วมน้อยลงเรื่อยๆ หรือล้มเหลวจนต้องยกเลิกหลายครั้ง
มีเพียงกลุ่มเล็ก แค่หลักสิบ หลักร้อยเท่านั้น ที่ยังพยายามเคลื่อนไหวก่อกวน รวมไปถึงใช้“กองกำลังติดอาวุธ”ใช้วิธีก่อการร้ายใช้อาวุธสงครามลอบกัดยิงถล่มข่มขู่ฝ่ายตรงข้าม องค์กรอิสระ และศาล ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
โดยเฉพาะการข่มขู่คุกคาม ศาล และองค์กรอิสระ ซึ่งเป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งถูกจัดตั้งขึ้นมาตามกฎหมายเพื่อถ่วงดุล ตรวจสอบ ตามหลักการแบ่งแยกอำนาจ ตามหลักการของระบอบประชาธิปไตย แต่กลายเป็นว่าเมื่อรัฐบาล และ ทักษิณ ชินวัตร และคนในครอบครัวคือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทุจริตและทำผิดกลับไม่ต้องการให้รับโทษ “ต้องไม่ให้พวกเขาผิด”กลายเป็นว่า ฝ่ายที่ตรวจสอบ หรือตุลาการผิด หรือมีที่มามิชอบ หรือไม่มีความยุติธรรมเสียอีก
ขณะเดียวกัน ก็ใช้วิธีอันธพาลทุกรูปแบบ นั่นคือใช้มวลชนการเมือง คือคนเสื้อแดงที่เลี้ยงเอาไว้ มาก่อกวนข่มขู่ซึ่งก็มีการชุมนุมกดดัน และใช้วิธีใต้ดินก่อกวนกันรายวัน
อย่างไรก็ดี การเคลื่อนไหวด้วยวิธีการถ่อยเถื่อนดังกล่าว ใช้ไม่ได้ผลแล้วในปัจจุบัน ส่วนหนึ่งก็มาจากความล้มเหลวทุกด้านของฝ่ายทักษิณ สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านอย่างแสนสาหัสจากการเป็นรัฐบาล ได้เห็นความเห็นแก่ตัวของคนในครอบครัวนี้ ได้เห็นความกักขฬะของมวลชนคนเสื้อแดงและบรรดาแกนนำที่ล้วนเคลื่อนไหวแบบ “สู้แล้วรวย”ทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัว ทุกอย่างเป็นการประจานออกมาให้เห็นแบบล่อนจ้อน ทำให้สังคมตาสว่าง และเกิดความตื่นตัวหมดความอดทนอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน
ดังนั้น ไม่ว่าการข่มขู่ว่าเกิดเหตุการณ์นองเลือด หากมีการตัดสินให้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีความผิด ทั้งจากบรรดาขี้ข้ามีชื่อ หรือขี้ข้าปลายแถว มันก็เป็นเพียงแค่ขู่ส่งเสียงดังออกมาก่อนเท่านั้น เพราะถึงเวลานั้นหากยังสร้างความปั่นป่วนวุ่นวาย ทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย มันก็ได้เวลาที่จะต้องถูกเก็บกวาดขยะให้พร้อมกัน เพราะนี่คือขยะแผ่นดิน ในขณะเดียวกันเมื่อสังคมได้เห็นพฤติกรรมชั่วช้าแบบนี้แล้วยังวางเฉย ยอมทนให้มีการข่มขู่แบบนี้ต่อไป ก็ต้องยอมรับความวิบัติที่จะเกิดขึ้นตรงหน้าก็แล้วกัน !!