นายกฯ แจง ไม่ได้คุย “พี่แม้ว” ถอยโคตรเหง้าจากการเมือง มาบทเดิมไม่ตึดติดตำแหน่ง ขอให้ยึดกติกา ชี้ชาติเสียหาย ศก.กระทบแยะ เผยไม่มีเลือกตั้งทำงบฯช้าไป 6 เดือน มีผลการลงทุนถึงปีหน้า อ้างไม่อยู่ในภาวะตั้งเงื่อนไขต่อกัน อยากเห็นหลุดพ้นปัญหา เตรียมเข้า AEC ชี้ต่างคนต่างพูดเป็นปัญหา ต้องถาม ปชช.ด้วยการเลือกตั้ง ฉะ “สุเทพ” ขัดขวางมีแต่ถอยหลัง วอนยึดชาติอย่ามุ่งขัดแย้ง ปัดขอเข้าเฝ้าฯ ไม่ไปต่างประเทศ
วันนี้ (22 เม.ย.) ที่องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) จ.ปทุมธานี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ส่งสัญญาณนายกรัฐมนตรีและคนตระกูลชินวัตรวางมือทางการเมืองถ้ากระบวนการต่างๆ เป็นไปด้วยความยุติธรรมว่า ไม่ได้คุย ผู้สื่อข่าวถามว่าเบื้องต้นจะเว้นวรรคทางการเมืองหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า อย่างที่เรียนว่ายังไม่ได้คุย ส่วนตัวไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่งหน้าที่ เราได้เคยเรียนกับประชาชนแล้ว สิ่งที่เราอยากเห็นคือทำอย่างไรให้ประเทศชาติสงบ ทุกคนรักษากติกา และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประเทศไทย ตรงนี้ต่างหากที่เราอยากเห็นและเรายินดีให้ความร่วมมือ
เมื่อถามว่า หลังจากมีข่าวเว้นวรรคทางการเมือง คนใกล้ชิดและคนในพรรคเพื่อไทยได้สอบถามอย่างไรบ้างหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ยังไม่ได้ถาม ตนเองเคยกล่าวอยู่แล้วว่าเราไม่ได้ยึด และอะไรที่เป็นความต้องของประชาชนโดยส่วนใหญ่ อะไรที่เราจะทำให้ประเทศชาติสงบได้ เราก็ยินดี วันนี้เราอยากเห็นบ้านเมืองของเรากลับเข้าสู่กติกา ทุกคนเคารพกติกา และให้ทุกอย่างเดินได้ เราเจ็บปวดมามากพอแล้ว ประเทศชาติของเราเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ ความเชื่อมั่นของนักลงทุน จากที่ตนได้ประชุมกับสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และหน่วยงานทางด้านเศรษฐกิจและการคลัง ก็เห็นตัวเลขปี 2557 ซึ่งมีผลกระทบเยอะ และถ้าระยะยาวเราไม่มีการเลือกตั้ง ไม่มีรัฐบาลใหม่เข้ามา จะเห็นว่าทำให้การอนุมัติงบประมาณล่าช้าไปกว่า 6 เดือนแล้ว ซึ่งจะมีผลกับโครงการในการลงทุนใหม่ ทำให้เห็นผลในเรื่องเศรษฐกิจของปี 2558 ด้วยซ้ำไป และนี่คือประเด็นที่เป็นห่วง
เมื่อถามว่า เคยคิดจะเว้นวรรคทางการเมืองหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เรียนแล้วว่าไม่ได้ยึดติด ถ้าอะไรเป็นความต้องการของประเทศ แต่ที่สำคัญสิ่งนั้นต้องนำมาซึ่งความสงบ และสิ่งที่ต้องนำมาซึ่งกติกาที่ทุกคนยอมรับ และขอให้ทุกคนเคารพในกติกา เมื่อถามอีกว่า จะประกาศเลย หรือจะตั้งให้เป็นเงื่อนไข เพื่อนำไปสู่การพูดคุยกับอีกฝ่ายหนึ่ง นายกฯ กล่าวว่า ตนเองไม่มีเงื่อนไขใดๆ และไม่ได้อยู่ในสภาวะที่เราจะมาตั้งเงื่อนไขซึ่งกันและกัน ถ้าวันนี้เรามีทิฐิต่อกันและเราตั้งเงื่อนไข ประเทศเราและประชาชนคนไทยจะเจ็บปวด แต่สิ่งที่เราอยากเห็นคือ เราจะนำประเทศของเราให้พ้นวังวนของปัญหาต่างๆ นี้อย่างไรมากกว่า หลายประเทศก็รอในการสร้างความเชื่อมั่น ปีหน้าจะเป็นปีที่เราจะก้าวสู่ประชาคมอาเซียน แล้วเราจะยืนอยู่ในระดับแนวหน้าของกลุ่มประเทศอาเซียนได้อย่างไร เมื่อประเทศไทยไม่มีแม้การเลือกตั้ง จะไม่มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง วันนี้สมาชิกวุฒิสภา หรือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ยังไม่เรียบร้อย ทั้งหมดนี้เราจะไปบอกคนอื่นได้อย่างไร จะสร้างความเชื่อมั่นกับต่างประเทศอย่างไร นี่คือผลที่สะท้อนให้เห็นว่าถ้าเราไม่กลับเข้าสู่กติกา สิ่งที่มีผลกระทบจะไม่ใช่ที่เราเห็นในปีนี้ แต่จะเป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นในปีหน้าด้วยซ้ำไป
นายกฯ กล่าวต่อว่า เราเองอยากขอความร่วมมืออยากให้ทุกคนหันหน้าเข้าหากันในการแก้ไขปัญหาด้วยกติกา แต่ละฝ่ายก็มีประชาชน แต่ถามว่าเราจะรู้ได้อย่างไรว่าประชาชนส่วนใหญ่ต้องการอย่างไร นั่นคือเราต้องถามประชาชน เพราะอำนาจอธิปไตยของประชาชน ทุกคนมีสิทธิหนึ่งสิทธิหนึ่งเสียงเท่ากัน ฉะนั้นสิ่งที่จะได้มาซึ่งการเคารพเสียงส่วนใหญ่คือการใช้กติกาที่ทุกคนยอมรับ วันนี้เท่าที่เราเห็นคือการเลือกตั้งหรือประชามติหรืออย่างไร ที่จะทำให้ทุกคนยอมรับผล หากต่างคนต่างพูดก็จะเป็นปัญหาอยู่อย่างนี้ทำให้ประเทศล่าช้า
เมื่อถามว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.ได้ประกาศว่าจะขัดขวางการเลือกตั้ง น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ต้องถามว่าถ้าเรารักประเทศ แล้วเราขัดขวางกันทุกวันและประเทศเราจะไปอย่างไร เราจะมีแต่ถอยหลังลงทุกวัน เมื่อถามว่า มองว่าปัญหาการเมืองวันนี้เล่นกันแรงเกินไปหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ทุกคนพยายามที่จะยึดเอาตัวตน ตัวบุคคล แต่ต้องยึดเอาประเทศเป็นที่ตั้ง และทุกคนพยายามที่จะทำให้ประเทศเดินไปข้างหน้าได้ ปรับกันคนละนิดคนละหน่อย แต่ถ้าทุกคนตั้งมั่นที่จะขัดแย้งกันตลอดเวลาแล้วเราจะก้าวไปสู่จุดมุ่งหมายให้ประเทศหลุดพ้นปัญหาความวุ่นวายทางด้านสถานการณ์การเมืองนี้อย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯได้ประสานขอเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อถวายรายงานประจำเดือนเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ รัฐบาลก็ทำหน้าที่ไป เมื่อถามว่าช่วงนี้จะมีเดินทางไปปฎิบัติภารกิจในต่างประเทศหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ช่วงนี้จะไม่เดินทางไปปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ