xs
xsm
sm
md
lg

“สมศักดิ์ เจียมฯ-นิธิ” โผล่เปิดตัวพรรค “คนธรรมดาฯ” ชูนโยบายแก้ ม.112

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บรรยากาศการแถลงข่าวเปิดตัว พรรคคนธรรมดาแห่งประเทศไทย วานนี้(20 เม.ย.)
“นิธิ-สมศักดิ์ เจียมฯ” พร้อมนักวิชาการเสื้อแดงที่ผิดหวัง “เพื่อไทย” แห่ร่วมเปิดตัวพรรค“คนธรรมดาแห่งประเทศไทย” อดีตมือขวา “สมศักดิ์ เทพสุทิน” นั่งหัวหน้าฯ ชูนโยบายแก้ ม.112 อ้างเพื่อปกป้องสถาบัน พร้อมยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ล้างผลพวงรัฐประหาร

วานนี้ (20 เม.ย. 57) มีการแถลงข่าวเปิดตัวพรรคคนธรรมดาแห่งประเทศไทย (คธท.) หรือ CPT ซึ่งได้จดทะเบียนพรรคขึ้นใหม่เมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา มีนายธนพร ศรียากูล เป็นหัวหน้าพรรค น.ส.มณีรัตน์ มิตรปราสาท เป็นเลขาธิการพรรค และนายบรรณกร จันทรทิณ เป็นผู้อำนวยการพรรค

ผู้สื่อข่าว “ASTVผู้จัดการ” ตรวจสอบพบว่า นายธนพร ศรียากูล เป็นอดีตรองหัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี จากคดียุบพรรคเมื่อปี 2551 มีประสบการณ์ทำงานการเมืองใกล้ชิดกับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน และนางพรทิวา นาคาศัย ตั้งแต่ปี 2544 จนกระทั่งถูกตัดสิทธิทางการเมือง

ระหว่างการถูกตัดสิทธิ นายธนพรเป็นอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร และนายกสมาคมรัฐศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หลังจากนั้นเป็นที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์ สมัยนางพรทิวา นาคาศัย เป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โดยนางพรทิวาเข้าสังกัดพรรคภูมิใจไทย ซึ่งต่อมานายธนพรเกิดความขัดแย้งขั้นแตกหักกับพรรคภูมิใจไทย เพราะเคยเสนอให้ถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาลอภิสิทธิ์เนื่องจากไม่เห็นด้วยกับการสลายการชุมนุมคนเสื้อแดงปี 2553 และประกาศจะจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาใหม่ มีนโยบายแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 309 ล้างผลพวงรัฐประหาร, แก้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, จัดเก็บภาษีมรดกและภาษีกำไรในตลาดหุ้น

นอกจากนี้ยังพบว่า ในการแถลงข่าวเปิดตัวพรรคคนธรรมดาแห่งประเทศไทย มีนักวิชาการมาร่วมแสดงความคิดเห็น เช่น นายนิธิ เอียวศรีวงศ์ นักวิชาการอาวุโส, นายสุธาชัย ยิ้มประเสริฐ อาจารย์ประจำคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, นายประภาส ปิ่นตบแต่ง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, นายชยงการ ภมรมาศ อาจารย์คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร, นายสิโรฒน์ แวปาโอะ เครือข่ายการแก้ไขปัญหาที่ดินและที่อยู่อาศัยเทือกเขาบูโด, นายชัชวาล พิศดำขำ มูลนิธิห้วยขาแข้ง และมูลนิธิสืบนาคะเสถียร และนางวิภา ดาวมณี มูลนิธิวีรชนประชาธิปไตย

รวมทั้งยังมีนักวิชาการแนวร่วมเสื้อแดงที่ผิดหวังจากพรรคเพื่อไทยหลายคนมาร่วมงาน เช่น นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล เลขาธิการสมาพันธ์นักเรียนไทยเพื่อการปฏิวัติระบบการศึกษาไทย

สำหรับนโยบายหลักด้านการเมืองพรรคคนธรรมดาแห่งประเทศไทย ประกอบด้วย นโยบายด้านการเมือง จะปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ บั่นเงื่อนไขความขัดแย้ง ซึ่งเรารักสถาบันฯ แน่วแน่ ร่วมกันแก้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เพื่อปกป้องสถาบันฯ อย่างยั่งยืน ไม่ให้ถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง นอกจากนี้ จะการออกกฎหมายนิรโทษกรรมประชาชนทุกฝ่ายที่ถูกดำเนินคดีเนื่องมาจากความขัดแย้งทางการเมืองเพื่อลดปริมาณผู้รับผลกระทบ โดยไม่รวมถึงผู้สั่งการและแกนนำ รวมทั้งเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญที่จะให้มีการลงประชามติยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับเพื่อล้างผลพวงการรัฐประหาร

ก่อนหน้านี้ เว็บไซต์ประชาไทเคยเผยแพร่คำให้สัมภาษณ์ของนายธนพร ถึงที่มาของการชูนโยบายแก้มาตรา 112 ว่า ตั้งแต่หลังรัฐประหารปี 2549 สถิติคดี 112 มีจำนวนคดีเพิ่มสูงขึ้น เพราะกฎหมายนี้ถูกนำไปใช้ทางการเมือง โดยที่ตัวสถาบันไม่สามารถโต้ตอบอะไรได้ เรามักจะเห็นการอ้างสถาบัน เมื่อประชาชนจะใช้สิทธิเสรีภาพ เช่น การอ้างเรื่องเขตพระราชฐาน ทำให้คนรู้สึกว่า มีความไม่ใช่คนธรรมดาเกิดขึ้น คือนำเรื่องนี้มาเป็นเครื่องมือในการจำกัดความเป็นคนธรรมดา ซึ่งถ้าปล่อยภาวะนี้ไว้เรื่อยๆ จะเกิดเป็นปัญหาเรื้อรัง สถาบันอยู่ในสถานะที่ทุกคนเคารพสักการะ แต่สถาบันไม่อยู่ในฐานะที่จะตอบโต้อะไรได้ การปล่อยให้ฝ่ายใดก็ตามหยิบยืมเรื่องสถาบันมาใช้ย่อมเป็นอันตราย

สำหรับแนวทางการแก้ไขมาตรา 112 ของพรรคนั้น นายธนพรกล่าวว่า การยกเลิกมาตรา 112 ไปเลยก็เป็นทางเลือกหนึ่งของการแก้ไข อีกทางเลือกหนึ่งคือการสร้างเกณฑ์ในการฟ้องคดีให้ชัดขึ้น อาจจะให้มีองค์กรเฉพาะ เช่น สำนักพระราชวัง มาทำหน้าที่แจ้งความเท่านั้น แทนที่จะเป็นใครก็ได้แจ้งความได้ นอกจากนี้ควรแยกความผิดต่อสถาบันออกจากความผิดต่อรัฐให้ชัดเจน และแยกความมั่นคงของสถาบันออกจากความมั่นคงของรัฐ หลังจากนั้นความผิดฐานหมิ่นกษัตริย์อาจถือเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท แต่ในฐานะที่กษัตริย์นั้นเป็นประมุขของประเทศ ก็อาจมีบทลงโทษรุนแรงกว่าการหมิ่นประมาทบุคคลทั่วไป

นายธนพรบอกอีกว่า หากการเสนอแก้ไขหรือยกเลิกมาตรา 112 ถูกกล่าวหาว่าเป็นพวกล้มเจ้า ก็กล่าวหาไป การกระทำของเราจะเป็นเครื่องพิสูจน์ ตนไม่เห็นว่าการแก้ไขมาตรา 112 จะเกี่ยวกับการล้มสถาบันตรงไหน เพราะสถาบันกษัตริย์ก็อยู่คู่กับประเทศไทยมานานแล้วและคงจะอยู่ต่อไปเรื่อยๆ

ส่วนจุดยืนต่อการนิรโทษกรรมนั้น นายธนพรกล่าวว่า ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 309 เพื่อลบล้างผลพวงของการรัฐประหาร และนำทุกฝ่ายเข้าสู่กระบวนการการพิสูจน์ความจริงตามปกติ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ จะต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามปกติ ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรนั้นก็เข้าข่ายมาตรา 309 ซึ่งไม่ได้หมายความว่าเราต้องการล้างผิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่เราต้องการให้ พ.ต.ท.ทักษิณเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมปกติ เป็นการ set zero (เริ่มนับศูนย์ใหม่) ให้ทุกฝ่ายได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียบในกระบวนการยุติธรรม
กำลังโหลดความคิดเห็น