“ยิ่งลักษณ์” อ้างมาตรา 7 ยังเห็นแตกต่างกันอยู่ ขอศึกษาก่อน แนะปฏิบัติตามข้อกฎหมาย เตรียมส่งรองนายกฯ ทำหน้าที่แทน เชื่อไม่มีสุญญากาศการเมือง รับส่งคำแจงศาล รธน. บางส่วนแล้ว ขอรอผลอนุญาตให้ขยายเวลาหรือไม่ - โยน 3 เลขาฯ คุยเปิดประชุมวุฒิสภา
วันนี้ (18 เม.ย.) ที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เมืองทองธานี เมื่อเวลา 16.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงข้อเสนอของนายชัยเกษม นิติสิริ รักษาการ รมว.ยุติธรรม ที่เสนอให้มีการทูลเกล้าฯให้มีพระบรมราชวินิจฉัยสถานภาพการเป็นรัฐบาลรักษาการ ตามมาตรา 7 หากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้พ้นสภาพจากการแต่งตั้งโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ว่า ตนมองว่าเรื่องของมาตรา 7 เป็นเรื่องความคิดเห็นจากหลายภาคส่วน ในแง่ของข้อกฎหมายยังมีความคิดเห็นที่แตกต่าง คงต้องรอในเรื่องของความชัดเจน แต่อย่างไรก็ตามอะไรที่เราจะดำเนินการต้องเป็นไปตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ เมื่อถามว่า ส่วนตัวมองว่าทำได้หรือไม่ นายกฯ ตอบว่า ยังมีความเห็นที่แตกต่างกันอยู่ คงต้องขอให้ศึกษาก่อน
เมื่อถามว่า ความเห็นเรื่องมาตรา 7 จากหลายฝ่ายทั้งคณะรัฐบุคคล หรือของ กปปส. จะสามารถทำได้เป็นจริงหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ทุกอย่างต้องปฏิบัติตามข้อกฎหมาย หรือเป็นไปตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ หลายๆ คนก็มีความคิดเห็น แต่เนื่องจากความคิดเห็นก็มีความหลากหลาย ซึ่งยังไม่เป็นข้อสรุป คงต้องให้ฝ่ายที่รู้ข้อกฎหมาย หาข้อสรุปให้เป็นที่ยุติก่อน เมื่อถามว่า ทาง กปปส. มองว่าจะเป็นการก้าวล่วงพระราชอำนาจ นายกฯ กล่าวว่า จริงๆ แล้วทุกอย่างต้องเรียนว่า ไม่ใช่จะวิธีไหนก็มีข้อถกเถียงกันทั้งนั้น ถ้าเราปฏิบัติตามขั้นตอนของข้อกฎหมายน่าจะเป็นสิ่งที่ดีกว่า และทุกอย่างในแง่ของข้อกฎหมายก็มีทางออกอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลเตรียมทางออกอย่างไรบ้าง ในกรณีที่นายกฯอาจจะพ้นสภาพ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ตามหลักมีขั้นตอนอยู่แล้ว ในกรณีที่เราอาจไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ก็มีรองนายกฯ ท่านอื่นที่จะปฏิบัติหน้าที่ต่อไปอยู่แล้ว เพราะตำแหน่งนายกฯ มีผู้ที่รักษาการ หรือผู้ที่มาปฏิบัติหน้าที่ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล เมื่อถามว่ายืนยันไม่เกิดสุญญากาศทางการเมืองใช่หรือไม่ นายกฯ ตอบว่า ถ้าตามหลักของกฎหมายไม่มีสุญญากาศทางการเมือง เพราะข้อกฎหมายด้วยตำแหน่งผู้ที่เป็นหัวหน้ารัฐบาลต้องเป็นตำแหน่งที่ต้องรักษาการและต้องปฏิบัติ และอย่างที่เรียนตนเองมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตาม จะเห็นว่าไม่ว่าจะเป็นหน่วยราชการ ตำแหน่งสำคัญๆ บทบัญญัติของกฎหมายก็มีข้อที่ให้ไว้อยู่แล้วว่า จะต้องมีผู้เข้ามาทำงาน ตำแหน่งสำคัญว่างเว้นไม่ได้
เมื่อถามว่า ได้ให้ทนายส่งเอกสารคำชี้แจงไปยังศาลรัฐธรรมนูญไปบางส่วนใช่แล้วหรือไม่ นายกฯ ตอบว่า ได้ส่งคำชี้แจงไปบางส่วนแล้ว และยังขอขยายเวลาชี้แจงออกไปอีก 15 วัน และขอให้มีการสอบพยานเพิ่มเติมด้วย เมื่อถามว่า ยังหวังจะได้รับความเป็นธรรม จากองค์กรอิสระหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ก็คงต้องรอ เพราะทราบว่าทางศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาในวันที่ 23 เม.ย. คงต้องรอผลก่อน
เมื่อถามว่า ทาง ศอ.รส. เป็นห่วงว่า คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ จะทำให้เกิดเผชิญหน้าคู่ขัดแย้งทั้ง 2 ฝ่าย นายกฯ กล่าวว่า ทุกคนต้องมองในแง่ของความมั่นคง และความปลอดภัยของประชาชน เราไม่อยากให้เหตุการณ์อะไรก็ตาม ที่มาทำให้ปัญหาความไม่สงบเกิดขึ้น เพราะเราเองอยากให้ประชาชนได้ใช้ชีวิตได้เป็นปกติ ไม่มีความรุนแรง และมีความปลอดภัย
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวถึงการขอให้รัฐบาลนำเรื่องขึ้นทูลเกล้าฯ ออก พ.ร.ฎ. เปิดประชุมวุฒิสภาสมัยวิสามัญว่า เนื่องจากเป็นเรื่องที่มีหลายหน่วยงานเกี่ยวข้อง จึงได้มอบหมายให้เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เลขาธิการคณะรัฐมนตรี และต้องไปหาร่วมกับเลขาธิการวุฒิสภาด้วย คงต้องรอข้อสรุปก่อน