โจกแดงหน้าศาลโวยจุฬาฯเลิกจ้างสอนอักษร จ่ออุทธรณ์แน่ สับ กม.อำมาตย์ไม่เป็นธรรม

“สุดา” โวยจุฬาฯตัดสินล่วงหน้าประเมินผลงานปานกลางไม่สามารถพัฒนาได้ เชื่อเหตุเคลื่อนไหวการเมืองทำตกงาน เล็งอุทธรณ์ต่อสัญญาแน่ จวก พ.ร.บ.ม.นอกระบบต้นตอบรรทัดฐานจ้างงานไม่เป็นธรรม จวกทีอาจารย์ในระบบได้ต่ออายุอันลิมิต โพสต์เฟซบุ๊กโทษผลพวงรัฐประหาร ปธ.กก.ร้านภูฟ้า, “จรัญ” และพวกอำมาตย์อำมหิต

วานนี้ (16 เม.ย.) เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ข่าวสด ได้สัมภาษณ์ น.ส.สุดา รังกุพันธ์ อดีตอาจารย์คณะอักษรศาสตร์ จุุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และแกนนำคนเสื้อแดงกลุ่มปฏิญญาหน้าศาล ถึงกรณีที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเลิกต่อสัญญาจ้างในตำแหน่งอาจารย์ โดยระบุว่าคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ไม่ต่อสัญญาจ้างพนักงาน (หมวดเงินอุดหนุน) ของตน ซึ่งหมดสัญญาไปเมื่อวันที่ 31 มี.ค. โดยให้เหตุผลว่าผลการประเมินของตนอยู่ในระดับปานกลาง และคาดว่าจะเป็นเช่นนี้ในการประเมินครั้งต่อไป ซึ่งถือเป็นการตัดสินตนล่วงหน้าว่า ตนจะไม่สามารถปรับปรุงผลการปฏิบัติงานให้ดีขึ้นได้

ทั้งนี้ แม้ว่าเหตุผลทางการเมืองจะไม่ถูกระบุไว้ในเหตุผล แต่ก่อนหน้าที่จะมีการแจ้งไม่ต่อสัญญา ก็มีสัญญาณบางอย่างที่ไม่ดี คือ ผู้บริหารแจ้งตนมาว่าอธิการบดีถูกกรรมาธิการวิสามัญวุฒิสภาเรียกเข้าไปสอบสวน โดยอ้างถึงกรณีที่ตนไปเล่นงิ้วธรรมศาสตร์ ร่วมกับอีกหลายคน ในงานรำลึกเหตุการณ์ 14 ต.ค. อย่างไรก็ตาม ตนยังไม่ได้รับแจ้งเป็นหนังสือจากสภามหาวิทยาลัยว่าจะเลิกจ้าง แต่ทราบจากทางคณะอักษรศาสตร์ว่า คณะกรรมการพิจารณาต่อสัญญาไม่ต่อสัญญาจ้างงานเท่านั้น

น.ส.สุดา กล่าวต่อว่า หลังจากนี้จะทำเรื่องอุทธรณ์เรื่องการต่อสัญญา เพราะอยากเห็นความเป็นธรรมในระบบการจ้างงานในมหาวิทยาลัย ที่ผ่านมา ตนมองว่ามีบรรทัดฐานการจ้างงานพนักงานในมหาวิทยาลัยที่ถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมมาโดยตลอด ซึ่งเป็นผลมาจาก พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยออกนอกระบบ ในสมัยสภาที่แต่งตั้งโดยคณะรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2549 โดยกรณีที่หนักกว่าของตน คือ การจ้างอาจารย์เป็นรายโครงการ หรือการจ้างงานแบบเอาต์ซอร์ส ขณะที่อาจารย์ระดับสูงในระบบราชการ สามารถต่ออายุการจ้างงานของตัวเองต่อไปได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ได้ทั้งเงินเกษียณอายุ เงินบำนาญ และเงินเพิ่มจากการเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยด้วย หลังจากนี้ ตนตั้งใจจะสานงานต่อเรื่องสิทธิมนุษยชนของนักโทษการเมืองต่อไป

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ น.ส.สุดา ได้เขียนข้อความผ่านเว็บไซต์เฟซบุ๊ก Suda Rangkupan ระบุว่า ขออนุญาตเป็นโพสต์สั้นๆ พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าตรู่ ตกงาน แต่ไม่ว่างงาน ขอบคุณอีกครั้ง สำหรับกำลังใจ ข่าวสดโทร. มาสัมภาษณ์เมื่อตอนบ่าย รายละเอียดเรื่องความไม่เป็นธรรมในการที่คณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ ไม่ต่อสัญญา ที่จริงตนก็เคยคิดว่าเราจะเดินออกมาเงียบๆ โดยไม่เหลียวหลัง แต่ก็เหนื่อยที่จะต้องแก้ไขกับทีละท่านที่พูดถึงตนว่าเป็น อจ.จุฬาฯ การเปิดประเด็นนี้สู่สาธารณะ ย่อมหมายถึงการพร้อมจะไปอธิบายรายละเอียด หรือพร้อมถูกตรวจสอบโดยสังคมมากขึ้น

น.ส.สุดา เขียนต่อว่า ก็เตรียมใจไว้ล่วงหน้า เราไม่ใช่คนสมบูรณ์แบบ มีข้อดีข้อเสีย แต่เราทุกคนก็ต้องการความเป็นธรรม ตนรู้ดีพอควรถึงความไม่เป็นธรรมของ พ.ร.บ.จุฬาฯ นี้ ที่ผ่านเป็นกฎหมายโดยสภาเถื่อน ของคณะรัฐประหาร 49 ด้วยน้ำมือของคุณหญิงสุชาดา กีระนันท์ ที่สมัยนั้นเป็นอธิการบดี และ ณ วันนี้ เป็นนายกสภามหาลัย ควบตำแหน่งประธานกรรมการ “ร้านภูฟ้า” มันเป็นกฎหมายที่ผ่านในยุคโจร ตนร่วมคัดค้าน พ.ร.บ. นี้ และครั้งนั้นจึงอ่าน พ.
ร.บ. ทะลุทะลวง จนเมื่อผ่านแล้ว ตนก็มาอยู่ในสภาคณาจารย์ ร่วมชำแหละ กม. ลูก ของ พ.ร.บ. นี้ต่อ เห็นปัญหาความอยุติธรรมมาโดยตลอด เชื่อว่ามันได้ทำร้ายบุคลากรมากมายมาแล้ว และวันนี้มันก็ถึงคิวตน

“ตอนออกนอกระบบใหม่ๆ รปภ. คนหนึ่ง ได้มาหาดิฉัน เพราะเราคุยทักทายกัน เขารู้ว่าดิฉันอยู่สภาคณาจารย์ เขาขอให้ดิฉันช่วยให้เขาไม่ต้องถูกเปลี่ยนเป็นพนักงาน “แม่ผมป่วย ถ้าเป็นพนักงาน ผมจะเอาเงินที่ไหนรักษาแม่” เขาร้องไห้ ดิฉันแทบจะไม่เคยเห็นผู้ชายวัยกลางคนเช่นนั้นร้องไห้อย่างเจ็บปวดปนวิตก นายจรัญ ภักดีธนากุล เป็นประธานคณะ กก. รับฟังความคิดเห็น พ.ร.บ. ออกนอกระบบ ของจุฬาฯ ความจอมปลอม ความตลบแตลง ความใจดำอำมหิต และความขี้ขลาด ของอำมาตย์ ที่เก่งเอาเปรียบแต่กับคนตัวเล็กๆ คือสิ่งที่น่าชิงชัง ไม่รู้ว่าต้องสังเวยกันอีกเท่าไหร่ สังคมไทย ทุกภาคส่วน จึงจะมีความเป็นธรร มแต่เราผู้ยังมีแรงก็คงต้องต่อสู้ต่อไป ...ขอบคุณทุกพลังใจที่มาเสริมเติมต่อให้กันและกันค่ะ สู้ค่ะ” น.ส.สุดา ระบุ

ทั้งนี้่ น.ส.สุดา นอกจากจะเป็นแกนนำกลุ่มปฏิญญาหน้าศาลแล้ว ยังจัดรายการผ่านสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเชียอัปเดตด้วย