โฆษก ทอ.แจงตำรวจปราบปรามยาเสพติดจับทหารยศ “เรืออากาศตรี” ค้ายาบ้าไม่ได้อยู่ในกองบิน 41 ตรวจสอบพบอยู่สังกัดกองทัพไทย
วันนี้ (12 เม.ย.) พล.อ.ท.มณฑล สัชฌุกร โฆษกกองทัพอากาศ กล่าวถึงกรณีมีการนำเสนอข่าวว่า กองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ได้จับกุมยาบ้าล็อตใหญ่ และมี ร.ต.อนุวัฒน์ ดีนา อายุ 55 ปี สังกัดกองบิน 41 จ.เชียงใหม่ ร่วมกระทำผิดด้วย ว่าจากการตรวจสอบแล้วพบว่า ร.ต.อนุวัฒน์ไม่ได้เป็นข้าราชการสังกัดกองบิน 41 หรืออยู่ในส่วนราชการของกองทัพอากาศแต่อย่างใด
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบของผู้สื่อข่าวพบว่า ร.ต.อนุวัฒน์ ผู้ต้องหา สังกัดกองบัญชาการกองทัพไทย
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 11 เม.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผอ.ศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติ พร้อม พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี พล.ต.ท.สุรพล ทวนทอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.พุทธชาติ เอกฉันท์ รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง ผบก.ปส.3 ร่วมแถลงจับกุม นายวีระภาพ แซ่หลี่ อายุ 22 ปี น.ส.จันทร์จิรา อภิรัตนชัย อายุ 26 ปี นายอิทธิพล มุ่งน้อย อายุ 24 ปี ร.ต.อนุวัฒน์ นายบัณฑิต อัศวเดชฤทธิ์ อายุ 33 ปี และนายลิฟู แซ่หลี่ อายุ 34 ปี พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 1,250,000 เม็ด รถเก๋งฮอนด้า รุ่นซีวิค สีขาว ทะเบียน ชร 5856 กทม. รถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ ทะเบียน ผล 3645 เชียงใหม่ รถบรรทุก (หัวลาก) 10 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทะเบียน 70-6368 เชียงใหม่ อาวุธปืนพกสั้นชนิดกึ่งออโตเมติก ยี่ห้อซีเเซด ขนาด 9 มม. เลขทะเบียน กท.56223001 จำนวน 1 กระบอก บรรจุกระสุนขนาด 9 มม.จำนวน 14 นัด ในซองกระสุน (แมกกาซีน) จำนวน 1 ซอง อาวุธปืนพกสั้นชนิดกึ่งออโตเมติก ยี่ห้อบาเร็ตต้า ขนาด 9 มม. หมายเลขทะเบียน กท.287305 จำนวน 1 กระบอก บรรจุกระสุนขนาด 9 มม. จำนวน 14 นัด ในซองแมกกาซีน จำนวน 1 ซอง ปืนทั้ง 2 กระบอกเป็นปืนถูกกฎหมายของ ร.ต.อนุวัฒน์ เเละนายบัณฑิต และโทรศัพท์มือถือ 10 เครื่อง
พล.ต.ท.สุรพลกล่าวว่า สืบเนื่องจากสายลับแจ้งว่านายบัณฑิตรับหน้าที่เป็นผู้ขับรถบรรทุกลำเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือลงมายังพื้นที่ อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เเละ ร.ต.อนุวัฒน์ เเละนางสาวจันทร์จิราจะเดินทางมาโดยเครื่องบิน จาก จ.เชียงราย มายังสนามบินดอนเมือง โดยมีนายวีระภาพ และนายลิฟู ไปรอรับที่สนามบินดังกล่าว จากนั้นนายอิทธิพลจะเป็นผู้ขับรถฮอนด้าซีวิค มาส่งมอบให้นายวีระภาพเพื่อขับไปรับยาบ้าจากรถบรรทุก โดยมี ร.ต.อนุวัฒน์ขับรถกระบะคุ้มกันให้ เจ้าหน้าที่จึงรอให้ผู้ต้องหาทั้งหมดกระทำการเสร็จสิ้นตามที่วางแผนไว้ กระทั่งนายอิทธิพลได้รับยาบ้าจากนายวีระภาพเเล้ว เจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุมตัวทั้งหมดไว้ทันที
จากการสอบสวนเบื้องต้นทั้ง 6 คนยังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะเน้นสอบสวนนายอิทธิพลมากที่สุด เนื่องจากเป็นผู้ขนส่งต่อไปยังผู้ค้าใน กทม.ต่อไป โดยจากการตรวจสอบพบว่าการรับจ้างในการขนลำเลียงต่อครั้งจะได้ราคาเม็ดละ 4-6 บาท เเละจะนำไปขายต่อในราคา 100-120 บาท เเต่ช่วงหลังสารตั้งต้นในการผลิตยาบ้ามีจำนวนมากขึ้น ดังนั้นราคาขายปลีกต่อเม็ดจึงลดลงอยู่ที่ประมาณ 70-80 บาท สำหรับการตรวจสอบหีบห่อยาบ้าล็อตนี้พบว่ามีสัญลักษณ์เป็นเลข 999 ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นกลุ่มเดียวกับนายจงอย ซึ่งเป็นพ่อค้าชาวมูเซอในประเทศพม่า
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เเจ้งข้อหาทั้ง 6 คน ว่าร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน หรือยาบ้า) ไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต เเละ ร.ต.อนุวัฒน์ และนายบัณฑิตถูกตั้งข้อหาเพิ่ม คือ พกพานำพา อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีเหตุอันควร ก่อนนำตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. ดำเนินคดีต่อไป ในกรณีของ ร.ต.อนุวัฒน์ซึ่งเป็นทหารอากาศนั้น เจ้าหน้าที่จะประสานไปยังผู้บังคับบัญชามารับตัวไปดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (12 เม.ย.) พล.อ.ท.มณฑล สัชฌุกร โฆษกกองทัพอากาศ กล่าวถึงกรณีมีการนำเสนอข่าวว่า กองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ได้จับกุมยาบ้าล็อตใหญ่ และมี ร.ต.อนุวัฒน์ ดีนา อายุ 55 ปี สังกัดกองบิน 41 จ.เชียงใหม่ ร่วมกระทำผิดด้วย ว่าจากการตรวจสอบแล้วพบว่า ร.ต.อนุวัฒน์ไม่ได้เป็นข้าราชการสังกัดกองบิน 41 หรืออยู่ในส่วนราชการของกองทัพอากาศแต่อย่างใด
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบของผู้สื่อข่าวพบว่า ร.ต.อนุวัฒน์ ผู้ต้องหา สังกัดกองบัญชาการกองทัพไทย
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 11 เม.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผอ.ศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติ พร้อม พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี พล.ต.ท.สุรพล ทวนทอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.พุทธชาติ เอกฉันท์ รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง ผบก.ปส.3 ร่วมแถลงจับกุม นายวีระภาพ แซ่หลี่ อายุ 22 ปี น.ส.จันทร์จิรา อภิรัตนชัย อายุ 26 ปี นายอิทธิพล มุ่งน้อย อายุ 24 ปี ร.ต.อนุวัฒน์ นายบัณฑิต อัศวเดชฤทธิ์ อายุ 33 ปี และนายลิฟู แซ่หลี่ อายุ 34 ปี พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 1,250,000 เม็ด รถเก๋งฮอนด้า รุ่นซีวิค สีขาว ทะเบียน ชร 5856 กทม. รถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ ทะเบียน ผล 3645 เชียงใหม่ รถบรรทุก (หัวลาก) 10 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทะเบียน 70-6368 เชียงใหม่ อาวุธปืนพกสั้นชนิดกึ่งออโตเมติก ยี่ห้อซีเเซด ขนาด 9 มม. เลขทะเบียน กท.56223001 จำนวน 1 กระบอก บรรจุกระสุนขนาด 9 มม.จำนวน 14 นัด ในซองกระสุน (แมกกาซีน) จำนวน 1 ซอง อาวุธปืนพกสั้นชนิดกึ่งออโตเมติก ยี่ห้อบาเร็ตต้า ขนาด 9 มม. หมายเลขทะเบียน กท.287305 จำนวน 1 กระบอก บรรจุกระสุนขนาด 9 มม. จำนวน 14 นัด ในซองแมกกาซีน จำนวน 1 ซอง ปืนทั้ง 2 กระบอกเป็นปืนถูกกฎหมายของ ร.ต.อนุวัฒน์ เเละนายบัณฑิต และโทรศัพท์มือถือ 10 เครื่อง
พล.ต.ท.สุรพลกล่าวว่า สืบเนื่องจากสายลับแจ้งว่านายบัณฑิตรับหน้าที่เป็นผู้ขับรถบรรทุกลำเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือลงมายังพื้นที่ อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เเละ ร.ต.อนุวัฒน์ เเละนางสาวจันทร์จิราจะเดินทางมาโดยเครื่องบิน จาก จ.เชียงราย มายังสนามบินดอนเมือง โดยมีนายวีระภาพ และนายลิฟู ไปรอรับที่สนามบินดังกล่าว จากนั้นนายอิทธิพลจะเป็นผู้ขับรถฮอนด้าซีวิค มาส่งมอบให้นายวีระภาพเพื่อขับไปรับยาบ้าจากรถบรรทุก โดยมี ร.ต.อนุวัฒน์ขับรถกระบะคุ้มกันให้ เจ้าหน้าที่จึงรอให้ผู้ต้องหาทั้งหมดกระทำการเสร็จสิ้นตามที่วางแผนไว้ กระทั่งนายอิทธิพลได้รับยาบ้าจากนายวีระภาพเเล้ว เจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุมตัวทั้งหมดไว้ทันที
จากการสอบสวนเบื้องต้นทั้ง 6 คนยังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะเน้นสอบสวนนายอิทธิพลมากที่สุด เนื่องจากเป็นผู้ขนส่งต่อไปยังผู้ค้าใน กทม.ต่อไป โดยจากการตรวจสอบพบว่าการรับจ้างในการขนลำเลียงต่อครั้งจะได้ราคาเม็ดละ 4-6 บาท เเละจะนำไปขายต่อในราคา 100-120 บาท เเต่ช่วงหลังสารตั้งต้นในการผลิตยาบ้ามีจำนวนมากขึ้น ดังนั้นราคาขายปลีกต่อเม็ดจึงลดลงอยู่ที่ประมาณ 70-80 บาท สำหรับการตรวจสอบหีบห่อยาบ้าล็อตนี้พบว่ามีสัญลักษณ์เป็นเลข 999 ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นกลุ่มเดียวกับนายจงอย ซึ่งเป็นพ่อค้าชาวมูเซอในประเทศพม่า
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เเจ้งข้อหาทั้ง 6 คน ว่าร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน หรือยาบ้า) ไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต เเละ ร.ต.อนุวัฒน์ และนายบัณฑิตถูกตั้งข้อหาเพิ่ม คือ พกพานำพา อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีเหตุอันควร ก่อนนำตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. ดำเนินคดีต่อไป ในกรณีของ ร.ต.อนุวัฒน์ซึ่งเป็นทหารอากาศนั้น เจ้าหน้าที่จะประสานไปยังผู้บังคับบัญชามารับตัวไปดำเนินคดีต่อไป
