สืบสาแหรก “โกตี๋” ตัวจริงระบอบแม้ว

สะเก็ดไฟ

ชั่วโมงนี้ชื่อของ “โกตี๋ - วุฒิพงษ์ กชธรรมคุณ” หรือโกตี๋ แกนนำคนเสื้อแดงปทุมธานี ดังเป็นพลุแตกสมใจอยากปรารถนา หลังเพียรพยายามมานะสร้างวีรกรรม หวังให้ชื่อขึ้นชั้น “ดาวเสื้อแดง” เทียบชั้นกับพวกพี่ๆ ชาวสู้แล้วรวย

“โกตี๋” ใช้เวลาไม่นานสถาปนาตัวเองขึ้นเป็น “แดงฮาร์ดคอร์” เบอร์ต้นๆ โดยเฉพาะสมรภูมิแยกหลักสี่ เมื่อครั้งทีมงานคุณภาพของ “โกตี๋” ยกพลพร้อมเครื่องทุ่นแรงหลายขนานเข้าห้ำหั่นกับทัพ กปปส.แจ้งวัฒนะ

แม้ครั้งนั้น “โกตี๋” จะยอมถอยเก็บฉากไปก่อน เพราะโดน “มือปืนป๊อปคอร์น” ไล่บี้หนัก แต่บางกระแสระบุกันว่า มีโทรศัพท์ปริศนาจาก “บิ๊กตำรวจ” นายหนึ่งที่ “โกตี๋” เคารพนับถือขอให้ยอมถอยไปก่อนที่เหตุการณ์จะรุนแรงมากขึ้น

ซึ่ง “บิ๊กตำรวจ” ที่ “โกตี๋” เชิดชูคงหนีไม่พ้น “พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง” ผบช.น. หรือที่รู้จักกันดีในนาม “บิ๊กแจ๊ด” ผู้มากบารมี เจ้าของสโลแกน “มีวันนี้เพราะพี่ให้”

ดูได้จากเฟซบุ๊กของเจ้าตัวที่ใช้ชื่อว่า “โกตี๋ เรดการ์ด” ปรากฏรูป “โกตี๋” ยืนถ่ายชักภาพคู่กับ “บิ๊กแจ๊ด” ด้วยอาการยิ้มแย้มสนิทสนมกันอย่างดี ว่ากันว่าพี่น้องคู่นี้ซี้ย่ำปึ้กกันมาเมื่อสมัย “บิ๊กแจ๊ด” คุมภาค 1 แถมภูมิลำเนาบ้านเกิดก็อยู่ที่ จ.ปทุมธานี สนิทสนมกันง่ายขึ้น

หลังจาก “บิ๊กแจ๊ด” มาผงาดในนครบาล “โกตี๋” ก็เข้านอกออกใน บช.น.เหมือนเป็นบ้านหลังหนึ่ง

แล้วหากย้อนกลับไปในช่วงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงปี 2553 ในช่วงที่ “ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน” (ศอฉ.) มีคำสั่งให้ยึดการออกอากาศของสถานีดาวเทียมไทยคม ที่อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี

ฝั่ง ศอฉ.มี “พ.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์” ผบ.ร.11 รอ. (ยศขณะนั้น) เป็นคนคุมทหาร ฝั่ง “คนเสื้อแดง” มี “โกตี๋” เป็นแกนนำหลัก เพราะอยู่ในพื้นที่ปทุมธานีที่ “โกตี๋” รับผิดชอบอยู่ ซึ่งในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1 ขณะนั้น มี “บิ๊กแจ๊ด” เป็นคนคุมกำลังตำรวจเกือบทั้งหมดไปช่วยดูแลสถานการณ์ที่สถานีดาวเทียมไทยคมด้วย

แต่เหตุการณ์กลับกัน “ตำรวจ” ที่อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของ “บิ๊กแจ๊ด” ไม่ได้ช่วย “ทหาร” ในการรักษาพื้นที่สถานีดาวเทียมไทยคม แต่กลับช่วย “โกตี๋” นำกำลัง “คนเสื้อแดง” ยกพลถล่ม “ทหาร” ถึงขั้นไล่บี้จนมุม และออกคำสั่งห้ามใช้อาวุธ

ยังเคราะห์ดีที่ยังคุยกันได้ เคลียร์กันรู้เรื่อง “ทหาร” โดยเฉพาะ “ผู้การแดง” รอดมาได้จนถึงทุกวันนี้

ฉากที่มี “ตำรวจ” อย่าง “บิ๊กแจ๊ด” คอยแบ็กอัพ “คนเสื้อแดง” ยังคงติดตราตรึงใจ “ลูกบิ๊กจ๊อด” ซึ่งปัจจุบันขึ้นเป็น “ผบ.ร.1 รอ.” มาตลอด

ดูกันต่อถึงความสัมพันธ์ของพี่น้องแจ๊ด-ตี๋ หากใครติดตามการจัดรายการวิทยุของคนเสื้อแดงของ “โกตี๋” มักมีการยกยอ “บิ๊กแจ๊ด” ว่าเป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่สนิทสนมเป็นอย่างดีอยู่บ่อยครั้ง หวังแผ่อิทธิพลสร้างพาวเวอร์ให้ตำรวจปทุมธานียอมสยบแทบเท้านั่นเอง

หากย้อนข่าวไปตามดูกันจะพบว่า มีข่าวสะพัดออกมาว่า “แดงโกตี๋” มักได้รับอภิสิทธิ์ชนจาก “ตำรวจเมืองปทุม” มาโดยตลอด ว่ากันว่า “แดงโกตี๋” จะไปไหนมาไหนต้องมีรถตำรวจนำขบวน ไม่เช่นนั้นไม่สมกับความยิ่งใหญ่ของ “โกตี๋”

ลือกันหนักว่าที่ “บิ๊กแจ๊ด” ทำดีกับ “โกตี๋” เพื่อสร้างฐานเสียงฐานคะแนนให้กับตัวเองในบ้านเกิด เก็บตุนเสบียงสำรองไว้ยามเกษียณราชการ จะได้ใช้หัวโขนนักการเมืองไว้คุมหัวตัวเองในอนาคต

ขณะที่ “บิ๊กแจ๊ด” ทุกวันนี้กลับมายิ่งใหญ่ได้ ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่าเป็นเพราะบารมีของ “นายใหญ่” ที่รักและเคารพยิ่ง จนเป็นที่มาของวลี “มีวันนี้เพราะพี่ให้”

แต่หากไล่เรียงจริงๆ แล้วคนที่ทำให้ “บิ๊กแจ๊ด” สุขสมหวังทั้งลักกี้อินเลิฟลักกี้อินเกม หนีไม่พ้น “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีต่างหาก ที่ประเคนตำแหน่ง “ผบช.น.” ให้ พร้อมทั้งประเคนตำแหน่ง “รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์” ให้คนรู้ใจ “บิ๊กแจ๊ด” เชิดหน้าชูตาสมศักดิ์ศรีกันไปทั้งคู่

ชีวิตของ “บิ๊กแจ๊ด” ภายใต้ร่มเงาของ “ยิ่งลักษณ์” จึงอยู่อย่างมีความสุขยิ้มปากไม่หุบมานานแล้ว

ทว่าล่าสุดสังคมเริ่มตั้งคำถามถึงความสัมพันธ์ของ 1 หญิง 2 ชาย ภายหลังปรากฏคลิปเสียงการให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศของ “โกตี๋” โดยมีเนื้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพอย่างชัดเจน อยู่หลายช่วงด้วยกัน

แม้หลังคลิปที่ว่าตกเป็นข่าวกระฉ่อน “น้องปู” จะออกคำสั่ง “พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว” ผบ.ตร. ให้เร่งจัดการเอาผิดกับคนที่เกี่ยวข้องกับคลิปดังกล่าว แต่หากอ่านคำสั่งที่ว่าอย่างถี่ถ้วนแล้ว ก็จะพบว่าไม่ได้มีประโยคไหนสั่งการให้มุ่งล่าตัว “โกตี๋” มารับโทษทัณฑ์แต่อย่างใด

กลับมุ่งให้ตำรวจไล่ล่าจับกุมบรรดา “มือแชร์คลิป” มาเอาเรื่องต่างหาก

หากว่ากันตามความเป็นจริงแล้ว การสืบสวนดำเนินคดีกับ “มือแชร์คลิป” แม้จะสามารถกระทำได้ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ แต่เป็นการยากที่จะสืบจับมาได้ ยิ่งต้นทางมาจากรายการข่าว “VICE News” ของต่างประเทศ ก็ยิ่งยากที่จะไปเอาความ

หาก “ตำรวจ” มุ่งไปที่ประเด็นความผิดของผู้เผยแพร่ ก็จะเป็นการแก้ไม่ตรงจุด เพราะคนเหล่านั้นโพสต์และแชร์คลิปต้นเหตุด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เพียงเพราะต้องการประณามความระยำของ “โกตี๋” มากกว่า แต่วิธีแก้ที่ถูกจุดต้องไปลากคอ “โกตี๋” ผู้แสดงออกชัดเจนเปิดตัวเป็น “อริราชศัตรู” ถือเป็นอันตรายต่อสถาบันเบื้องสูง

การออกคำสั่งของ “ยิ่งลักษณ์” หรือของ ผบ.ตร. ถือเป็นความตั้งใจเบี่ยงเบนประเด็นมากกว่า

อีกทางหนึ่งก็จะมีความพยายามปล่อยข่าวว่า “โกตี๋” หนีออกไปต่างประเทศแล้ว แต่ ณ นาทีนี้ฟันธงได้เลยว่า “โกตี๋” ไม่ได้หนีไปไหน เพียงแต่ “ตำรวจ” ไม่กล้าเข้าจับเท่านั้นเอง

บารมีของ “บิ๊กแจ๊ด” ผนวกกับบารมีของ “น้องปู” ที่ยังพอมีเหลืออยู่ในวงการตำรวจ สามารถเป็นผ้ายันต์คุ้มครองชีวิต “โกตี๋” ให้รอดคุกไว้ได้

เพราะหากวันใด “โกตี๋” ต้องโทษทัณฑ์ถูบจับยัดคุก ไม่เพียงแต่เจ้าตัวที่อาจต้องแก่ตายในคุกเท่านั้น แต่ยังจะเป็นสัญลักษณ์ยืนยันถึงพฤติกรรมจาบจ้วงสถาบันของ “ระบอบทักษิณ” ได้เป็นอย่างดี

เพราะ “โกตี๋” ประกาศชัดเจนว่าเป็นข้าที่จงรักภักดีของระบบทักษิณ อีกทั้งไล่สานสัมพันธ์ก็ถึงตัว “คีย์แมน” ในระบอบทักษิณได้ไม่ยาก

ดังนั้นฟันธงได้เลยว่าหาก “ระบอบทักษิณ” ยังคงอยู่ในประเทศไทย คนชั่วอย่าง “โกตี๋” ที่ไม่เคารพสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่มีวันโดนจับ คล้ายกับกรณี “ไอ้ตั้ง อาชีวะ” ที่วันนี้ยังลอยนวล แถมอยู่ดีมีสุขอีกต่างหาก

สะท้อนว่า “ระบอบทักษิณ” ต้องการใช้คนชั่วอย่าง “โกตี๋” ให้เป็นประโยชน์มากที่สุด

คนไม่ชั่วจริงอยู่ใน “ระบอบทักษิณ” คงยาก เราจึงเห็นแต่คนชั่วที่ “ทักษิณ” เรียกใช้งาน