“เทือก” นำมวลชน กปปส.เคลื่อนไปกรมชลฯ ปลุก ขรก.ร่วมสู้ ใช้ทางด่วนยิงยาวแจ้งวัฒนะ ปลัด ก.เกษตรฯ-บิ๊กกรมชลฯ ขอบคุณเข้าใจการทำงาน พร้อมร่วมมือปฏิรูป ดอดต้อนรับ อีโอดีรุดตรวจวัตถุต้องสงสัย MRT สวนลุมฯ ตร.เผยผลตรวจเป็นกล่องหมึกเครื่องพิมพ์ ไม่ใช่ระเบิด พร้อมนำมวลชนร่วมไว้อาลัย"พล.อ.ร่มเกล้า"
วันนี้ (10 เม.ย.) บรรยากาศในการชุมนุมของกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กปปส. บริเวณสวนลุมพินี ล่าสุดผู้ชุมนุมรวมตัวหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 6 เพื่อเตรียมเคลื่อนขบวนด้วยรถเครื่องขยายเสียง และรถยนต์ไปที่กรมชลประทาน ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เพื่อเชิญชวนข้าราชการให้เข้าร่วมต่อสู้กับ กปปส. ขณะที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.นำกลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนออกจากสวนลุมพินี เพื่อเคลื่อนขบวนไปเชิญชวนข้าราชการให้ร่วมต่อสู้กับ กปปส. โดยใช้เส้นทางถนนพระราม 4 ขึ้นทางด่วน (หัวลำโพง) แจ้งวัฒนะ มุ่งหน้ากรมชลประทาน ปากเกร็ด ทั้งนี้มีการ์ดเป็นส่วนล่วงหน้าในเปิดเส้นทางจราจรพร้อมกับคอยเฝ้าระวังรักษาความปลอดภัย
ขณะที่เมื่อขบวน กปปส.ไปถึงกรมชลประทาน ได้มีข้าราชการออกมาโบกธงต้อนรับพร้อมขอถ่ายรูปกับนายสุเทพและแกนนำคนอื่นๆ เป็นจำนวนมาก จากนั้นนายสุเทพได้เข้าไปหารือร่วมกับนายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายสมศักดิ์ เกตุจำนงค์ ผอ.สำนักชลประทานที่ 11 โดยไม่เปิดให้สื่อมวลชนเข้ารับฟัง นายชวลิตได้กล่าวขอบคุณมวลมหาประชาชนที่ให้ความเข้าใจการทำงาน เมื่อได้เปิดกระทรวงเป็นที่ทำการก็จะเร่งบริการประชาชน ยินดีให้ความร่วมมือกับการปฏิรูป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก นายสุเทพ ร่วมหารือกับนายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายสมศักดิ์ เกตุจำนงค์ ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 11 ภายในห้องที่ทำงานผู้บริหารกระทรวง ทั้งหมดได้ร่วมกันแถลงข่าว
โดยนายสุเทพ กล่าวว่า วันนี้เราทราบว่าผู้บริหารกระทรวงเกษตรฯ ทำงานอยู่ที่กรมชลประทานฯ จึงมาขอพบเพื่ออธิบายให้ปลัดกระทรวงฯ รวมทั้งข้าราชการกระทรวงฯ ทราบว่ามวลมหาประาชนลุกขึ้นทำการครั้งนี้ด้วยความจำเป็นเพื่อประโยชน์ประเทศชาติ และเชื่อมั่นว่าการปฎิรูปประเทศจะทำให้ประเทศพัฒนาก้าวหน้าได้รวดเร็วทำให้เกิดความสงบสุขในแผ่นดิน ซึ่งได้ชี้แจงว่าทั้งข้าราชการและประชาชนเป็นเจ้าของประเทศ ในยามบ้านเมืองมีวิกฤต เหมือนที่กระทรวงเกษตรฯ เคยพบวิกฤตในยามบ้านเมืองน้ำท่วม น้ำแล้ง แต่ครั้งนี้เกิดวิกฤตอีกรูปแบบหนึ่ง คือวิกฤตจากนักการเมือง ข้าราชการจึงต้องร่วมมือกับประชาชนฝ่าวิกฤตนี้ไปให้ได้
และหากถึงวันที่ประชาชนนัดหมายเพื่อเปิดเกมการต่อสู้ยกสุกสุดท้ายขอให้ข้าราชการใช้ดุลพินิจพิจารณาจตัดสินใจ หากถึงวันนัดหมายเห็นว่าสิ่งที่ประชาชนตัดสินใจดำเนินการเพื่อประโยชน์ประเทศชชาจติประชาชน ก็ขอความร่วมมือข้าราชการให้ออกมาสมทบกับประชาชนด้วย แต่ถ้า ศอ.รสส. หรือรัฐบาลบังอาจตั้งข้อกล่าวหาดำเนินการตามกฎหมายเล่นงานปลัดกระทรวงฯ มวลลมหาประชาชนก็พร้อมยืนหยัดปกป้อง และขอประณามผู้ที่ใช้อำนาจข่มเหงข้าราชการโดยไม่เป็นธรรม เช่น ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน หรือนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ อย่าทำอำนาจบาตใหญ่มาก เป็นการเหยียบน้ำใจข้าราชการ
ทั้งนี้ มีรายงานพบวัตถุต้องสงสัยบริเวณประตูทางออกที่ 2 สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสวนลุมพินี ซึ่งจะขึ้นมาแยกวิทยุ ถนนวิทยุ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด (อีโอดี) กำลังอยู่ในระหว่างการเข้าตรวจสอบ
ด้าน ร.ต.อ.กฤษณะ บัวหอม รอง สวป.สน.ทุ่งมหาเมฆ เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. กรณีพบวัตถุต้องสงสัยบริเวณประตู 2 หน้าตึก Q-House ทางขึ้นสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินลุมพินี ว่าล่าสุดเจ้าหน้าที่อีโอดีเข้าตรวจสอบพื้นที่พบเป็นเพียงกล่องหมึกเครื่องพิมพ์เปล่า ไม่ใช่ระเบิดแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดพื้นที่ดังกล่าวแล้ว ขอให้ประชาชนสบายใจได้
จากนั้น กปปส.มุ่งหน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อประกอบพิธีรำลึกข้าราชการทหารและเจ้าหน้าที่ที่ต้องเสียชีวิตในการปฏิบัติภารกิจที่ถนนราชดำเนินในวันที่10เม.ย.2553 ที่ผ่านมา รวมถึงพลเอกร่มเหล้าด้วย
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ได้ปราศรัยบนรถขยายเสียงหน้ากรมชลประทาน ภายใต้สังกัด กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนักชลประทานที่ 11 อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ว่า ขอขอบคุณข้าราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทุกคนที่ให้การต้อนรับ กปปส. และขอเชิญชวนข้าราชการทุกคนตัดสินใจออกมาต่อสู้กับประชาชนครั้งสุดท้ายให้รู้แพ้รู้ชนะ เพื่อทวงคืนอำนาจอธิปไตยกลับสู่ประชาชน จากนั้นเดินหน้าปฏิรูปประเทศให้สมบูรณ์ตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่งทำได้แน่นอนเพียงแค่ข้าราชการจับมือร่วมกับประชาชน เมื่อปราศรัยเสร็จ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ได้นำผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนมุ่งหน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน เพื่อร่วมรำลึกถึงการจากไปของ พลเอกร่มเกล้า ธุวธรรม นายทหารไทยที่เสียชีวิตจากเหตุจลาจลบริเวณสี่แยกคอกวัว เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553 รวมถึง ประกอบกิจกรรมรำลึกถึงข้าราชการทหารและเจ้าหน้าที่ที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติภารกิจบริเวณถนนราชดำเนินในวันดังกล่าวด้วย
