หน.ปชป.แจงเข้าพรรคติดตามพิมพ์เขียวปฏิรูป อังคารหน้านัดถก รับน่าจะลงตัวแล้ว เผยพรรคยังไม่ถกลงเลือกตั้ง ลูกพรรคเข้าใจต้องให้ “เทือก-ปู” คุยกัน หนุนนัดจ้อผ่านทีวี พร้อมหารือหาก กกต.นัด หวังบางฝ่ายขยับมากขึ้น ชี้ยังไร้กระบวนการพูดคุย เสี่ยงช่วงชุมนุมใหญ่ เหตุมีลอบกัดตลอด หวัง ตร.เข้มกันก่อเหตุ ติงรัฐยื้ออำนาจชาติติดหล่ม แนะวางปฏิรูปให้ชัด อย่าพูดด้านเดียว ชินวัตรเว้นวรรคการเมืองแค่ส่วนหนึ่งทางออก
วันนี้ (3 เม.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า ในวันนี้ตนได้เข้ามาติดตามงานประชุมใหญ่สามัญประจำปีเรื่อง 10 ฐานราก พิมพ์เขียวปฏิรูปประเทศ เมื่อวันที่ 28-29 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งวันอังคารที่ 8 เม.ย.นี้ตนจะนัดประชุมบุคคลที่เกี่ยวข้องด้านนโยบายและกรรมการบริหารพรรค โดยในเชิงนโยบายจะเป็นเรื่องพิมพ์เขียวปฏิรูปประเทศทั้งหมด และจะใช้วิธีการนำเสนอให้ประชาชนได้รับทราบเพื่อความเข้าใจง่ายขึ้น เพราะว่ารายละเอียดมีความคืบหน้าไปมาก และมีการรวมเรื่องของการปฏิรูป และเรื่องของนโยบายให้เห็นภาพอนาคตประเทศ ซึ่งคิดว่าขณะนี้น่าจะลงตัวแล้ว ส่วนจะมีการลงหรือไม่ลงเลือกตั้งอย่างไรนั้น ขณะนี้ยังไม่มีการหารือภายในพรรค เพราะทุกคนเข้าใจดีว่าต้องมีกระบวนการพรรคการเมืองและคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มาพูดคุยกัน ซึ่งทุกคนในพรรคเข้าใจดีว่า สิ่งที่ประชาธิปัตย์ต้องการคือการเลือกตั้งที่เรียบร้อย ซึ่งเงื่อนไขที่จะเป็นไปได้ก็ยังมองไม่เห็นทาง นอกจากนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ต้องมีการพูดคุยกัน และนำประเด็นต่างๆ มาวางให้เกิดความชัดเจน หาก น.ส.ยิ่งลักษณ์และนายสุเทพ ได้ทำอย่างที่เคยเสนอกันไว้ และมาเริ่มต้นกระบวนการจะเป็นแนวทางการหาคำตอบในเรื่องของการเลือกตั้งกับการปฏิรูปได้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ในวันที่ 22 เม.ย.นี้ ที่กกต.จะนัดหารือในพรรคการเมืองนั้น พรรคปชป.จะเข้าร่วมหรือไม่ นายภิสิทธิ์กล่าวว่า ถ้า กกต.เป็นผู้นัด พรรคจะเข้าร่วมหารือเพราะที่ผ่านมาเราให้การร่วมมือมาโดยตลอด ซึ่งความคิดเห็นเราจะอยู่ในจุดเดิม แต่ตนหวังว่า ในวันนั้น จะมีบางฝ่ายขยับเพื่อให้เกิดการพูดคุยให้ได้มากขึ้น
นายอภิสิทธิ์ยังเป็นห่วงสถานการณ์การเมืองที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องของ 40 ส.ว.วินิจฉัยสถานภาพนายกรัฐมนตรีหรือไม่ การย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เพราะ กปปส.ประกาศเตรียมนัดชุมนุมใหญ่ภายใน 15 วัน ที่ศาลให้นายกรัฐมนตรีเข้าชี้แจง เพราะเชื่อกลุ่มเสื้อแดงจะไม่ยอมรับคำวินิจฉัย และเตรียมลุกขึ้นก่อความวุ่นวายว่า ถ้าไม่มีกระบวนการที่ทำให้เกิดการพูดคุยก็ต้องเดินไปแนวทางนี้ หากเป็นเช่นนี้จะมีความเสี่ยง เพราะแม้ในช่วงที่ยังไม่มีการชุมนุมใหญ่ เราเห็นการเคลื่อนไหวคู่ขนานที่เอาอาวุธมาใช้ ถูกจับอาวุธสงครามมีการลอบยิง คปท.เช่นนี้เป็นต้น ตนอยากเห็นความเข้มแข็งของตำรวจว่าสกัดกั้นไม่มีการเกิดเรื่องเช่นนี้อีก
“ถ้าวันนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์บอกว่าพร้อมจะคุยกับนายสุเทพ โดยการถ่ายสดผ่านทางโทรทัศน์ผมคิดว่าข้อเสนอนี้นายสุเทพไม่ปฏิเสธ”
ส่วนการเมืองหลังวันที่ 5 เม.ย.นี้จะเป็นอย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ประเทศก็ติดหล่มอยู่เช่นนี้ผู้ชุมนุมของ กปปส.ก็ยังเรียกร้องให้มีการปฏิรูป ทำให้ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งไม่เป็นที่ยอมรับ จะเกิดปัญหาต่อไป หากรัฐบาลคิดแต่จะพยายามยื้อ เพื่อครองอำนาจให้นานที่สุดจะติดหล่มเช่นนี้และคนที่เดือดร้อนคือประชาชน เพราะปัญหาต่างๆ ไม่ได้รับการแก้ไขจนประเทศเสียประโยชน์ ตนคิดว่า รัฐบาลน่าจะขยับเข้ามาเพื่อที่จะวางประเด็นเรื่องการปฏิรูปให้ชัด อย่าพูดด้านเดียว เพราะอย่างไรประเทศหนีสองเรื่องคือ ปฏิรูปประเทศและเลือกตั้งไม่พ้น
เมื่อถามว่า กรณีที่มีคนเสนอให้ตระกูลชินวัตรเว้นวรรคทางการเมือง 1 ปีนั้นไม่สามารถขจัดคอร์รัปชันได้ ซึ่งเป็นความปรารถนาดี แต่โจทย์จริงกลับมาที่การแก้ปัญหาและการใช้อำนาจโดยมิชอบ และการทุจริตต่างๆ ซึ่งเป็นที่มาของการเรียกร้องปฏิรูปประเทศไทย ตัวบุคคลหรือครอบครัวทีอาจกลายเป็นสัญลักษณ์ของปัญหาเหล่านี้ก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่ลำพังเพียงเท่านี้คงไม่ใช้คำตอบของประเทศ เข้าใจว่าคงเป็นข้อเสนอและความปรารถนาดี ซึ่งที่จริงแล้วเป็นแค่ส่วนหนึ่งของทางออก