กปปส.เวทีสวนลุมพินี เคลื่อนขบวนเชิญชวนข้าราชการกระทรวงต่างประเทศ เลิกรับใช้ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์” ออกมาร่วมมวลชนขับไล่ “ระบอบทักษิณ” ออกจากประเทศไทย
การชุมนุมของคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) เวทีสวนลุมพินี เช้าวันนี้ (3 เม.ย.) บรรยากาศตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มวลชนต่างตื่นขึ้นมาทำภารกิจส่วนตัว ร่วมรับประทานอาหาร เพื่อเตรียมตัวร่วมกิจกรรมเคลื่อนขบวนร่วมกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. และแกนนำ กปปส.ไปยังหน่วยงานราชการโดยยังไม่เปิดเผยสถานที่เพื่อความปลอดภัย เพื่อเรียกร้องให้ข้าราชการต่อต้านรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และออกมาต่อต้านระบอบทักษิณที่ครอบงำรัฐบาลร่วมกับมวลมหาประชาชน
ด้านการรักษาความปลอดภัยยังคงเป็นไปอย่างเข้มงวด มีการตรวจตรารอบพื้นที่เพื่อป้องกันคนร้ายลอบเข้ามาก่อเหตุกับผู้ชุมนุม
ต่อมา นายสุเทพ ได้นำมวลชนขบวนเคลื่อนออกจากลานพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 6 มุ่งหน้าถนนพระราม 4 เพื่อเดินทางไปกระทรวงการต่างประเทศ โดยขบวนส่วนหน้าจัดรูปแบบรัดกุมมากขึ้น เน้นความปลอดภัยทั้งแกนนำและมวลชน ตั้งแต่ต้นขบวนและท้าย เพื่อป้องกันคนร้ายก่อเหตุระหว่างเคลื่อนขบวน ทั้งนี้ มีการกำชับและวางแผนมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างรอบคอบ ศึกษาเส้นทางโดยละเอียด โดยเฉพาะตามแยก ต้องไม่กระทบกับการจราจรในกรุงเทพมหานคร ขอความร่วมมือจากประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนให้ขบวนผ่านไปก่อน โดยนายสุเทพ ได้นั่งรถส่วนตัวเคลื่อนไปกับขบวน
ด้านนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษก กปปส. กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เป็นไปได้สูงที่ทาง กปปส. อาจยังมีการชุมนุมอยู่ เพราะจากการประเมินสถานการณ์ในหลายๆ ครั้งที่มีการเคลื่อนไหวของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แต่ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ซึ่งปัญหานั้น เปรียบเสมือนการต่อสู้สงครามกับมวลมหาประชาชน
ส่วนการต่อสู้ที่ผ่านมาของ กปปส. ถือว่าประสบความสำเร็จพอสมควร ทั้งเรื่อง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม การยุบสภา และการเลือกตั้งที่เป็นโมฆะ ซึ่งจะต้องร่วมมือต่อสู้ต่อไปจนกว่ารัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะลาออก จึงจะสามารถปฏิรูปประเทศไทยได้
ทั้งนี้ การประชุมเครือข่ายในวันที่ 5 เมษายนนั้น นายสุเทพ และแกนนำจะทำการซักซ้อมเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการนัดชุมนุมครั้งต่อไป และการที่รัฐบาลไม่ยอมรับกฎหมายถือว่าไม่มีความชอบธรรมแล้ว ดังนั้นต้องมีการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง
ด้านบรรยากาศในการชุมนุมของกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาและประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) บริเวณถนนพิษณุโลก สะพานชมัยมรุเชฐ ข้างทำเนียบรัฐบาล ล่าสุด ยังคงเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย โดยแกนนำ ไม่มีการนำกลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนไปกดดันรัฐบาลในสถานที่ใด เนื่องจากอยู่ในช่วงการไว้อาลัยต่อ การจากไปของ ส.อ.วสันต์ คำวงศ์ การ์ดอาสา คปท. ที่เสียชีวิตจากการถูกซุ่มยิง ขณะเคลื่อนขบวนกลับที่ตั้งเวที เมื่อวันที่ 1 เม.ย ที่ผ่านมา ขณะที่ผู้ชุมนุมต่างพักผ่อนตามอัธยาศัยภายในเต็นท์ริม 2 ฝั่งถนนพิษณุโลก และบริเวณโดยรอบ
สำหรับเวทีปราศรัย ยังคงมีกิจกรรมเล่าข่าวสารให้กับผู้ชุมนุมในพื้นที่ได้ร่วมรับฟัง ท่ามกลางมาตรการในการรักษาความปลอดภัยโดยรอบพื้นที่การชุมนุมที่เป็นไปอย่างเข้มงวด
ส่วนการรักษาควมปลอดภัยในพื้นที่การชุมนุมเป็นไปอย่างเข้มงวด โดยมีการ์ดอาสากระจายตัวไปตามจุดต่างๆ รอบพื้นที่การชุมนุม เพื่อป้องกันผู้ไม่ประสงค์ดีเข้ามาก่อสถานการณ์รุนแรง
เช่นเดียวกับการชุมนุมของ กปปส.เวทีศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ ซึ่งนำโดยหลวงปู่พุทธะอิสระ ซึ่งมีชาวนาร่วมชุมนุมด้วย เช้าวันนี้บรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ผู้ชุมนุมต่างทำภารกิจส่วนตัวและรับประทานอาหาร สวดมนต์เช้า และพักผ่อน รอแกนนำแจ้งแนวทางการเคลื่อนไหวของมวลชน สำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัย เจ้าหน้าที่การ์ดทำการตรวจสอบพื้นที่โดยรอบการชุมนุม เพื่อกันผู้ไม่หวังดีลอบก่อเหตุ
ต่อมานายสุเทพ เดินทางมาถึงกระทรวงต่างประเทศ ก็ลงจากรถเดินทักทายผู้ชุมนุม พร้อมพูดคุยกับร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ แกนนำกองทัพธรรม จากนั้นนายสุเทพ เดินไปยังประตูกระทรวงต่างประเทศ ฝั่งถนนพระรามที่ 6 ด้านนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย แกนนำ กปปส. ขึ้นรถปราศรัยว่า กปปส.ขอตั้งตัวแทน 10 คน เพื่อเข้าไปพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับปลัดกระทรวงการต่างประเทศ โดยมีข้าราชการที่อยู่ในอาคารเปิดม่านหน้าต่างโบกมือทักทายผู้ชุมนุมด้วย จากนั้นแกนนำสลับกันปราศรัย และมีอดีตเอกอัครราชทูตขึ้นเวที่ปราศรัยโจมตีการทำงานของนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รักษาการรองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศด้วย กระทั่งเวลา 11.50 น. นายสุเทพ ขึ้นรถปราศรัยว่า วันนี้มีความตั้งใจจะนำมวลมหาประชาชนมาพูดคุยกับพี่น้องข้าราชการกระทรวงต่างประเทศ ซึ่งทราบก่อนหน้านี้นี้ว่ามีข้าราชการไปประชุมอยู่ที่โรงแรมสุโกศล แต่จะไม่ไปชุมนุมที่นั่น เพราะโรงแรมนี้มีแขกต่างประเทศที่ไม่รู้เรื่องจะเดือดร้อน แต่ตนได้พูดคุยกับผู้ช่วยปลัดกระทรวงว่าวันนี้มีข้าราชการไม่กี่สิบคน ที่เข้ามาเอาเอกสารเท่านั้น
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ตนขอให้ประสานงานกับปลัดกระทรวง เพราะมีความตั้งใจจะหารือด้วย เนื่องจากมีเรื่องที่ต้องช่วยกันดดูแลแก้ไขเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายกับประเทศ โดยเฉพาะการที่นายสุรพงษ์ ไปเชิญเลขาธิการสหประชาชาติมาช่วยแก้ไขปัญหาในประเทศ ซึ่งไม่สามารถทำได้ จะเสียเกียรติภูมิประเทศไทย อีกทั้งเป็นเรื่องภายในประเทศ ไม่มีเรื่องอะไรที่ยูเอ็นต้องเข้ามายุ่มย่ามเรื่องภายในประเทศ ต้องเป็นเรื่องที่คนไทยต้องแก้ไขเอง ถ้าไล่รัฐบาลและนายสุรพงษ์ ได้จะทำการล้างซวยภายในกระทรวง ทั้งนี้ต้องขอเรียนว่าขณะนี้รัฐบาลและน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินสัตร นายกรัฐมนตรี ยื้อยุดได้อีกไม่นานแล้ว ถ้าไม่จบเพราะป.ป.ช.ก็จบด้วยศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเราไม่สามารถปล่อยให้แก๊งโจรนี้ปล้นชาติต่อไปได้ เพราะความเสียหายของประเทศ พวกเราข้าราชการต้องเป็นผู้ซ่อมแซมฟื้นฟู จึงจำเป็นต้องแก๊งโจรนี้ออกจากอำนาจโดยเร็วที่สุด และขอให้นัดกับปลัดกระทรางการต่างประเทศ อธิบดี ให้นัดหารือเป็นทางการด้วย
จากนั้นเวลา 12.10 น. นายสุเทพนำผู้ชุมนุมเดินทางออกจากหน้ากระทรวงการต่างประเทศ
ต่อมา ในเวลา 12.30น. ขบวน กปปส. เคลื่อนขบวนมายังธนาคารแห่งประเทศไทย โดย นายชาญชัย บุญฤทธิ์ไชยศรี ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ออกมาต้อนรับและพูดคุยกับนายสุเพ ซึ่งได้รับความสนใจจากพนักงานให้การต้อนรับ ร่วมเป่านกหวีด และถ่ายรูปคู่กับนายสุเทพ จำนวนมาก โดย กปปส. ได้ข้าวกล่องจำนวน 7,000-8,000 กล่อง เป็นเมนูข้าวผัดกระเพราะ ไข่ดาว โดยนายสุเทพ ได้นำข้าวกล่องเดินแจกให้พนักงาน จากได้รับประทานอาหารกลางวันร่วมกับพนักงานธนาคารแห่งประเทศไทย