กปปส.ยังเคลื่อนกดดันรัฐบาล “หลวงปู่” ขึ้นป้ายรูป “ธาริต” ตามหาคนหาย

กปปส.ยังชุมนุมปกติ รอแกนนำเคลื่อนปฏิบัติภารกิจปิดสถานที่ราชการ กดดันรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ตัดท่อน้ำเลี้ยงธุรกิจตระกูลชินวัตร “หลวงปู่พุทธะอิสระ” งดเคลื่อนขบวนหวั่นแก๊งแดงบุกยึดพื้นที่เพื่อกดดันองค์กรอิสระที่อยู่ระหว่างวินิจฉัยคดีที่เกี่ยวกับรัฐบาล ขณะเดียวกันสั่งลูกทีมขึ้นป้ายตามหาคนหาย ติดรูป “ธาริต” ให้กลับมาทำงานที่ดีเอสไอ

การชุมนุมของคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) เวทีสวนลุมพินี เช้าวันนี้ (13 มี.ค.) เป็นไปด้วยความเรียบร้อย คืนที่ผ่านมาไม่มีการก่อเหตุใดๆ ขณะที่การรักษาความปลอดภัยยังคงเป็นไปอย่างเข้มงวด มีการขอตรวจคนเข้า-ออกพื้นที่ชุมนุมด้วยเครื่องสแกนวัตถุต้องสงสัย ส่วนมวลชนที่ปักหลักค้างคืนต่างตื่นขึ้นมาทำกิจวัตรประจำวัน ก่อนรับประทานอาหาร ฟังรายการข่าวยามเช้า พร้อมเตรียมตัวรอสัญญาณจากแกนนำเพื่อเคลื่อนไหวปิดสถานที่ราชการ และกดดันธุรกิจตระกูลชินวัตร แต่ยังไม่เปิดเผยเป้าหมาย

ด้าน กปปส.เวทีศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ ซึ่งมีหลวงปู่พุทธะอิสระควบคุบดูแล ผู้ชุมนุมในพื้นที่อยู่ระหว่างการทำภารกิจส่วนตัว และร่วมรับประทานอาหาร ทำความสะอาดพื้นที่การชุมนุม และพักผ่อนตามอัธยาศัยรอแกนนำออกปฏิบัติภารกิจพิเศษ ด้านการรักษาความปลอดภัยก็เป็นไปอย่างเข้มงวดเหมือนทุกวัน มีการตรวจคนเข้า-ออกพื้นที่การชุมนุมรอบพื้นที่

ทั้งนี้ มีรายงานว่า หลวงปู่พุทธะอิสระได้ให้ทีมงานนำแผ่นป้ายไวนีลขนาด 6 X 10 เมตร ติดรูปนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อข้อความประกาศคนหาย โดยระบุว่า “บุคคลใดที่พบเห็นให้นำตัวมาส่งที่สำนักงานดีเอสไอ เพื่อให้เข้าปฏิบัติหน้าที่” มาติดไว้ เพื่อยืนยันว่ายินดีและไม่เคยปิดกั้นเจ้าหน้าที่รัฐให้เข้ามาทำงาน โดยเฉพาะที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หลังจากที่นายธาริตได้มีหนังสือแจ้งให้อัยการสูงสุดขอให้แต่งตั้งพนักงานอัยการ เพื่อฟ้องหลวงปู่พุทธะอิสระในคดีแพ่ง ข้อหาปิดล้อม บุกรุก และยึดถือครอบครองพื้นที่โดยรอบอาคารดีเอสไอ รวมทั้งให้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้ปิดล้อมและต้องการให้นายธาริตกลับเข้ามาทำงาน

หลวงปู่พุทธะอิสระกล่าวว่า ไม่กังวลหากศาลแพ่งรับฟ้อง เพราะเป็นการชุมนุมตามสิทธิของรัฐธรรมนูญ อีกทั้งยังมีหลักฐานชัดเจนว่าไม่ได้ห้ามให้ข้าราชการเข้าทำงาน แต่เป็นคำสั่งของ ศรส.ที่ลงนามโดย พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 12 มกราคม

ส่วนการชุมนุมหน้ากรมการกงสุลทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ได้รับความเดือดร้อนที่ไม่สามารถเข้ามาใช้บริการทำหนังสือเดินทางได้นั้น หลวงปู่พุทธะอิสระกล่าวว่า ไม่เคยปิดกั้นและได้เคยพูดคุยกับอธิบดีกรมการกงสุลแล้วว่าให้เปิดบริการให้ประชาชนเข้ามาได้ แต่อธิบดีบอกว่าอาจจะไม่สะดวกเนื่องจากจะมีประชาชนเข้ามาจำนวนมาก และกรมการกงสุลตั้งอยู่ติดกับเวทีการชุมนุม ขณะนี้จึงมีเพียงเจ้าหน้าที่เข้ามาดำเนินการทำเล่มหนังสือเดินทางตามที่ประชาชนได้ยื่นความจำนงที่สาขาต่างๆ โดยเฉพาะสาขาปิ่นเกล้าและบางนา ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ของกรมการกงสุลยอมรับว่าถ้าเปิดให้บริการแบบเต็มรูปแบบอาจจะไม่สะดวก เนื่องจากการเดินทางเข้ามาค่อนข้างลำบากและไม่มีที่จอดรถ อีกทั้งยังทำงานได้ในเวลาจำกัด คือต้องออกจากอาคารในเวลา 16.30 น. ซึ่งส่งผลให้การดำเนินการทำหนังสือเดินทางอาจจะล่าช้า

สำหรับการเคลื่อนไหวของ กปปส.เวทีศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ จะงดวันนี้ เนื่องจากเป็นห่วงองค์กรอิสระ และศาล ที่ช่วงนี้มีการตัดสินคดีสำคัญที่ชี้เป็นชี้ตายรัฐบาลหลายคดี อีกทั้งยังได้รับรายงานว่ากลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เตรียมรวบรวมกำลังอยู่ในพื้นที่โดยรอบ เพื่อวางแผนเข้ายึดพื้นที่หากนำมวลชนเคลื่อนออกไป จึงจำเป็นต้องรักษาความปลอดภัยอย่างเต็มที่

ส่วนการรักษาความปลอดภัยเมื่อคืนนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่สามารถจับสายลับของตำรวจได้ 2 คน ซึ่งนำมาตรวจปัสสาวะแล้วพบว่าเป็นสีม่วง จึงได้ให้ตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง มารับตัวไปดำเนินคดี อีกทั้งยังสามารถจับสายลับได้อีก 1 คน ซึ่งแฝงตัวเข้ามาในพื้นที่การชุมนุมนาน 2 เดือน หลังจากรวบตัวมาสอบสวนแล้วก็พบว่าเป็นทหารที่มีพี่ชายเป็นนายตำรวจและมีความสนิทสนมกับโกตี๋ จึงได้ผลักดันออกไปนอกพื้นที่การชุมนุม

อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้หลวงปู่พุทธะอิสระจะนำมวลชนเคลื่อนไปพบนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อเรียกร้องให้หาเงินจำนวน 240 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบประมาณที่ใช้ประชาสัมพันธ์โครงการรถไฟความเร็วสูงมาคืน หลังศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่าโครงการดังกล่างขัดต่อรัฐธรรมนูญและไม่สามารถดำเนินการได้