ผ่าประเด็นร้อน
น่าจับตาจนหลายคนต้องเร่งวันเร่งคืนให้ถึงไวๆ สำหรับดีเดย์กำหนดนัดชุมนุมใหม่ของคนเสื้อแดงในวันที่ 5 เมษายน ที่ว่าน่าจับตาก็คือพวกแกนนำหลายคนต่างโหมโรงปั่นกระแสกันอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น จตุพร พรหมพันธุ์ และ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ต่างคุยโม้ว่าคราวนี้ต้องออกมาเป็นล้านคน ฟังดูมันก็น่าตื่นเต้น ชวนติดตามจริงๆ
แค่นั้นยังไม่พอ ยังสำทับด้วยความเชื่อสนับสนุนจากคนในรัฐบาลระดับ “แม่เหล็ก” ที่ดึงดูดมวลชนระดับเทพอย่าง ประธานที่ปรึกษาศูนย์อำนวยการรักษาความสงบ (ศอ.รส.) สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ที่มั่นใจว่าคนเสื้อแดงต้องมามากกว่า กปปส.ที่ชุมนุมใหญ่เมื่อวันที่ 29 มีนาคมเกินร้อยเปอร์เซ็นต์ และตบท้ายด้วยคำเชิญชวนแบบอหังการสุดขีดของ ผู้อำนวยการ ศอ.รส. เฉลิม อยู่บำรุงว่า ถ้าใครรักเขา หลงใหลกับบทบาทเขาทั้งในอดีตจนถึงปัจจุบันก็ให้ออกมาสมทบกับคนเสื้อแดงให้ออกมาในวันที่ 5 เมษายน และรับคำท้าของ กำนัน สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.ว่าหากคนเสื้อแดงมีจำนวนมากกว่าแต่มีเงื่อนไขให้ยุติการชุมนุมแล้วกลับบ้าน
ขณะเดียวกันก็มีข่าวคราวความเคลื่อนไหวของ ทักษิณ ชินวัตร ที่เป็น “เจ้าของ” คนพวกนี้ก็ดันมาประจวบเหมาะกันพอดี โดยมีข่าวว่ามาเลียบๆ เคียงๆ แถวหลวงพระบาง ประเทศลาวเสียอีก แม้ว่าจะมีการปฏิเสธและอ้างว่าเป็นรูปเก่าก็ตาม
อย่างไรก็ดี เท่าที่ประมวลทุกอย่างแล้วก็ต้องบอกว่างานนี้เป็นงานใหญ่และสำคัญอย่างยิ่งยวดสำหรับคนเสื้อแดง แกนนำ และรวมไปถึง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รัฐบาลและระบอบทักษิณ โดยรวมอย่างแน่นอน
เริ่มจากปัญหาเฉพาะหน้าที่ชี้เป็นชี้ตายอนาคตของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่กำลังขึ้นเขียงในคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว และกำลังจะถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เพราะถ้าชี้ความผิดขึ้นมานั่นก็หมายความว่าอนาคตของเธอก็ดับสูญแถมยังต้อง“เสี่ยงคุก” ในวันข้างหน้าอีกด้วย
ขณะเดียวกันยังส่งผลกระทบต่ออำนาจ “สายตรง” ในครอบครัวของ ทักษิณ ชินวัตร ต้องสะดุดลง แม้ว่าจะสามารถสร้างหุ่นเชิดรายใหม่ขึ้นมาได้แบบไม่สิ้นสุดก็ตาม แต่นั่นไว้ใจได้ไม่เต็มร้อย ประกอบด้วยนิสัยเห็นแก่ตัวก็คงไม่อยาก “แชร์ผ่านคนอื่น”
นั่นคือเหตุผลมากมายว่าทำไมการชุมนุมของคนเสื้อแดงในวันที่ 5 เมษายน จะมีความหมายมากเพียงใด และเป็นเหตุผลว่าทำไมคราวนี้ถึงต้อง “จัดเต็ม” ให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ ส่วนจะเป็นตามความคาดหวังได้แค่ไหนนั้นมันอีกเรื่องหนึ่ง
อย่างน้อยการระดมมวลชนเที่ยวนี้ก็เพื่อต้องการเช็กกำลังของคนเสื้อแดงว่ามีมากแค่ไหน มีผลกระทบจากการ “โกงชาวนา” จากโครงการรับจำนำข้าวแค่ไหน หรือว่าชาวนาทั่วประเทศยังเชื่อว่าสาเหตุที่ยังจ่ายเงินให้ไม่ได้มานานเกินครึ่งปีแล้วเป็นเพราะม็อบ กปปส.ขัดขวางไม่ใช่เป็นเพราะมีการโกงทุกเมล็ดจนรัฐบาลไม่มีเงินมาจ่ายตามที่มีการปลุกระดมบิดเบือนมาก่อนหน้านี้ รวมทั้งเชื่อว่าสาเหตุที่ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กำลังจะติดคุกจากโครงการดังกล่าวก็เป็นเพราะไอ้พวกอำมาตย์อะไรนั่นมันแกล้ง และท้ายสุดมาเพื่อปกป้องประชาธิปไตย ขัดขวางการรัฐประหารที่อ้างว่ากำลังจะเกิดขึ้นเพื่อโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง สารพัดข้ออ้าง แต่เป้าหมายก็เพื่อต้องการคุ้มครองอำนาจให้กับครอบครัวของ ทักษิณ ชินวัตร เท่านั้น
ที่สำคัญก็คือ การชุมนุมของคนเสื้อแดงคราวนี้ยังเป็นไฟต์บังคับในการวัดกำลังเปรียบเทียบกันกับการชุมนุมของ กปปส.ที่แม้จะชุมนุมใหญ่กี่ครั้งจำนวนมวลชนก็มีมากมายมหาศาลทุกที ดังนั้น ถ้ามาน้อยแค่หลักหมื่นมันก็เสียหายหลายแสนจริงๆ ทั้งที่เป้าหมายที่แท้จริงที่ต้องการคือ ต้องการนำมวลชนคนเสื้อแดงมาข่มขู่ ป.ป.ช.และศาลไม่ให้ชี้ความผิดและพิพากษาที่เป็นลบต่อ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และรัฐบาลเท่านั้น แต่เมื่อออกมาในช่วงเวลาแบบนี้มันก็ช่วยไม่ได้ที่จะต้องถูกมองในหลายแง่มุมดังกล่าว
อย่างไรก็ดี หากพิจารณาจากสถานการณ์จริง ที่ความล้มเหลวห่วยแตกกำลังประจานสารพัด ก็ยิ่งมั่นใจว่าการชุมนุมคนเสื้อแดงวันที่ 5 เมษายนแม้จะหนาตา แตาบรรยากาศแบบนี้ปริมาณคงไม่มากนัก คงแค่หลักหมื่น ไม่มีทางถึงหลักล้าน แต่ขณะเดียวกันถ้ามากันแบบ “หร็อมแหร็ม” งานนี้ฉิบหายแน่
เพราะนั่นคือปรากฏการณ์ที่ประจานตัวเองจนป่นปี้ !!