ที่ประชุม ป.ป.ช.มีมติไม่ขยายเวลาให้นายกฯ ชี้แจงข้อกล่าวหาโกงจำนำข้าวออกไปอีก 45 วัน ตามที่ทนายความยื่นคำร้อง แต่ให้ตรวจพยานหลักฐาน ขีดเส้นตาย 31 มี.ค.นี้ ระบุเคยอนุญาตไปครั้งหนึ่งแล้ว
วันนี้ (27 มี.ค.) นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้มอบหมายให้ นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง และนายบัญชา ปรมีศณาภรณ์ ทนายความผู้รับมอบอำนาจ ยื่นคำร้องในฐานะผู้ถูกกล่าวหา ขอขยายระยะเวลายื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว และนำสืบแก้ข้อกล่าวหาออกไปอีก 45 วัน นับตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค.โดยอ้างว่าการรวบรวมพยานหลักฐานหลายหน่วยงานยังไม่แล้วเสร็จ ประกอบกับทนายความของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เพิ่งเข้าตรวจพยานหลักฐานในสำนวนไต่สวนข้อเท็จจริงเมื่อวันที่ 26 มี.ค.ซึ่งจะต้องใช้เวลาในการตรวจสอบเอกสารหลักฐาน จึงไม่สามารถชี้แจงข้อกล่าวหาได้ทัน
คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาแล้วเห็นว่า ตามระเบียบ ป.ป.ช.ว่าด้วยการไต่สวนข้อเท็จจริง ปี 2555 ข้อ 11 ประกอบข้อ 40 กำหนดไว้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาสามารถยื่นคำร้องเป็นหนังสือพร้อมด้วยเหตุผลต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.เพื่อขอตรวจพยานหลักฐานในสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงเพื่อประกอบการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาได้ ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ มอบหมายให้ทนายความเป็นผู้ดำเนินการตรวจพยานหลักฐานในสำนวนแทน โดยให้เหตุผลว่า เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองอยู่ในสภาวะไม่ปกติและมีกลุ่ม กปปส.ประกาศว่าจะไล่ล่าตัว จึงเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัยและความสงบ คณะกรรมการ ป.ป.ช.จึงมีมติอนุญาตให้ทนายความของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ มาเป็นผู้ดำเนินการแทน เฉพาะแต่การตรวจพยานหลักฐานเท่านั้น
นอกจากนี้ เนื่องจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ เคยขอเลื่อนการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหามาแล้วครั้งหนึ่ง และคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติอนุญาตให้ขยายเวลาออกไปอีก 15 วัน ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 31 มี.ค.นับเป็นเวลา 32 วันตั้งแต่วันรับทราบข้อหกล่าวหา ดังนั้น ที่ประชุม ป.ป.ช.จึงมีมติให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ มาชี้แจงด้วยตนเอง ไม่ว่าจะด้วยวาจาหรือลายลักษณ์อักษรภายในวันที่ 31 มี.ค.หากผู้ถูกกล่าวหาประสงค์จะเพิ่มเติมพยานหลักฐานในการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาก็สามารถกระทำได้โดยระบุมาในคำชี้แจงข้อกล่าวหา