กกต.พร้อมจัดเลือกตั้งทดแทน แต่น้อมรับศาล รธน.ชี้ขาดโมฆะ-ศาลฎีกาคืนสิทธิ์อดีตรองนายก อบจ.ชิง ส.ว.

เลขาธิการ กกต.เผยพร้อมจัดเลือกตั้ง ส.ส.ทดแทน 5 จังหวัด แต่เพิ่มเจ้าหน้าที่ เผยพร้อมรับคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ยืนยันจัดการเลือกตั้งตามกฎหมาย อีกด้านศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง สั่งคืนสิทธิผู้สมัคร ส.ว.นครสวรรค์-เพชรบูรณ์ ลาออกจากรองนายก อบจ.ไม่ถึง 5 ปี ชี้เป็นผู้บริหารท้องถิ่น ลงสมัครได้ทันที

วันนี้ (20 มี.ค.) นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต.กล่าวภายหลังการประชุมเตรียมความพร้อมการเลือกตั้ง ส.ส.ทดแทน เมื่อวันที่ 2 ก.พ.ใน 5 จังหวัด ประกอบด้วย จ.ยะลา ปัตตานี นราธิวาส ประจวบคีรีขันธ์ และ กทม.จะมีขึ้นในวันที่ 5 เม.ย.ว่า จากการหารือร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้แทนสถานีตำรวจนครบาล ผู้แทนปลัด กทม. ประธาน กกต.จังหวัด และผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัด ทั้ง 5 จังหวัด ซึ่งประเมินร่วมกัน และยืนยันว่า ทั้ง 5 จังหวัด มีความพร้อมในการจัดการเลือกตั้ง ส.ส.ทดแทน ในวันที่ 5 เม.ย.แต่อาจจะมีปัญหาเล็กน้อยใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เขต 3 อ.บางสะพาน และ อ.สะพานน้อย ที่อาจจะมีเหตุการณ์คัดค้านการเลือกตั้ง ส.ส.ขณะที่ กทม.ทางประธาน กกต.กทม.และ ผอ.กต.กทม.ยืนยันว่ามีความพร้อมที่จะจัดการเลือกตั้ง เพียงแต่ขอเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ เพื่อทำหน้าที่รักษาความปลอดภัย โดย กกต.ก็ได้จัดเจ้าหน้าที่ไปเป็นกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) พร้อมเสริมกำลังเจ้าหน้าที่เพิ่มเติม หากมีเหตุขัดข้อง จนทำให้ กปน.มาไม่ครบ

นายภุชงค์ ยังกล่าวด้วยว่า ในวันนี้ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง ได้วินิจฉัยสั่งคืนสิทธิการเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ว.ให้กับผู้ที่เคยเป็นรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ที่ก่อนหน้านี้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดไม่ประกาศให้เป็นผู้สมัครจำนวน 5 รายแล้ว ซึ่งในส่วนผู้มัครที่เป็นรองนายก อบจ.คนอื่นๆ นั้น คาดว่าศาลฎีกาน่าจะมีคำวินิจฉัยไปในแนวเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดไม่ประกาศรายชื่อให้เป็นผู้สมัคร ส.ว.จากทั้งประเทศด้วยเหตุต่างๆ มีทั้งหมด 45 ราย มีเป็นคดีที่ยื่นฟ้องต่อศาล 30 คดี แยกเป็น 27 แยกเป็นกรณีผู้ที่ไม่ได้รับการประกาศรายชื่อให้เป็นผู้สมัครยื่นฟ้อง ขอให้ศาลสั่งให้ผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัดประกาศชื่อให้เป็นผู้สมัคร ขณะที่อีก 3 คดี เป็นกรณีผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดยื่นศาลฯ ขอให้สั่งถอนรายชื่อออกจากเป็นผู้สมัคร เนื่องจากตรวจสอบพบภายหลังขาดคุณสมบัติ

ส่วนกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ นัดแถลงด้วยวาจาและลงมติวินิจฉัยว่าการเลือกตั้ง ส.ส. วันที่ 2 ก.พ.ชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ ในวันที่ 21 มี.ค.นี้ ไม่ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยออกมาในแนวทางใด กกต.ก็พร้อมน้อมรับคำวินิจฉัย และเตรียมแผนปฏิบัติงานรองรับไว้แล้ว แต่ยังไม่ขอเปิดเผยในรายละเอียด เกรงว่าจะเป็นการก้าวล่วงอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ หากศาลวินิจฉัยว่าการเลือกตั้ง ชอบด้วยกฎหมาย กกต.ก็พร้อมเดินจัดการเลือกตั้งไปกฎหมาย และระเบียบในทุกขั้น แต่ถ้าวินิจฉัยว่าการเลือกตั้งโมฆะ กกต.ก็ต้องมีการปรึกษาหารือกับรัฐบาลว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป อย่างไรก็ตาม หากศาลวินิจฉัยออกมาในแนวทางใด ตนมองว่า ในเรื่องพระราชกฤษฎีกาก็คงไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่มีความเป็นห่วงว่าจะมีปัญหาในเรื่องของสถานการณ์ทางการเมืองมากกว่า ทั้งนี้ ยืนยันว่าการจัดการเลือกตั้งที่ผ่านมา กกต.ดำเนินการตามกฎหมายและระเบียบมาโดยตลอด

วันเดียวกัน ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งได้มีคำสั่งให้คืนสิทธิ์ เรืออากาศเอก จักวาล ตั้งภากรณ์ ผู้สมัคร ส.ว.นครสวรรค์ และนายพิพัฒน์ ภัครัชตานนท์ ผู้สมัคร ส.ว.เพชรบูรณ์ ซึ่งถูกตัดสิทธิ์ เนื่องจากลาออกจากการเป็นรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ไม่ถึง 5 ปีก่อนหน้านี้ โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าตำแหน่งรองนายก อบจ.เป็นนักบริหารท้องถิ่น ไม่ใช่ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ลงสมัครได้ทันทีไม่ต้องรอพ้นสภาพ 5 ปี