ผอ.ศอ.รส.ควง ผช.ผบ.ตร.แถลงรวบ “มือปืนป็อปคอร์น” ยิงปะทะแก๊ง “โกตี๋” ที่หลักสี่ อ้างเป็นการ์ด กปปส.กลุ่มองค์ดำ ได้ค่าจ้างวันละ 300 โบ้ยการ์ดหลวงปู่แจกเอ็ม 16 พร้อมสอนวิธีใช้ บอกมี ว.สั่งให้มาช่วยแต่ไม่รู้ใครจ้าง ด้าน “วินัย” สั่งค้านประกัน ฝากขังวันนี้ ปูดแจ้งวัฒนะแหล่งฝึกอาวุธ แต่ไม่โยง “สุเทพ”
วันนี้ (20 มี.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 20 มี.ค.ที่ศูนย์อำนวยการรักษาคงามสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในฐานะ ผอ.ศอ.รส.พร้อมด้วยนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะเลขาฯ ศอ.รส. พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. แถลงข่าวจับกุมตัวนายวิวัฒน์ ยอดประสิทธิ์ หรือท็อป อายุ 24 ปี ชาว จ.พิษณุโลก ผู้ต้องหาที่ปรากฏภาพเป็นมือปืนป็อปคอร์นจากเหตุการณ์ปะทะที่แยกหลักสี่เมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา
ร.ต.อ.เฉลิมแถลงข่าวว่า คดีนี้ต้องขอขอบคุณ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.และ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ที่พยายามสั่งการให้เร่งติดตามตัวคนร้าย โดยอาวุธปืนที่คนร้ายใช้เป็นเอ็ม 16 สวมทับด้วยถุงป็อปคอร์นตามที่ปรากฏเป็นข่าว โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้อาวุธปืนมาจากหัวหน้าการ์ดกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข (กปปส.) ซึ่งเรื่องนี้เป็นที่ชัดเจนว่าไม่ได้มีการชุมนุมอย่างสงบตามที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.แหกปากทุกคืน และหลังเกิดเหตุมือปืนป็อปคอร์น ทาง กปปส.ก็ออกมาบอกว่ามือปืนคนนี้เป็นคนของรัฐบาล แต่วันนี้เป็นไงคงเห็นอยู่
ด้าน พล.ต.ท.วินัยกล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุปะทะกันที่แยกหลักสี่ เจ้าหน้าที่ขุดสืบสวนได้หลักฐานเป็นภาพถ่ายต่างๆ รวมถึงคลิปวิดีโอของมือปืนป็อปคอร์น โดยพบว่ามีอยู่ 1 ภาพที่มือปืนรายนี้ได้ถกหมวกไหมพรมที่ปิดบังหน้าตาขึ้นจึงทำให้เห็นหน้าชัดเจน จนมีผู้หวังดีได้แจ้งเบาะแสเข้ามายังชุดสืบสวนว่าบุคคลดังกล่าวคือนายวิวัฒน์ และได้มีผู้รู้จักมือปืนรายนี้เข้ามายืนยันตัวบุคคลอีกครั้ง กระทั่งศาลได้อนุมัติหมายจับนายวิวัฒน์ ส่วนผู้ร่วมก่อเหตุอีก 3 ราย ศาลยังไม่อนุมัติ แต่ให้กลับไปหาหลักฐานเพิ่มเติม
พล.ต.ท.วินัยกล่าวต่อว่า เมื่อออกหมายจับแล้วทางชุดสืบสวนจาก บช.ภ.1 และ บก.น.2 พบความเคลื่อนไหวของนายวิวัฒน์ ก่อนเข้าทำการจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้ได้ที่บริเวณภายในวัดพัฒนาราม ต.ตลาดล่าง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยหลังจากควบคุมตัว นายวิวัฒน์ได้ให้การว่ามาทำหน้าที่เป็นการ์ดอยู่กับกลุ่มพระองค์ดำ โดยรู้จักและได้รับการชักชวนจากหัวหน้ากลุ่มพระองค์ดำที่เวที กปปส.แจ้งวัฒนะ ชื่อว่าเม่น และหลังเกิดเหตุได้หลบหนีไปกบดานที่บ้านภรรยาของนายเม่นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ทั้งนี้ ฝ่ายสืบสวนทราบว่ากลุ่มการ์ดบางกลุ่มมีอาวุธในพื้นที่ชุมนุม โดยที่เวทีแจ้งวัฒนะมีอยู่ประมาณ 5 กลุ่ม เช่น กลุ่มพระองค์ดำ กลุ่มฉลามขาว กลุ่มอาปาเช่ ซึ่งกลุ่มเหล่านี้จะมีการฝึกอาวุธกันเอง เบื้องต้นอาวุธปืนเอ็ม 16 เป็นอาวุธหนักสุด ส่วนเครื่องยิงระเบิดเอ็ม 79 นั้นขณะนี้ยังไม่พบความเชื่อมโยง
ต่อมานายวิวัฒน์ได้ตอบข้อซักถามสื่อมวลชน โดยระบุว่าสมัครใจมาเป็นการ์ด กปปส.และได้รับค่าจ้างเป็นการ์ดที่เวทีแจ้งวัฒนะวันละ 300 บาท ส่วนอาวุธปืนนั้นนายเม่นเป็นคนจัดหามาให้ โดยก่อนหน้านี้ไม่เคยฝึกฝนอาวุธมาก่อน แต่มาเรียนเองกับพวกกลุ่มการ์ด และไม่เคยก่อเหตุยิงแบบนี้ที่ไหนมาก่อน
นายวิวัฒน์ระบุอีกว่า ในวันเกิดเหตุได้มีคนนำอาวุธปืนที่สวมทับด้วยถุงป็อปคอร์นมาฝากไว้ เนื่องจากต้องไปเข้าห้องน้ำ โดยมีการใส่กระสุนเต็มแมกฯ ซึ่งระหว่างนั้นได้ยิน ว.รายงานเหตุการณ์ที่แยกหลักสี่ จึงตัดสินใจไปที่เกิดเหตุ โดยใช้ถุงป็อปคอร์นเก็บลูกกระสุน สำหรับคนที่คอยชี้เป้าในการยิงวันนั้นตนไม่รู้จัก และเรื่องนี้ทางหลวงปู่พุทธะอิสระไม่รู้เรื่องว่าการ์ดมีอาวุธปืน ซึ่งวันเกิดเหตุได้ยิงกระสุนไปทั้งหมดประมาณ 20 นัด