“วราเทพ” ไม่หวัง 7 องค์กรอิสระจะหาทางออกประเทศได้ อยู่ที่แต่ละฝ่ายรับเงื่อนไขได้หรือไม่ ยืนยันรัฐบาลพร้อมเจรจา แต่ต้องอยู่บนหลักการตามกฎหมาย
นายวราเทพ รัตนากร รักษาการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี 7 องค์กรเสนอตัวเป็นคนกลางเจราจาทั้ง 2 ฝ่ายเพื่อหาทางออกให้กับประเทศว่า ขณะนี้ตนยังไม่เห็นรายละเอียด แต่เห็นว่าจะมีการประกาศโรดแมปกันวันจันทร์ที่ 17 มีนาคมนี้ แต่ก็ถือว่าเป็นความพยายามของทุกฝ่ายที่มีเจตนาดีอยากเห็นประเทศเกิดความสงบ แต่จะได้รับความร่วมมือหรือจะสำเร็จหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับแนวทางที่จะดำเนินการ
ผู้สื่อข่าวถามว่า คาดหวังว่า 7 องค์กรเหล่านี้จะสามารถทำให้ประเทศมีทางออกได้จริงหรือไม่ นายวราเทพ กล่าวว่า ตนคิดว่าอยู่ที่เนื้อหาของการพูดคุยกันมากกว่า ถ้าทุกอย่างอยู่บนพื้นฐานของรัฐธรรมนูญ อยู่บนหลักของกฎหมาย และฝ่ายที่เป็นคู่ขัดแย้งยอมรับ ใครก็ได้ ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นองค์กรใด องค์กรหนึ่ง สำหรับรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยยินดีอยู่แล้วและพูดมาตลอดว่าพร้อมเจรจา ถ้าการเจรจานั้นนำไปสู่การยุติความขัดแย้ง และเป็นประโยชน์กับบ้านเมือง
“ส่วนตัวผมมองว่าปัญหาอยู่ที่การยอมรับเงื่อนไขที่จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายกันมากกว่า รัฐบาลขณะนี้ไม่ได้มีข้อแม้ว่า จะต้องเป็นใครที่จะมาเจรจา แต่อยู่ที่คู่ขัดแย้งที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะที่ออกมาคัดค้านต่อต้านรัฐบาลนั้นต้องยอมรับในข้อกฎหมาย ต้องยอมรับเงื่อนไขหรือปฏิบัติตามกฎหมายเสียก่อน อะไรก็ตามที่นอกเหนือกฎหมายรัฐบาลดำเนินการไม่ได้”
ผู้สื่อข่าวถามว่าในส่วนของรัฐบาลจะมั่นใจกับองค์กรเหล่านี้แค่ไหน เพราะส่วนใหญ่เป็นองค์กรที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงการทำหน้าที่จากคนในรัฐบาลแทบทั้งนั้น รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงต้องรอดูท่าทีก่อนว่าเขาจะเดินหน้าเรื่องนี้อย่างไร แต่สิ่งหนึ่งที่รัฐบาลยึดถือมาตลอดคือไม่ว่าองค์กรไหน หากมีเจตนาดีกับบ้านเมือง ต้องการให้เกิดความสงบ และสามารถยุติปัญหาต่างๆ ได้ก็เป็นเรื่องที่ดี เพียงแต่ว่าการเจรจานั้นต้องมีกรอบ และต้องอยู่บนพื้นฐานของกฎหมายรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้องรองรับด้วย ถ้ามีเงื่อนไขที่ต่างจากนี้มันก็คงยากที่จะปฏิบัติได้
นายวราเทพ กล่าวด้วยว่า การที่จะบอกว่าต่างฝ่ายต่างต้องถอยหลังออกมานั้น ก็ต้องดูด้วยว่าข้อเรียกร้องหรือเงื่อนไขนั้นก็จะต้องอยู่บนพื้นฐานของรัฐธรรมนูญก่อน ถ้าบอกให้ถอยหลังกันโดยไม่มีอะไรยึดหนี่ยว หรือไม่ต้องทำตามกฎหมายก็ได้ มันก็จะเป็นปัญหาตามมาอีก
ต่อข้อถามว่า หากทุกคนคิดว่าตอนนี้บ้านเมืองอยู่ในภาวะไม่ปกติ ให้ยกเว้นในเรื่องของกฎหมายไป แล้วมาดูที่เจตนาจะได้หรือไม่ นายวราเทพ กล่าวว่า กฎหมายถึงอย่างไรก็ต้องปฏิบัติตามจะมาบอกให้ยกเว้น หรือไม่ปฏิบัติตามไม่ได้ ไม่เช่นนั้นก็จะนำมาอ้างกันได้ในภายหลัง แต่หากจะให้ยกเว้นกฎหมายบางเรื่อง บางประเด็น ถึงอย่างไรก็ต้องมีกฎหมายมาร้องรับการยกเว้นนั้นอยู่ดี และการดำเนินการเรื่องนี้ก็ไม่ได้ดูว่าจะเป็นองค์กรไหน หรือใครที่จะเข้ามาเป็นคนกลาง อยู่ที่ว่าสิ่งที่ทำจะเกิดประโยชน์จริงหรือไม่ และเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ และตราบใดที่ปัญหายังไม่ยุติ ใครที่มีเจตนาจะเข้ามาทำให้ยุติก็ถือเป็นเรื่องดีทั้งนั้น แต่จะหวังได้แค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับผลที่จะเกิดขึ้น