ทีมกฎหมายเพื่อไทยอาศัยช่วงสื่อเกาะติดวินิจฉัยกู้ 2 ล้านล้าน บุกยื่นศาล รธน.ขอยก 3 คำร้อง เลือกตั้ง 2 ก.พ.โมฆะ-28 เขตโหวตไร้ผู้สมัคร และสถานะของรัฐบาล โบ้ยปัญหาเกิดจากม็อบ องค์กรอิสระ ต้องยุบประชาธิปัตย์ทิ้ง
วันนี้ (12 มี.ค.) ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ มีรายงานว่า ขณะที่คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญกำลังมีการพิจารณาวินิจฉัยว่าร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 169 วรรคหนึ่งและมาตรา 170 รวมถึงตราตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายสิงห์ทอง บัวชุม ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย เข้ายื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญขอให้วินิจฉัยยก 3 คำร้อง ประกอบด้วย 1. คำร้องที่ผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.เป็นโมฆะหรือไม่ โดยมองว่าผู้ตรวจการแผ่นดินไม่มีอำนาจยื่น และกรณีตามคำร้องเป็นการกระทำของบุคคล ไม่ใช่เรื่องของกฎหมายขัดกัน 2. คำร้องที่ กกต.ขอให้วินิจฉัยปัญหาการเลือกตั้ง 28 เขตที่ไม่ผู้สมัคร โดยต้องการให้รัฐบาลออกพระราชกฤษฎีกากำหนดให้มีการลงคะแนนเลือกตั้งใหม่ ทั้งที่ พ.ร.ฏ.เลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.ยังมีผลใช้บังคับอยู่ และ 3. กรณีนายถาวร เสนเนียม แกนนำ กปปส.ยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสถานะของรัฐบาลรักษาการ และความต้องการให้มีนายกรัฐมนตรีคนกลางตามรัฐธรรมนูญมาตรา 7 ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 68 หรือไม่
โดยนายสิงห์ทองมองว่าปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมดมาจากกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กปปส. ขัดขวางการเลือกตั้ง และกปปส. องค์กรอิสระ พรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล แบ่งหน้าที่กันทำโดยมีจุดประสงค์เพื่อให้รัฐบาลรักษาการ การเลือกตั้งเป็นโมฆะ รัฐบาลรักษาการหมดสภาพ ทั้งที่แม้เปิดประชุมรัฐสภาไม่ได้ภายใน 30 วันนับแต่วันเลือกตั้ง แต่รัฐธรรมนูญก็มีบทบัญญัติให้รัฐบาลรักษาการจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่เข้าปฏิบัติหน้าที่ จึงขอให้ศาลยกคำร้องทั้ง 3 แล้ว และให้วินิจฉัยยุบพรรคประชาธิปัตย์พร้อมเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 5 ปีด้วย
วันนี้ (12 มี.ค.) ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ มีรายงานว่า ขณะที่คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญกำลังมีการพิจารณาวินิจฉัยว่าร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 169 วรรคหนึ่งและมาตรา 170 รวมถึงตราตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายสิงห์ทอง บัวชุม ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย เข้ายื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญขอให้วินิจฉัยยก 3 คำร้อง ประกอบด้วย 1. คำร้องที่ผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.เป็นโมฆะหรือไม่ โดยมองว่าผู้ตรวจการแผ่นดินไม่มีอำนาจยื่น และกรณีตามคำร้องเป็นการกระทำของบุคคล ไม่ใช่เรื่องของกฎหมายขัดกัน 2. คำร้องที่ กกต.ขอให้วินิจฉัยปัญหาการเลือกตั้ง 28 เขตที่ไม่ผู้สมัคร โดยต้องการให้รัฐบาลออกพระราชกฤษฎีกากำหนดให้มีการลงคะแนนเลือกตั้งใหม่ ทั้งที่ พ.ร.ฏ.เลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.ยังมีผลใช้บังคับอยู่ และ 3. กรณีนายถาวร เสนเนียม แกนนำ กปปส.ยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสถานะของรัฐบาลรักษาการ และความต้องการให้มีนายกรัฐมนตรีคนกลางตามรัฐธรรมนูญมาตรา 7 ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 68 หรือไม่
โดยนายสิงห์ทองมองว่าปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมดมาจากกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กปปส. ขัดขวางการเลือกตั้ง และกปปส. องค์กรอิสระ พรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล แบ่งหน้าที่กันทำโดยมีจุดประสงค์เพื่อให้รัฐบาลรักษาการ การเลือกตั้งเป็นโมฆะ รัฐบาลรักษาการหมดสภาพ ทั้งที่แม้เปิดประชุมรัฐสภาไม่ได้ภายใน 30 วันนับแต่วันเลือกตั้ง แต่รัฐธรรมนูญก็มีบทบัญญัติให้รัฐบาลรักษาการจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่เข้าปฏิบัติหน้าที่ จึงขอให้ศาลยกคำร้องทั้ง 3 แล้ว และให้วินิจฉัยยุบพรรคประชาธิปัตย์พร้อมเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 5 ปีด้วย
