ผอ.ศรส.อ้างยังไม่ได้สัญญาณ ครม.แต่บอก “ภราดร” แล้วว่าควรเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โยน “ชัยเกษม-สุรพงษ์” คุมแทน บ่นดูแค่แรงงานไม่ควรมีหน้าที่ แย้มถ้ามีเหตุก็มาใช้อีกได้ คราวนี้อำนาจเต็ม โวรัฐไม่ต้องรับผิดชอบถ้ากู้ 2 ล้านล้านไม่ผ่าน แต่มองหลังสงกรานต์มีเหตุ ขู่ ป.ป.ช.ตัดสินค้านสายตามีเรื่องแน่ บอก กกต.แจกเหลือง “คุณชาย” ไม่น่าตื่นเต้น
วันนี้ (12 มี.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) เมื่อเวลา 10.30 น. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) กล่าวถึงการพิจารณายกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในพื้นที่กทม.และปริมณฑลว่า ตนยังไม่ได้รับสัญญาณจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่ตนบอก พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) แล้วว่าควรยกเลิก เพราะนับแต่ศาลแพ่งมีข้อห้าม 9 ข้อ ศรส.แทบไม่มีอะไรทำ แต่เมื่อมีชื่อพระราชกำหนดติดอยู่ ต่างชาติก็วิพากษ์วิจารณ์ ฉะนั้นควรยกเลิก ส่วนจะใช้กฎหมายอะไรแล้วแต่นายกฯ และครม. หลักกฎหมายทั่วไปหรือ พ.ร.บ.ความมั่นคงมีอยู่แล้ว แต่หากใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ตนคงไม่เหมาะที่จะเข้ามาทำหน้าที่ เพราะเป็น รมว.แรงงาน ควรเป็นนายชัยเกษม นิติสิริ รมว.ยุติธรรม หรือนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ ที่ดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) มากกว่า การที่ตนเข้ามาเป็น ผอ.ศรส.ถือว่าเป็นงานพิเศษ ถ้าไม่ใช่สถานการณ์พิเศษ รมว.แรงงานไม่ควรมีหน้าที่ คนละเรื่อง ดังนั้น รมว.ยุติธรรม หรือรองนายกฯ คุมน่าจะตรงกว่า
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากสถานการณ์กลับมารุนแรงอีกจะสามารถประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และหลีกเลี่ยงคำสั่งศาลแพ่ง 9 ข้อ ได้หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ได้ พอประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินใหม่จะสามารถใช้อำนาจได้เต็มที่เหมือนเดิม แต่เชื่อว่าจะมีคนร้องอีก ถ้าการอุทธรณ์คำสั่งศาลแพ่งไม่เป็นผล เพราะมีบรรทัดฐานอยู่ แต่ถ้าการอุทธรณ์เป็นผล การออก พ.ร.ก.ฉุกเฉินจะเกิดประโยชน์
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ส่วนที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.ระบุว่าตั้งแต่ปลายเดือน มี.ค.สถานการณ์จะรุนแรงนั้น ตนเป็นคนไม่ค่อยเชื่อหน่วยงานด้านความมั่นคง แต่มีแหล่งข่าวของตัวเอง สำคัญที่สุดประมาณกลางเดือน เม.ย. คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะชี้มูลคดีรับจำนำข้าวแล้ว ส่วนผลจะออกมาอย่างไรไม่ทราบ ตนเป็นห่วงนายกฯ เรื่องนี้ ส่วนกรณีศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น ถ้าไม่ได้ก็ไม่มีเงินมาพัฒนาประเทศ รัฐบาลไม่เห็นต้องรับผิดชอบอะไร รอ ป.ป.ช.อย่างเดียว ตรงอื่นไม่มีอะไร
เมื่อถามว่า แสดงว่าหลังสงกรานต์มีเรื่องแน่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า “ผมมองอย่างนั้น” เมื่อถามว่า หากผลออกมานายกฯ ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่จะมีผลกระทบต่อรัฐบาลหรือไม่ เพราะรองนายกฯ ยังปฏิบัติหน้าที่ได้ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ผลกระทบมี เพราะนายกฯ ได้รับการยอมรับจากประชาชนสูง ถ้าเอาคนอื่นมาปฏิบัติหน้าที่แทน รัฐบาลจะเซ และทรุด ซึ่งอันตราย ตนถึงบอกว่า ถ้า ป.ป.ช.ตัดสินมีเหตุผลความรุนแรงจะไม่เกิด แต่ถ้าตัดสินค้านสายตาคนดูมีเรื่องแน่ เพราะผู้รักความเป็นธรรมเขามี ไม่ได้มองว่าเป็นคนเสื้อแดงอย่างเดียว แต่คนทั้งประเทศเขาดูอยู่ ในทางปฏิบัตินายกฯ ไม่เกี่ยว ไม่เช่นนั้นต่อไปใครจะเป็นรัฐบาล มีนโยบายอะไรต้องไปขออนุญาต ป.ป.ช. ศาลรัฐธรรมนูญ และกกต.อย่างนั้นหรือ
นอกจากนี้ ร.ต.อ.เฉลิมยังกล่าวถึงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ใบเหลือง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.ว่ายังอีกไกล ลูกชายตน กกต.มีมติ 5-0 ศาลยังยกได้ กรณีนี้แค่มติ 3-2 ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น ทั้งนี้ ตนไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องการเมือง หรือมีนอกมีในอะไร