เกาะกระแส
00 ได้ยินคำพูดของ ปธ.ศาลปกครองสูงสุด หัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุล ที่บอกว่าในยุคนี้เป็นยุคที่สำนักงานศาลถูกยิงถล่ม ผู้พิพากษาถูกขู่ฆ่า มุ่งหมายเอาชีวิต มากที่สุด ชนิดที่ไม่เคยเกิดขึ้นแบบนี้มาก่อนนับตั้งก่อตั้งศาลยุติธรรมในรอบร้อยปี มองอีกมุมหนึ่งมันก็น่าสะท้อนใจ และชี้ให้เห็นว่าบ้านเมืองในยุคนี้มันเข้าสู่ยุคบ้านป่าเมืองเถื่อน "ไร้ขื่อแป"เต็มรูปแบบ เพราะขนาดศาลยังถูกคุกคามแล้วนับประสาอะไรกับชาวบ้านตาดำๆ และคำพูดต่อมาของปธ.ศาลปกครองสูงสุดว่าจะเสนอให้มีหน่วยงาน "ตำรวจพิทักษ์ศาล"ขึ้นมาโดยตรงในการรักษาความปลอดภัย ทั้งสำนักงานศาลและตัวผู้พิพากษา โดยไม่ต้องไปพึ่งพาหน่วยงานภายนอกอีกต่อไป ความหมายลึกๆก็คือ "ไม่น่าไว้ใจ"นั่นแหละ โดยเฉพาะพวก"ตำรวจมะเขือเทศ"ไม่รู้ว่าจะหันกระบอกปืนมาถล่มศาลเมื่อไหร่ก็ได้
00 พูดก็พูดเถอะ มันก็จริงอย่างที่ประธานศาลปกครองสูงสุดกล่าวเอาไว้ รวมไปถึงก่อนหน้านี้ฝ่ายศาลอาญาก็กล่าวในทำนองเดียวกัน ว่าไม่เคยเกิดเรื่องแบบนี้มาก่อน ถึงขนาดใช้อาวุธสงคราม ทั้งระเบิด ปืนกลถล่มกันแบบไม่ยั้ง ล่อกันกลางวันแสกๆ เรียกว่าเหิมเกริมกันสุดๆ ซึ่งรับรองว่าฝ่ายที่ลงมือต้องมั่นใจว่า "ไม่มีทางจับกุมได้"หรือไม่ก็คนที่สั่งการต้อง"มีอำนาจ"มีเครือข่ายใหญ่โตนั่นเอง ซึ่งหากไม่อ้อมค้อมความหมายก็คือ คนที่ลงมือก็ต้องเกี่ยวข้องกับ "ระบอบทักษิณ"เกี่ยวข้องกับ รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อย่างแน่นอน เพราะทุกครั้งที่ศาลตัดสินในทางลบกับคนพวกนี้ ก็จะโดนข่มขู่คุกคาม ผู้พิพากษาถูกขู่ฆ่า ลามปามไปถึงครอบครัวกันเลยทีเดียว ซึ่งอุบาทว์ชาติชั่วอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนจริงๆ ขณะที่หน้าฉากก็ปากดี โดยเฉพาะ ยิ่งลักษณ์ ก็ท่องบทแต่ว่าให้"เคารพกติกา"แต่ข้างหลังกลับให้"ขี้ข้า"ถล่มไม่ยั้ง
00 ที่ว่าในรอบร้อยปีไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้ ไม่เคยมียุคไหนที่ศาลโดนคุกคามถึงขนาดนี้ นอกจากในยุคที่ รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นพรรครัฐบาล มีมวลชนคนเสื้อแดงเป็นเครื่องมือมีวิทยุชุมชน มีสถานีดาวเทียมเสื้อแดงในเครือข่ายปลุกระดมบิดเบือนกรอกหูอยู่ทุกวัน ใช้วาทกรรมซ้ำซากเรื่อง "ไพร่-อำมาตย์"มาปลุกเร้าในเรื่องความอยุติธรรมกดขี่ข่มเหง ทั้งที่ ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัวของเขานั่นแหละที่เป็น "จอมขูดรีด"ทำธุรกิจที่เอาเปรียบ ใช้อำนาจรัฐเป็นเครื่องมือในการกำหนดนโยบายเอื้อประโยชน์ทางธุรกิจ ความจริงก็คือความจริงนั่นคือ ทักษิณ เป็นนักธุรกิจหากำไร ไม่ใช่ประธานมูลนิธิเพื่อการกุศล ถามว่าธุรกิจของ"พานทองแท้ ชินวัตร"ลูกชายของ ทักษิณ มันแสวงหากำไรหรือเปล่า เคยแบ่งกำไร แบ่งหุ้นให้คนเสื้อแดงบ้างหรือเปล่า ก็เปล่า แต่มันก็แปลกที่คนพวกนี้กลับไปบูชา ยอมตายถวายชีวิต จนหน้ามืดตามัว แต่ก็อย่างว่าแหละของแบบนี้มันต้องใช้เวลาได้เรียนรู้ความเจ็บปวดด้วยตัวเอง เหมือนอย่างตอนนี้ที่เราได้เห็น "ชาวนาเสื้อแดง"จำนวนไม่น้อยกำลังเจ็บปวดพูดไม่ออกกับการถูกโกงเรื่องจำนำข้าว จนสิ้นเนื้อประดาตัว และอีกไม่นานหากรูปการณ์ยังเป็นแบบนี้คือ ยิ่งลักษณ์ ยังไม่มีปัญญาหาเงินมาจ่าย ก็จะได้เห็นชาวนาได้ฆ่าตัวตายตามมาอีก
00 อีกด้านหนึ่งนี่คือผลสะท้อนของ "ความห่วย"ชี้ให้เห็นว่า"ของปลอม"มีแต่ราคาคุย จะโทษใครไม่ได้แล้ว จะโทษอำมาตย์แกล้งหรือ ยังคิดว่าศักยภาพของอำมาตย์ในความหมายของคนพวกนี้จะมีมากพอจะสู้กับเครือข่ายโจรในระบอบทักษิณ ได้หรือ เพราะมีทั้งตำรวจขี้ข้า มีฝ่ายความมั่นคง อย่างดีเอสไอ มี ธาริต เพ็งดิษฐ์ ที่ชี้นกเป็นไม้จัดการกับฝ่ายตรงข้ามตลอดเวลา มี ผบ.ตร.พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว มี ผบ.ชน.พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ที่"ได้ดีเพราะโจรทักษิณให้"ลงไปทางชายแดนใต้ก็ส่งเด็กในบ้านอย่าง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ไปเป็น ผอ.ศอ.บต.แล้วผลงานเป็นไง"ลุกเป็นไฟ"จนใกล้เสียดินแดนเต็มแก่แล้ว หันมาพิจารณาตำแหน่งรมต.เริ่มมาตั้งแต่ตัวนายกฯคือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรที่พิสูจน์ชัดแล้วว่า "โง่ได้ใจ"ไม่มีใครเทียบ หากไม่เชื่อก็ลองสังเกตจากคำพูดเธอก็ได้ว่าจริงหรือเปล่า !!
00 แบะท่าออกมาชัดเจนแล้วจะเสนอยกเลิก พรก.ฉุกเฉิน ในอีกวันสองวันนี้ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าประกาศใช้ไปก็ไร้ประโยชน์ ยิ่งสะท้อนให้เห็นถึง"ความล้มเหลว"ของตัวเอง มีแต่ เฉลิม อยู่บำรุง ที่แอ็กอาร์ทสนุกอยู่กับ "ปึ้ง"สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล เท่านั้น ไม่เกิดประโยชน์ใดๆ มิหนำซ้ำการประกาศใช้กม.พิเศษดังกล่าวยังกระทบบรรยากาศการท่องเที่ยว ที่สำคัญกระทบธุรกิจของเครือข่ายตัวเอง ธุรกิจของครอบครัวชินวัตร ของ ยิ่งลักษณ์-ทักษิณ ชินวัตร นั่นแหละ ถึงต้องยกเลิก ในที่สุด ทุด !!