“ธาริต” อ้าง ศาล รธน.วินิจฉัยชัด ไม่คุ้มครองแกนนำม็อบทำผิดกฎหมาย เย้ย “อิสสระ” เจอข้อหาพยายามฆ่ายามแดง ยันไม่นิ่งนอนใจเหตุบึ้ม แต่อ้างคำสั่งศาลแพ่ง ทำตำรวจมีข้อจำกัด เผย สภ.2 จว.จ่อฟัน กกต.ละเว้นเดินหน้าเลือกตั้งแล้ว ทำไขสือศาลใต้ไม่ออกหมายจับขัดขวางเลือกตั้ง
วันนี้ (8 มี.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจปราปรามยาเสพติด (บช.ปส.) เมื่อเวลา 11.50 น.นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษในฐานะกรรมการศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) แถลงผลประชุม ศรส.ว่า ศรส.ได้ร่วมกันพิจารณาคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ได้เผยแพร่เมื่อวันที่ 5 มี.ค.โดยวินิจฉัยเพิ่มเติมว่า การชุมนุมกลุ่ม กปปส.เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพโดยมีเหตุผล แต่การกระทำของแกนนำจะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาหรือไม่ เป็นเรื่องที่ผู้รับผิดชอบในกระบวนการยุติธรรมทางอาญาจะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย จึงมิได้คุ้มครองแกนนำ กปปส.ซึ่งขณะนี้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.ได้ถูกออกหมายจับในข้อหาบกฏ และแกนนำทั้ง 58 คน ก็ถูกดำเนินคดีในคดีพิเศษ ข้อหาร่วมกันเป็นบกฏ ซึ่งอยู่ระหว่างถูกออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหา
นายธาริต กล่าวอีกว่า ล่าสุด นายอิสสระ สมชัย แกนนำ กปปส.กับพวกรวม6 คน ถูกศาลออกหมายจับข้อหาพยายามฆ่า นายยืม นิลหล้า แล้ว ส่วนเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นต่อเนื่องทุกวันในบริเวณการชุมนุม และจุดที่ผู้ชุมนุมเคลื่อนตัวไปปิดล้อม รวมทั้งการยิงระเบิดที่อาคารชินวัตร 3 การยิงปืนใส่ห้องผ่าตัดโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ที่ถนนแจ้งวัฒนะ และเหตุร้ายอื่นๆ ศรส.มิได้นิ่งนอนใจ สั่งให้ตำรวจเข้าดำเนินคดีและจับกุมคนร้ายมาลงโทษโดยเร็วที่สุด แต่ ศรส.และตำรวจมีข้อจำกัดการบังคับใช้กฎหมายอันเป็นผลมาจากคำสั่ง 9 ข้อของศาลแพ่ง ฉะนั้นในวิกฤตเช่นนี้ ศรส.ขอแจ้งเตือนประชาชนให้งดเข้าร่วมการชุมนุม
นายธาริต กล่าวว่า ศรส.ได้ทราบว่าพนักงานสอบสวนตำรวจนครบาลพนักงานสอบสวนของ จ.สตูล และ จ.พัทลุง ได้รับคำร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.กลาง ในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ทำให้เกิดการขัดขวางการเลือกตั้ง และไม่จัดเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเกี่ยวกับการกระทำผิดต่อกฎหมายเลือกตั้งในหลายพื้นที่ มีข้อน่าสังเกตว่าในพื้นที่ที่มีการกระทำผิดเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ศาลได้ออกหมายจับผู้กระทำผิดให้เกือบทุกพื้นที่ คงมีบางพื้นที่โดยเฉพาะภาคใต้ ยังไม่ปรากฏว่ามีการออกหมายจับให้แต่อย่างใด ย้ำเตือนว่าโทษเกี่ยวกับการขัดขวางการเลือกตั้งเป็นความผิดอุกฉกรรจ์ มีโทษจำคุกและปรับ รวมถึงตัดสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี ศรส.จะติดตามและกำชับการดำเนินคดีกับแกนนำ กปปส.ที่ขัดขวางการเลือกตั้งอย่างใกล้ชิด เพื่อนำผู้กระทำผิดมาลงโทษ