ศรส.เผยเตรียมยื่นศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัย กปปส.ชุมนุมไม่ชอบด้วยกฎหมาย “ธาริต” เป็นเป้าหมายถูกปองร้าย ต้องใช้ชายชุดดำอาวุธเต็มอัตราศึกดูแลความปลอดภัย
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะกรรมการศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) แถลงผลการประชุม ศรส.ว่า ศรส.ได้รับรายงานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ว่าได้รับคดีที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง 364 คดี โดยศาลได้ออกหมายจับให้รวมทั้งสิ้น 163 คน ได้ตัวมาสอบสวนแล้ว 66 คน ทั้งนี้เฉพาะเจ้าหน้าที่ กกต.จงใจละทิ้งไม่จัดการเลือกตั้งมีจำนวนถึง 1,451 คน ซึ่งโทษที่เกี่ยวข้องกับการขัดขวางการเลือกตั้งเป็นความผิดอุกฉกรรจ์ที่มีทั้งโทษจำคุกและปรับ รวมถึงการตัดสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 5 ปี ตามกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง
นอกจากนี้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ในฐานะ ผอ. ศรส.ได้ลงนามคำร้องยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อขอให้วินิจฉัยว่าการชุมนุมของ กปปส.เป็นการชุมนุมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยจะนำเสนอข้อมูลต่างๆ โดยเฉพาะการกระทำผิดต่างๆ ของแกนนำ กปปส. อย่างต่อเนื่องและต่างกรรมต่างวาระ ตลอดจนพยานหลักฐานต่างๆ ความเสียหายที่เกิดแก่ประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และความเดือดร้อนของประชาชน ที่จะเสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญ ดังนั้น คำร้องที่ยื่นในวันนี้จึงมีรายละเอียดดังกล่าวอย่างครบถ้วนถึง 89 แฟ้ม (แฟ้มละประมาณ 300 หน้า) โดยการยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ครั้งนี้ ร.ต.อ.เฉลิม จะเป็นผู้ยื่นทั้งในฐานะส่วนตัวและในฐานะผู้อำนวยการ ศรส.ส่วนการยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลแพ่งคาดว่าจะสามารถยื่นได้ภายในสัปดาห์นี้
นายธาริตยังกล่าวถึงกรณีที่ กปปส.บุกไปปิดล้อมบ้านพักส่วนตัวของตนว่า คงจะไม่ดำเนินการใดๆ เพราะเตรียมใจไว้อยู่แล้วในภาวะที่บ้านเมืองไม่ปกติ การกระทำของหลายกลุ่มไม่มีขื่อมีแป ต้องทำใจ เมื่อถามว่าถ้ามีการบุกบ้านอีกจะให้มีการคุ้มกันอีกหรือไม่ นายธาริตกล่าวว่า ต้องมีการดูแลความปลอดภัยในฐานะอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ไม่ใช่นายธาริต เนื่องจากว่าในตำแหน่งหน้าที่รับผิดชอบคดีแกนนำจำนวนมาก และมีการข่าวค่อนข้างชัดเจนว่าตนตกเป็นเป้าหมายปองร้าย จำเป็นต้องมีการดูแลความปลอดภัย