นายกฯ พร้อมคณะ บินลงสกลนคร ตรวจราชการก่อนถกรับมือภัยแล้งอีสาน ติดตาม ศก.ชายแดน ยิ้มรับสาวกที่มาเชียร์ แต่งดจ้อสื่อ “พีรพันธุ์” เชื่อ ายกฯ ขอเลื่อนชี้แจง ป.ป.ช.ปมทุจริตจำนำข้าว อ้างมีสิทธิขอสำนวนเอกสารคดีมาตรวจสอบก่อนรับทราบข้อกล่าวหา ปฏิเสธรัฐบาลจ้าง กวป. ปิดล้อมกดดัน ป.ป.ช.
วันนี้ (6 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.15 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อมด้วยนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายพีรพันธุ์ พาลสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และ พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางโดยเครื่องบินแอมแบร์ของกองทัพบก ออกจากกองการบินกรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) ดอนเมือง ไปยังท่าอากาศยานจังหวัดสกลนคร เพื่อลงพื้นที่ตรวจราชการ และประชุมการรับมือปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ภาคอีสาน รวมถึงติดตามเศรษฐกิจบริเวณชายแดนที่ จ.สกลนคร และมุกดาหาร ระหว่างวันที่ 6-7 มี.ค. 57 โดยนายกรัฐมนตรีมีสีหน้าแจ่มใส ยิ้มทักทายผู้ที่มารอต้อนรับ และไม่ได้มีการให้สัมภาษณ์ใดๆ
ด้านนายพีรพันธุ์กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์จะต้องเข้าชี้แจงข้อกล่าวหาต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ในวันที่ 14 มี.ค.ว่า เบื้องต้นยังไม่ทราบว่านายกรัฐมนตรีจะตัดสินใจอย่างไร แต่ส่วนตัวเชื่อว่านายกรัฐมนตรีจะขอเลื่อนการรับทราบข้อกล่าวหา เนื่องจากในฐานะผู้ถูกร้องมีสิทธิขอข้อมูลจาก ป.ป.ช.มาตรวจสอบก่อนที่จะมีการรับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งอยากให้ ป.ป.ช.ให้เวลาและโอกาสนายกรัฐมนตรีในการตรวจสอบ เพราะเรื่องดังกล่าวมีข้อมูลมาก ในฐานะผู้ถูกกล่าวหาจะได้รับทราบว่าถูกกล่าวในเรื่องอะไรบ้าง
ผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่าสามารถต่อสู้คดีได้ นายพีรพันธุ์กล่าวว่า ถ้าทำตามกฎหมายอย่างตรงไปตรงมาก็มั่นใจ เพราะทราบเบื้องต้นว่าในชั้นอนุกรรมการ นายกรัฐมนตรีไม่ได้เกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าว
ส่วนที่นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช.อาจจะไม่ให้สำนวนเอกสาร เนื่องจากเห็นว่ารัฐบาลจ้างกลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (กวป.) มาป่วนการทำงานของ ป.ป.ช.นั้น นายพีรพันธุ์กล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้จ้างให้ใครป่วน กลุ่ม กวป.ไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล ให้ทาง ป.ป.ช.ไปฟ้องร้องดำเนินคดีเอง ทั้งนี้เห็นว่า ถ้า ป.ป.ช.ไม่ให้เอกสารข้อมูลก็จะใช้ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารปี 40 เพื่อขอข้อมูลว่ามีการกล่าวหาอย่างไร