รมว.วิทย์ ฝากทำความเข้าใจ กกต. พ.ร.ฎ.เลือกตั้งใหม่ ต้องสมาชิกภาพสภาสิ้นสุด 28 เขต มีปัญหารัฐทำไม่ได้ เป็นปัญหา กกต.อย่าโยนภาระรัฐ หากยื่นศาล รธน.ก็รอดูความเห็น เตือน 30 วันหลังเลือกตั้งเปิดสภาไม่ได้อาจถูกยื่นถอด เชื่อหวังลากเลือกตั้งยาวออกไป บีบนายกฯลาออก ปลุกทุกพรรคกดดัน กกต.อย่าทำเข้าทาง กปปส.
วันนี้ (12 ก.พ.) ที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม (สป.กห.) เมืองทองธานี นายพีรพันธุ์ พาลุสุข รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเลื่อนวันเลือกตั้งล่วงหน้าเป็นวันที่ 20 เม.ย.และเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 27 เม.ย.สำหรับพื้นที่ที่มีปัญหาว่า อยากจะทำความเข้าใจไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ถึงความพยายามขอให้รัฐบาลออกพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งใหม่ใน 28 เขตที่ยังมีปัญหา ซึ่งการที่จะออกพระราชกฤษฎีกาใหม่ได้ต้องเป็นกรณีที่สมาชิกภาพสภาสิ้นสุดลง เช่น การยุบสภา การตาย หรือการลาออก แต่ปรากฏว่าใน 28 เขตไม่มีกรณีนี้ และพวกตนที่สมัครและลงคะแนนก็ยังไม่ได้เป็น ส.ส.จึงไม่สามารถออกพระราชกฤษฎีกาใหม่ได้ ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ใช่ปัญหาของรัฐบาล แต่เป็นปัญหาของ กกต.ที่ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งตามอำนาจหน้าที่ได้ และพยายามจะโยนภาระมายังรัฐบาล และหาก กกต.มีมตินำความเห็นนี้มาให้รัฐบาล ตนเชื่อว่านายกรัฐมนตรี จะต้องไปขอความเห็นจากคณะกรรมการกฤษฎีกาในข้อกฎหมาย และถ้าคณะกรรมการกฤษฎีกามีความเห็นอย่างไรก็คงต้องว่าไปตามนั้น และท้ายที่สุดหาก กกต.ยังยืนยันจะส่งเรื่องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญเหมือนที่เคยทำ ก็คงต้องรอดูความเห็นของศาลว่าเป็นอย่างไร
นายพีรพันธุ์ กล่าวต่อว่า การเลื่อนวันเลือกตั้งออกไปเป็นวันที่ 27 เม.ย.มีปัญหาคือรัฐธรรมนูญมาตรา 127 ระบุว่าภายใน 30 วันนับจากวันเลือกตั้งให้มีการเรียกประชุมสภา เพื่อให้มีการสมาชิกได้มาประชุมเป็นครั้งแรก จึงชัดเจนว่าถ้ามีการเลื่อนเลือกตั้งไปเดือน เม.ย.ก็จะเกินกำหนด 30 วัน และมีผู้ให้ความเห็นกับ กกต.ว่าใน 30 วันไม่มีสภาพบังคับเหมือนกับระยะเวลาในหลายเรื่องที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ ตีความได้ว่า เป็นระยะเวลาเพื่อการเร่งรัดไม่มีสภาพบังคับ ตนจึงอยากชี้แจงว่าสภาพบังคับไม่มีใครเขียนไว้ในรัฐธรรมนูญ แต่จะไปอยู่ในกฎหมายอื่น บทกำหนดที่บอกว่าจะต้องเรียกประชุมสภาภายใน 30 วัน มีจุดประสงค์เพื่อไม่ให้รัฐบาลที่รักษาการอยู่นาน จึงต้องเลือกตั้งให้เร็วขึ้นไม่เกิน 60 วัน หลังจากนั้นจะได้เรียกประชุมสภา และเมื่อประชุมเสร็จก็จะเป็นกระบวนการสรรหานายกรัฐมนตรี ตั้งคณะรัฐมนตรีบริหารประเทศ จึงขอเตือนว่าการตีความว่า 30 วันไม่มีสภาพบังคับ ถ้าไม่ทำตามรัฐธรรมนูญ กกต.จะถูกกล่าวหาว่าจงใจไม่ปฏิบัติหน้าที่ ความผิดจะอยู่ที่กฎหมายการเลือกตั้ง มีโทษทางอาญา และอาจจะถูกยื่นถอดถอนได้ตามมาตรา 270
นายพีรพันธุ์ กล่าวด้วยว่า ตนเข้าใจว่ามีความพยายามที่จะลากการเลือกตั้งให้ยาวออกไปเท่าที่จะสามารถทำได้ เพื่อไม่ให้มีการตั้งนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ชุดที่จะมีอำนาจเต็ม มาบริหารราชการแผ่นดินตามกฎหมาย และบีบให้นายกรัฐมนตรีลาออก เพื่อนำไปสู่เรื่องที่ต้องการ ซึ่งมองว่าถ้า กกต.หรือใครก็ตามมีเจตนาอย่างนี้ ไม่ว่าจะสำเร็จหรือไม่ แต่ผลจะตรงกับที่ กปปส.ต้องการ จึงขอเรียกร้องให้ทุกพรรคการเมืองที่ลงสมัครรับเลือกตั้งร่วมกันกดดัน กกต.ให้มีการเลือกตั้งในกลุ่มที่มีปัญหาให้เสร็จสิ้นภายในเดือนมีนาคม เพื่อให้สามารถเปิดประชุมสภาได้