อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ยอมรับข้อท้วงติง กกต. พร้อมปรับรายการให้เป็นกลาง ไม่เอียงข้าง “สมชัย” ระบุหากไม่ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเตรียมเรียกพบอีกรอบ
วันนี้ (5 มี.ค.) ในการประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้เชิญนายอภินันท์ จันทรังษี อธิบดีกรมกรมประชาสัมพันธ์ และนายจำลอง สิงโตงาม ผู้อำนวยการสถานีวิทยุโทรทัศน์ช่อง 11 เข้าชี้แจง กรณีกรมประชาสัมพันธ์ และสถานีวิทยุโทรทัศน์ช่อง 11 นำเสนอรายการที่มีลักษณะก่อให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบแก่บุคคล พรรคการเมืองในช่วงมีการเลือกตั้ง
ภายหลังการชี้แจงราว 30 นาที นายอภินันท์กล่าวว่า หารือเกี่ยวกับการสนับสนุนการประชาสัมพันธ์เลือกตั้งว่าจะทำงานร่วมกันอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อเชิญชวนให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง โดยกรมประชาสัมพันธ์และสถานีวิทยุ สถานีโทรทัศน์ ได้มีการเพิ่มรายการ กกต.พบประชาชน เพื่อเปิดโอกาสให้ กกต.ได้ชี้แจงทำความเข้าใจกระบวนการการเลือกตั้งต่อประชาชน
ส่วนข้อกังวลในเนื้อหาช่วงเลือกตั้ง ทางกรมประชาสัมพันธ์ระมัดระวังการเชิญวิทยากร นักวิชาการ มาแสดงความคิดเห็นในรายการสดมากยิ่งขึ้น ขณะที่รายการที่มีเนื้อหาพาดพิง กกต. ตนและ กกต.ได้มีการพูดคุยกันและชี้แจงว่าการทำงานของสื่อบางครั้ง ก็จะมีการแสดงความคิดเห็นในเชิงวิชาการ ซึ่งยืนยันกับ กกต.ว่าจะทำรายการให้ออกมาให้ดีที่สุด ด้วยรอบคอบและเป็นกลาง เน้นการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการเลือกตั้ง
ด้านนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ภายหลังการเข้าชี้แจงของอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ว่า ประเด็นที่ปรึกษาหารือร่วมกันคือ บทบาทสื่อของรัฐในระหว่างการเลือกตั้งควรเป็นอย่างไร กกต.ได้ขอให้กรมประชาสัมพันธ์ดำเนินการ ดังนี้ 1. ในช่วงการเลือกตั้ง สื่อของรัฐควรนำเสนอเนื้อหาที่เกี่ยวกับการส่งเสริมประชาธิปไตยและทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเลือกตั้ง
2. ระมัดระวังในการนำเสนอเนื้อหาที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง และการเชิญแขกรับเชิญที่มีความคิดการเมืองที่ไม่เอนเอียงไปในทางใดทางหนึ่ง และ 3. ให้มีการตรวจสอบเนื้อหาของรายการที่มีการเช่าเวลาโดยเอกชน ซึ่งมีจุดมุ่งหมายทางการเมือง ตัวอย่างเช่น รายการฟันธง รายการถอดสลักข่าว รายการ The issue หรือรายการอื่นๆ ไม่ควรดำเนินการในลักษณะให้เช่าเวลาขาดโดยไม่สนใจเนื้อหา ซึ่งอาจจะมีปัญหาในด้านเนื้อหาและแขกรับเชิญ ซึ่งอธิบดีและ ผอ.ช่อง 11 รับปากที่จะไปดูแล โดย กกต.ขอบคุณที่รับแนวคิดดังกล่าวไป และจะเฝ้าติดตามการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีที่จะเกิดขึ้น หากยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงจะขออนุญาตเชิญทั้งสองคนมาพบ กกต.อีกครั้งหนึ่ง