รองโฆษก ทบ.เผย ทบ.ปรับ รปภ.ให้มีประสิทธิภาพเพิ่ม มีจุดตรวจมากขึ้น ครอบคลุมที่ล่อแหลมก่อเหตุ ปรับเส้นทางลาดตระเวน ผบ.หน่วยซีลแจง อดีตหน่วยซีลที่ตร.รวบพร้อมอาวุธ เป็นกำลังพลที่ลาออก รับหลายคนมีปัญหาการเงิน แต่ไม่ทราบทำอะไรบ้าง รับ ผบ.ทร.โทร.หา เข้าใจกันดี ลั่นตายก็ต้องตาย ไม่หวั่นถูกย้าย
วันนี้ (25ก.พ.) พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีที่มีการก่อเหตุรุนแรงบริเวณรอบพื้นที่การชุมนุมและสถานที่ต่างๆ ว่า เนื่องจากขณะนี้มีเหตุรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นเพื่อเป็นการสนับสนุนการทำงานของศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง ทางกองทัพบกจึงได้มีการปรับงานการรักษาความปลอดภัย เพื่อให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น โดยจะมีการปรับการวางกำลังให้เหมาะสมยิ่งขึ้น เพิ่มมาตรการเฝ้าระวัง และป้องปราม โดยเฉพาะการปรับเพิ่มให้มีจำนวนจุดตรวจมากขึ้น เพื่อให้ครอบคลุมจุดเสี่ยงรอบพื้นที่ชุมนุมที่ตั้งองค์กรอิสระ และหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม หรือสถานที่ต่างๆ ที่อาจมีความล่อแหลมต่อการก่อเหตุความรุนแรง รวมถึงมีการปรับเส้นทางและเพิ่มความถี่ในการลาดตระเวนของชุดสายตรวจให้มากขึ้น สำหรับงานของชุดปฏิบัติการมวลชนยังคงพร้อมที่จะสามารถดูแลให้บริการกับ เจ้าหน้าที่และประชาชนได้ตลอดเวลา
ด้าน พล.ร.ต.วินัย กล่อมอินทร์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ (นสร.) กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมอดีตทหารหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ (นสร.) หรือหน่วยซีลพร้อมอาวุธได้ที่ จ.ระยอง ว่าเป็นกำลังพลที่ลาออกไปล็อตใหญ่จำนวน 60 นายเมื่อหลายปีก่อน ซึ่งในช่วงที่สนามบินสุวรรณภูมิเปิดบริการได้มีบริษัทรักษาความปลอดภัยว่าจ้างกำลังพลส่วนที่ปลดประจำการเหล่านี้ไปทำงาน แต่ปรากฏว่าบริษัทไม่ได้ปฏิบัติตามที่มีการเซ็นสัญญาว่าจ้างไว้ ทำให้พวกเขาลาออกและไปรับจ้างในส่วนต่างๆ แต่ยอมรับว่าหลายคนมีปัญหาเรื่องการเงินเพราะลาออกไปแล้วไม่มีรายได้ ซึ่งตนไม่ทราบว่าไปทำอะไรบ้าง
ทั้งนี้ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ได้โทรศัพท์สอบถามข่าวที่เกิดขึ้นแต่ไม่ได้ว่าอะไร และบอกให้ตนอยู่เฉยๆ เพราะท่านก็เข้าใจ คนเหล่านี้ไม่ได้เป็นกำลังพลสังกัดกองทัพเรือแล้ว จึงนอกเหนือการควบคุมของเรา เมื่อถามว่าเกรงไหมว่าจะถูกย้ายออกจากตำแหน่งหลังมีข่าวไปสนับสนุนการ์ดให้กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. พล.ร.อ.วินัยกล่าวว่า “คนเราจะตายก็ต้องตาย จะย้ายก็ถูกย้าย”