เลขาฯ ทัพเรือเผย 3 ทหารเรือถูก สน.นางเลิ้งรวบ มีคำสั่ง ศพส.ทร.ไปปฏิบัติหน้าที่หาข่าวจับยาเสพติดจริง พร้อมสั่งถอยแล้ว หวั่นเข้าใจผิดอีก ระบุพกบัตร คปท.เป็นบัตรผ่านทางแฝงในพื้นที่ บอก สตช.คอนเฟิร์มไม่เกี่ยวบึ้มอนุสาวรีย์ชัยฯ
วันนี้ (21 ม.ค.) พล.ร.ต.กาญจน์ ดีอุบล เลขานุการกองทัพเรือ กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.นางเลิ้ง ได้จับกุมทหารเรือ 3 นาย พร้อมอาวุธในบริเวณพื้นที่การชุมนุมเมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า หลังจากเกิดเหตุ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ได้สั่งการให้หน่วยต้นสังกัด คือ กองเรือยุทธการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน โดย พล.ร.อ.พิจารณ์ ธีรเนตร ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ แต่งตั้ง พล.ร.ต.วิเลิศ สมาบัติ รองเสนาธิการกองเรือยุทธการ เป็นประธานกรรมการสอบสวนกำลังพลทั้ง 3 นาย โดยสรุปผลการสอบสวนได้ว่ากำลังพลทั้ง 3 นาย เป็นกำลังพลในชุดตรวจค้นและจับกุมในการสนับสนุนชุดปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดกองทัพเรือ (ศพส.ทร.) และมีการลงคำสั่งให้ไปปฏิบัติหน้าที่อย่างถูกต้องตามระเบียบที่เกี่ยวข้องจริง โดยคำสั่งดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่รวม 10 นาย ซึ่งในขณะที่โดนจับกุม กำลังพลทั้ง 3 นายกำลังปฏิบัติหน้าที่ติดตามข่าวยาเสพติดอย่างต่อเนื่องจากพื้นที่ภาคตะวันออกเข้ามาในพื้นที่กรุงเทพฯ
พล.ร.ต.กาญจน์กล่าวว่า เมื่อเกิดเหตุ ผบ.ทร.ได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการ ศพส.ทร.กลับเข้าสู่ที่ตั้งปกติ เพื่อเป็นการป้องกันการเข้าใจผิด และป้องกันการกล่าวอ้างที่จะเป็นเหตุให้เกิดความขัดแย้งในการชุมนุม รวมถึงเพื่อความสะดวกในการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนกรณีที่กำลังพลทั้ง 3 นายมีบัตร คปท. เพราะต้องใช้เป็นบัตรผ่านทางเพื่อให้สามารถเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ซึ่งต้องผ่านเข้าไปยังพื้นที่การชุมนุม สำหรับยานพาหนะ และอาวุธนั้น เป็นของทางราชการ มีการเบิกจ่ายอย่างถูกต้องตามระเบียบทุกประการ เพื่อใช้ในการเดินทาง และการป้องกันตนเองในขณะปฏิบัติหน้าที่ ส่วนกรณีที่มีการก่อเหตุโยนระเบิดใส่ผู้ชุมนุม ณ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เมื่อวันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมานั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ยืนยันแล้วว่าผู้ก่อเหตุไม่ใช่กำลังพลของกองทัพเรือตามที่มีการเผยแพร่กันในโซเชียลมีเดีย โดยได้มีการออกหมายจับแล้วและจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป