องค์กรวิชาชีพสื่อ 4 แห่ง ออกแถลงการณ์ประณามการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ เรียกร้องให้รัฐบาลดูแลความสงบเรียบร้อยของประเทศ เร่งสืบสวนหาตัวคนร้ายดำเนินคดี วอนผู้ชุมนุม กปปส.และสนับสนุนรัฐบาลต้องใชัสิทธิการชุมนุมสงบ ปราศจากอาวุธ ไม่ปิดกั้นคุกคามการทำงานข่าว และเสนอข่าวสารที่ถูกต้อง เป็นธรรมกับทุกฝ่าย
วันนี้ (24 ก.พ.) สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ และสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ออกแถลงการณ์ในหัวข้อ “แถลงการณ์ประณามการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ” ระบุว่า เหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องระหว่างการชุมนุมของ กปปส.นับเป็นสัญญาณความรุนแรงที่มีโอกาสบานปลายมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญโดยเฉพาะกรณีกลุ่มคนร้ายใช้รถกระบะขับโฉบเข้าโยนระเบิดและกราดปืนเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุมเครือข่าย กปปส.ที่อำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 คนและบาดเจ็บร่วม 50 ราย รวมทั้งเด็ก สตรีและคนชรา กรณีคนร้ายยิงระเบิดเอ็ม 79 เข้าที่ชุมนุมที่บริเวณหน้าห้างบิ๊กซี ราชประสงค์ กรุงเทพฯ เป็นเหตุให้เด็กสองคนพี่น้องต้องเสียชีวิต และชาวบ้านบาดเจ็บอีก 21 คน รวมทั้งความรุนแรงที่เกิดขึ้นบริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ จนทำเกิดการเสียชีวิตและบาดเจ็บของเจ้าหน้าที่ตำรวจและประชาชนผู้ร่วมชุมนุม เป็นการกระทำอันมีลักษณะเป็นการวางแผนและปฏิบัติการอย่างมีเป้าหมายและหวังผล ให้ผู้ชุมนุมมีการบาดเจ็บล้มตายแบบไม่เลือกหน้าเห็นได้ชัดว่าเป็นการจงใจสร้างสถานการณ์อย่างไร้มนุษยธรรมและป่าเถื่อนโหดร้ายอย่างยิ่ง
องค์กรวิชาชีพสื่อ 4 องค์กร ประกอบด้วย สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย มีความเห็นต่อสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น ดังนี้
1.เราขอประณามการกระทำเช่นนี้เพราะถือว่าเป็นการกระทำที่มีเจตนาทำร้ายชีวิตประชาชนอย่างชัดเจน รวมทั้งขอคัดค้านการใช้ความรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่ว่าเป็นการกระทำของฝ่ายใดก็ตาม
2.ขอเรียกร้องให้รัฐบาลรักษาการที่ต้องรับผิดชอบดูแลความสงบเรียบร้อยของประเทศ เร่งทำการสืบสวนสอบสวนนำตัวผู้กระทำความผิดจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดมาลงโทษโดยไม่ละเว้นการบังคับกฎหมายต่อฝ่ายใด องค์กรวิชาชีพสื่อ เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และเจ้าหน้าที่รัฐ ที่รักความเป็นธรรมต่างไม่อาจยอมรับได้กับเหตุการณ์เหล่านี้ ดังนั้นจึงขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ผู้ถืออำนาจรัฐและรับผิดชอบรักษาความสงบต้องเร่งสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อนำคนก่อเหตุเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างเร็วที่สุดเพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่อาจเกิดขึ้นอีก
3.เรียกร้องให้กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.และแนวร่วมที่ต่อต้านรัฐบาล รวมทั้งกลุ่มมวลชนที่สนับสนุนรัฐบาลต้องใชัสิทธิการชุมนุม การแสดงออกทางการเมืองที่สงบและปราศจากอาวุธภายใต้รัฐธรรมนูญอย่างเคร่งครัดและระงับการใช้ความรุนแรงในทุกรูปแบบ แกนนำของผู้ชุมนุมทั้งสองฝ่ายและเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงต้องรับประกันความปลอดภัยของประชาชนที่ได้ใช้สิทธิการชุมนุมอย่างสงบอย่างแท้จริง รวมไปถึงการไม่ปิดกั้นคุกคามการทำงานของนักข่าวในภาคสนามและการปิดล้อมกดดันใดๆ ต่อสถานีวิทยุและโทรทัศน์รวมไปถึงสำนักข่าวต่างๆ
4.สื่อมวลชนทุกแขนงควรตระหนักถึงการเสนอข่าวในสถานการณ์ความขัดแย้ง ที่ต้องเสนอข่าวสารที่เป็นข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมา เป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพื่อให้สาธารณชนสามารถรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง ป้องกันไม่ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งนำมาเป็นข้ออ้างในการยั่วยุเพื่อให้เกิดความรุนแรง
สุดท้ายนี้ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ขอเป็นกำลังใจให้สื่อมวลชนทุกแขนงทำหน้าที่อย่างเข้มแข็ง ซื่อสัตย์ในวิชาชีพ ยึดถือประโยชน์ของสาธารณะและประเทศชาติเป็นหลัก