xs
xsm
sm
md
lg

ศรส.แก้ลำฟ้อง “สุเทพ-กปปส.” ใช้ระเบิด อาวุธทำ ตร.ตายเจ็บ แย้มแดงเตรียมลุยมวลชน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ธาริต เพ็งดิษฐ์ (แฟ้มภาพ)
ศรส.เตรียมอุทธรณ์คำสั่งศาล ห้ามสลายม็อบ อ้าง ศรส.ทำงานลำบาก พร้อมเตรียมฟ้อง “สุเทพ-กปปส.” ร่วมกันก่อให้ผู้อื่นใช้ระเบิด อาวุธ ยิงตำรวจตาย บาดเจ็บ แย้มสัปดาห์หน้าแก๊งแดงเตรียมจัดการ กปปส. เหตุ ศรส.บังคับใช้กฎหมายไม่ได้

นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะกรรมการศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) แถลงผลการประชุม ศรส.เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (21 ก.พ.) ว่า ศรส. ได้รับหมายของศาลแพ่ง แจ้งคำบังคับในคดีที่นายถาวร เสนเนียม เป็นโจทก์ฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี จำเลยที่ 1, ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ในฐานะ ผอ.ศรส. จำเลยที่ 2 และ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. จำเลยที่ 3 ซึ่งคำบังคับดังกล่าวเป็นผลให้ ศรส.ต้องปฏิบัติตามทันที

อย่างไรก็ตาม ศรส.ขอยืนยันว่าจะได้ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลแพ่ง รวมทั้งขอให้ศาลอุทธรณ์สั่งทุเลาการบังคับตามคำพิพากษาของศาลแพ่งตามกฎหมายต่อไปด้วย แต่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ซึ่งจะต้องใช้เวลานานพอสมควรนั้น ศรส.มีความกังวลใจเป็นอย่างยิ่งที่ ศรส.และเจ้าหน้าที่ ศรส.ทุกคนจะไม่สามารถปฏิบัติภารกิจโดยเฉพาะส่วนที่เป็นสาระสำคัญตามที่กฎหมายกำหนดไว้ได้ เพราะคำพิพากษาของศาลแพ่งที่สั่งห้าม ศรส.ทั้ง 9 ข้อ สภาวะเสมือนสุญญากาศที่ขาดการบังคับใช้กฎหมายเช่นนี้ เป็นความเสี่ยงสูงต่อการที่สังคมจะเพิ่มความขัดแย้งและความไม่สงบสุขมากขึ้นอีก เพราะกลุ่มประชาชนทั้งที่เห็นด้วยกับ กปปส.และที่ไม่เห็นด้วย ต่างก็มีจำนวนมากด้วยกันทั้งคู่ และด้วยความเดือดร้อนของประชาชน ด้วยการกีดขวางการจราจรตามถนนและสี่แยกต่างๆ เพราะกปปส.สามารถเคลื่อนการชุมนุมไปตามที่ต่างๆ ได้โดยเสรีตามใจชอบ จนเกิดภาวะวิกฤติในเมืองหลวงของประเทศ การปิดล้อมสถานที่ราชการ โรงแรม และบริษัทสถานที่ทำการของเอกชน การขัดขวางการเลือกตั้งซึ่งจะต้องเกิดขึ้นอีกแน่นอน โดยเฉพาะความเสียหายทางด้านเศรษฐกิจซึ่งเกิดขึ้นทุกๆ มิติ และทวีความรุนแรงมากขึ้น จึงอาจเกิดการกระทบกระทั่งและเข้าจัดการกันเองได้ เพราะภาครัฐไม่อาจบังคับใช้กฎหมายได้ ซึ่งจะเป็นสภาวะที่ไม่พึงประสงค์เป็นอย่างยิ่ง

นายธาริตกล่าวว่า ศรส.มีความวิตกว่า ผลจากคำพิพากษาของศาลจะทำให้แกนนำ กปปส. สามารถนำเอากลุ่ม ผู้ชุมนุมไปกระทำการใดๆ โดยเฉพาะการปิดล้อม ปิดกั้น และยึดครองสถานที่ราชการและสถานที่เอกชนต่างๆ ได้ตามอำเภอใจ ดังเช่นเช้าวันนี้ (21 ก.พ.) แกนนำ กลุ่มกองทัพประชาชนและเครือข่ายปฏิรูปพลังงานไทย (กคป.) แนวร่วม กปปส.ก็ได้นำกลุ่มผู้ชุมนุมไปปิดล้อม ยึดครองกรมพลังงานทดแทน แล้วใช้อาวุธปืนจี้บังคับให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเปิดประตูแล้วบุกเข้าไปยึดครอง ทั้งนี้ ศรส.ใคร่ขอความร่วมมือนักกฎหมายและนักวิชาการต่างๆ ได้กรุณาให้ข้อแนะนำแก่ถึงแนวทางและวิธีการที่ ศรส.จะดำเนินการต่อไปอย่างไร จากการที่ศาลแพ่งได้มีคำพิพากษาดังกล่าวด้วย

นายธาริตกล่าวว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผอ.ศรส.ได้แจ้งต่อที่ประชุมว่า จะได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลอาญาว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.กับพวกได้ร่วมกันก่อให้ผู้อื่นใช้วัตถุระเบิดและอาวุธปืนยิงทำร้ายตำรวจ ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่เป็นเหตุให้ถึงแก่ความตายและบาดเจ็บสาหัสจำนวนมากในการปฏิบัติหน้าที่เมื่อวันที่ 18 ก.พ.ที่บริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ

อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่ ศรส.ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ตามคำพิพากษาของศาลแพ่งได้นั้น นอกจาก ศรส.ขอแสดงความเสียใจต่อพี่น้องประชาชนแล้ว ศรส.ใคร่ขอวิงวอนประชาชนทั้งที่สนับสนุนกลุ่ม กปปส. กลุ่มที่ต่อต้าน กปปส. กลุ่ม นปช. และกลุ่มอื่นๆ โปรดเห็นแก่ความสงบสุขและความเดือดร้อนของประชาชน โดยเฉพาะความเสียหายด้านเศรษฐกิจของประเทศชาติ กรุณางดเว้นหรือยุติการกระทำใดๆ ที่จะก่อให้เกิดความวุ่นวายและความเสียหายต่อชาติบ้านเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งอย่าได้เข้าเผชิญหน้าหรือเข้าแก้แค้นจัดการกันเอง เพราะจะทำให้ปัญหาของประเทศในขณะนี้เพิ่มความวิกฤติมากขึ้นไปอีก และยากต่อการแก้ไขเยียวยาเป็นอย่างยิ่ง

นายธาริตกล่าวถึงการเดินทางมาชุมนุมด้านหน้าสโมสรตำรวจของกลุ่ม กปปส. เมื่อเวลา 11.30 น.วันเดียวกันนี้ว่า เจ้าหน้าที่ไม่ได้จงใจปล่อยให้ผ่านทางเข้ามาด้านใน แต่ว่าห้ามไม่ได้ การเข้ามาในสถานที่ราชการ อย่างอาคาร ห้องทำงาน ก็จะใช้กฎหมายปกติ เช่น การบุกรุกสถานที่เข้าดำเนินการ แต่ถ้าเป็นถนนสาธารณะ ถ้าศาลแพ่งไม่มีคำสั่งห้าม ก็สามารถดำเนินการและจับกุมได้ แต่เมื่อศาลมีการกลับไปบังคับใช้กฎหมายปกติ ก็ยังทำได้ลำบาก เพราะศาลแพ่งระบุว่าผู้ชุมนุม มีสิทธิเสรีภาพ และในข้อห้ามที่ระบุว่าห้ามขับไล่ รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง แต่ในกฎหมายจราจรปกติให้อำนาจทำได้ เมื่อมีการขัดขวางการจราจร

“ผมคาดว่าสัปดาห์หน้าเราจะเห็นม็อบขึ้นมาอีกหลายม็อบ เพราะฝั่งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับ กปปส.ก็เยอะ ซึ่งตอนนี้ไม่มีกฎหมายควบคุม เขาก็ออกมากัน และสิ่งที่กังวลคือการจัดการกันเอง เพราะไม่มีหน่วยงานของรัฐเป็นคนกลางบังคับใช้กฎหมาย สิ่งที่ ศรส.ทำได้ขณะเดียวขณะนี้คือวิงวอน หรือสวดมนต์ เราขอให้นักกฎหมายเก่งๆ แนะนำ ศรส.ด้วย ไม่ใช่เพื่อ ศรส. แต่เพื่อประเทศ”


กำลังโหลดความคิดเห็น