มติ ป.ป.ช. เอกฉันท์เรียก “ยิ่งลักษณ์” รับทราบข้อกล่าวหาโกงจำนำข้าว 27 ก.พ.นี้ บ่ายสองโมง ระบุเป็นประธานคณะกรรมการข้าวแห่งชาติ รับทราบเรื่องทุจริตและผลขาดทุนถึง 2 แสนล้าน สตง.ส่งหนังสือจี้ทบทวน-ยุติโครงการแต่ยังเดินหน้า แสดงเจตนาละเว้นเพื่อให้ราชการเสียหาย
วันนี้ (18 ก.พ.) นายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงข่าวระบุว่า ตามที่ประธานวุฒิสภาให้ส่งคำร้องขอให้วุฒิสภาถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ด้วยข้อกล่าวหาจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย และกรณีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีเหตุควรสงสัยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวและการระบายข้าว โดยเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ทางรายชการตามอำนาจหน้าที่นั้น ป.ป.ช.ได้มีมติให้ไต่สวนข้อเท็จจริงในคดีดังกล่าว โดยให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ทั้งคณะไต่สวนข้อเท็จจริง ปรากฎว่ามีพยานหลักฐานทั้งพยานบุคคลและเอกสารยืนยันชัดเจนว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ได้รับหนังสือจาก ป.ป.ช. ที่ทักท้วงว่าโครงการรับจำนำข้าวจะก่อให้เกิดปัญหาทุจริตอย่างมหาศาล ทุกขั้นตอนและกระบวนการ
นอกจากนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้รับทราบเรื่องทุจริตในการดำเนินโครงการจากการอภิปรายในสภาฯ และได้รับรายงานผลการดำเนินโครงการจากประธานอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการจำนำข้าวเปลือกว่าเสียหายถึง 2 แสนล้านบาท รวมทั้งชาวนาที่ร่วมโครงการยังไม่ได้รับเงินอีกเป็นจำนวนมาก ทำให้เดือดร้อนเสียหายอย่างหนัก ประกอบกับมีหนังสือจากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินให้ทบทวนและยุติโครงการ ซึ่งการดำเนินการในปัจจุบันได้เกิดปัญหาทุจริตในการรับจำนำข้าว การระบายข้าว และการชำระหนี้ให้แก่เกษตรกรผู้ร่วมโครงการ แทนที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์จะระงับยับยั้งโครงการตาม พ.ร.บ.ระเบียบการบริหารราชการแผ่นดิน มาตรา 11 (1) กลับยืนยันที่จะดำเนินโครงการต่อไป
“จึงแสดงถึงเจตนาของผู้ถูกกล่าวหาที่จะปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการหรือโดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และเป็นการจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ มาตรา 178 อันเป็นเหตุแห่งการถอดถอนออกจากตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญมาตรา 270 คณะกรรมการ ป.ป.ช.ในฐานะองค์คณะไต่สวนได้มีมติเป็นเอกฉันท์ในวันนี้ให้มีหนังสือเรียก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ผู้ถูกกล่าวหามาพบและแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบตามระเบียบการไต่สวนทุจริต ในวันที่ 27 ก.พ. เวลา 14.00 น.” นายวิชากล่าว