หน.ปชป.เข้าให้ถ้อยคำ ป.ป.ช.ปมจำนำข้าว ย้ำนายกฯ ฐานะ ปธ.กขช.ต้องรับผิดชอบ สัปดาห์หน้า “หมอวรงค์” มาแจงซ้ำให้ดิ้นไม่หลุด ชี้โกงค่อนข้างชัด เล็งหาช่องอื่นยื่นเลือกตั้งโมฆะ แนะนายกฯ คุย กกต.หาทางออก จะได้ไม่ต้องพึ่งศาล ลั่นหากยังดื้อขวางต้องยื่นตีความสองอำนาจขัดแย้งกัน
วันนี้ (13 ก.พ.) ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เข้าให้ถ้อยคำต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.ในกรณีร้องขอให้ถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กรณีกล่าวหาว่าทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ในฐานะผู้ร้อง โดยใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง โดยนายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ภายหลังให้ถ้อยคำว่า ตนได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับบทบาทของนายกฯ และบทบาทของประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ว่าจะต้องมีความรับผิดชอบอย่างไร และที่ผ่านมาได้มีการให้ข้อมูลกับนายกฯตลอดว่าเกิดการทุจริตอย่างไรบ้าง ส่วนรายละเอียดนั้นในสัปดาห์หน้า นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ จะเดินทางมาให้ข้อมูลต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.ถึงการทุจริตที่เกิดขึ้นว่ามีเรื่องใดบ้าง และเกิดความเสียหายแค่ไหน อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนการทำงานของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ทั้งองค์คณะในการพิจารณาเรื่องนี้ตนไม่ทราบว่าจะใช้เวลานานเท่าใด เพราะไม่ทราบว่าได้เชิญใครมาให้ถ้อยคำบ้าง แต่คณะกรรมการ ป.ป.ช.จะเปิดโอกาสให้ตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้มาชี้แจง
“รัฐบาลบอกว่าจะขายข้าว แต่ทำไมไม่ขายและพยายามสร้างประเด็นขึ้นเพื่อไปโทษคนอื่น ทั้งที่ตัวเองเป็นหนี้ย่อมมีหน้าที่จ่าย ถ้าเอาข้าวไปขายเพื่อนำเงินมาจ่ายเขาเรื่องก็จบทำไมจะต้องเที่ยวโยงไปเกี่ยวข้องกับคนอื่นด้วย ทั้งธนาคาร กปปส. พรรคประชาธิปัตย์ ผมคิดว่าขณะนี้เรื่องการทุจริตค่อนข้างชัด ปัญหาการขายแบบรัฐต่อรัฐก็เป็นเรื่องปลอม ปัญหาการเวียนข้าวอะไรต่างๆ ข้อเท็จจริงก็ปรากฎอยู่กับนายกฯอยู่แล้ว” นายอภิสิทธิ์กล่าว
นายอภิสิทธิ์กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องของพรรคประชาธิปัตย์ที่ขอให้วินิจฉัยการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.เป็นโมฆะว่าพรรคประชาธิปัตย์ได้ร้องไปตามมาตรา 68 ซึ่งศาลจะต้องพิจารณาว่าเข้าข่ายการได้มาซึ่งอำนาจโดยมิชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ แต่ศาลระบุว่าไม่มีมูลเพียงพอ ดังนั้น คงต้องดูช่องทางอื่นกันต่อไปตามความเหมาะสม โดยข้อเท็จจริงหากรัฐบาลกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ข้อสรุปที่ตรงกันว่าไปต่อไม่ได้ก็น่าจะเป็นข้อสรุปที่ดีที่สุด เพราะไม่ต้องการให้เป็นคดีความกันโดยไม่จำเป็น
อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลจะได้ดูหนังสือที่ กกต.ส่งไปเสียก่อนก็จะดี แต่เท่าที่ตนเห็นหนังสือยังไม่ถึงมือก็ออกมาปฏิเสธข่มขู่เขาเสียแล้ว ตนอยากให้ทำงานเร็วกว่านี้ ทำไมจะต้องรอไปอีกหนึ่งสัปดาห์ ตนไม่เข้าใจ เรื่องที่สำคัญอย่างนี้นายกฯ กับ กกต.ควรรีบคุยกันให้ได้ข้อยุติ ถ้า กกต.กับรัฐบาลตกลงกันได้แล้วเห็นตรงกันว่าการเลือกตั้งมีปัญหาข้อกฎหมายมากมายแล้วไปไม่ได้ ควรใช้โอกาสนี้มาตั้งต้นพูดคุยหาทางออกสำหรับประเทศ อย่างนี้ดีที่สุด ไม่ต้องไปศาล แต่ถ้ารัฐบาลไม่ยอมทำ ขวางอยู่ และกกต.ไม่เห็นด้วยก็คงจะไปศาลในช่องที่ว่าอำนาจมีความขัดแย้งกัน
