มือปราบโกงจำนำข้าว เชื่อเกี่ยวข้องกันรัฐออก พ.ร.ก.ฉุกเฉินสกัดชาวนาเข้ากรุงร่วม กปปส. เหตุผู้ชุมนุมออกมาแยะไม่กลัวรัฐ แถมไร้เงินจ่ายชาวนา จึงขู่ฐานเสียงตัวเอง กันมาสมทบ ฉะไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยประกาศใช้ ดิ้นเอาตัวรอด
วันนี้ (22 ม.ค.) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินอาจเพื่อสกัดกั้นชาวนาบุกเข้ามาเคลื่อนไหวร่วมกับกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) นั้น นพ.วรงค์กล่าวว่า ตนคิดว่าเกี่ยวข้องกัน เปรียบเสมือนเหมือนคนพาลที่เถียงเขาไม่ได้ ในทางจิตวิทยาเวลาที่เถียงกันไม่ได้ด้วยเหตุด้วยผลก็จะทุบโต๊ะ หรือถ้ามีปืนก็จะชักปืนขึ้นมาขู่ วันนี้รัฐบาลเจอผู้ชุมนุมและผู้ชุมนุมไม่กลัว มีคนออกมาเยอะแยะรัฐบาลก็ไปไม่เป็น แล้วมาเจอเรื่องจำนำข้าวซึ่งล่มไม่เป็นท่า ไม่มีเงินจ่ายชาวนาและกลัวว่าชาวนาจะเข้ามาสมทบ เพราฉะนั้นมีอาวุธก็คือ พ.ร.ก.ฉุกเฉินก็เอามาขู่
“ถ้ามีสถานการณ์อะไรที่สุกงอมแล้วประกาศ ก็เชื่อว่าประชาชนรับได้ แต่จู่ๆ กลับประกาศแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ซึ่งขณะนี้โครงการจำนำข้าวล้มเหลว ก็เหมือนกับว่าเป็นการขู่ประชาชนขู่ชาวนา ไม่ให้เข้าร่วมกับ กปปส. ทั้งที่เป็นฐานเสียงของรัฐบาล ผมคิดว่าวันนี้รัฐบาลคงมองแค่เอาตัวรอดให้ได้มากกว่า จริงอยู่ชาวนาคือฐานเสียงของเขา แต่วันนี้เขาทำอย่างไรให้ชีวิตรอดให้ได้ก่อน ให้สถานการณ์และสถานะของตัวเองมีความมั่นคงก่อน แล้วค่อยดิ้นรนไปหาเงินให้ชาวนาภายหลัง และวันนี้ต้องการไม่ให้ชาวนามาร่วมชุมนุมก่อน ฉะนั้นผมเชื่อว่ามีความสัมพันธ์กันอยู่ เพราะชาวนาฮึ่มๆ มาตลอดว่าจะเข้ามา กทม.เพื่อร่วมกับ กปปส. และการประกาศเมื่อวานนี้ก็สอดคล้องกับที่รัฐบาลไม่มีเงิน คิดว่าคงไม่สามารถจะกู้เงินได้” นพ.วรงค์กล่าว