บุตรสาวแกนนำ กปปส.เข้าร้องเรียนต่อ กมธ.สิทธิมนุษยชน วุฒิสภา จี้สอบตำรวจปีนรั้วเข้าไปตรวจค้นบ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่แสดงหมายค้น พร้อมแสดงภาพจากกล้องวงจรปิด ตั้งข้อสังเกตชายฉกรรจ์ไม่แต่งเครื่องแบบบุกรุกบ้าน แถมพกพาอาวุธเกินเหตุ ยึดเสื้อเกราะ-วิทยุใช้ทำงานข่าว “สมชาย” ยันภาพวงจรปิดของจริงไม่ตัดต่อ เหน็บ “ธาริต” โตแล้วไม่ควรโกหก เตรียมเชิญมาชี้แจง
วันนี้ (13 ก.พ) ที่ห้อง 309 อาคารรัฐสภา 2 เมื่อเวลา 13.10 น. น.ส.กิ่งการะเกด ชื่นฤทัยในธรรม บุตรสาวของ นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม แกนนำ กปปส.ที่ถูกจับกุมตัวในข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ พล.อ.อ.วีรวิท คงศักดิ์ ส.ว.สรรหา ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน วุฒิสภา ให้ตรวจสอบกรณีดังกล่าวเนื่องจากพบว่ามีการละเมิดสิทธิมนุษยชน โดย น.ส.กิ่งการะเกด ได้ชี้แจงต่อกรรมาธิการ ว่า เนื่องจากในคืนเกิดเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจสายสืบเข้าจับกุมพ่อของตนนั้น ได้มีการบุกรุกปีนบ้านและเข้าค้นโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีการแสดงหมายค้นแต่อย่างใด ซึ่งตนตกใจมาก จึงโทร.ไปขอความช่วยเหลือจาก นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา และกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน และก็ได้รับคำแนะนำให้หลบอยู่แต่ในห้อง และให้โทร.ไปประสานทางญาติพี่น้องเพื่อให้ช่วยเหลือเพิ่มเติม
อย่างไรก็ดี เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็มี นางไหม รสหอม พี่เลี้ยงในบ้าน เป็นผู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดด้วย โดยนางไหม กล่าวว่า ส่วนตัวได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด โดยสามีของตนเป็นผู้เห็นชายฉกรรจ์บุกเข้ามาบ้าน พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนกระทั่งตนรีบออกไปดู เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้พยายามข่มขู่ขอกุญแจบ้าน แต่ปฏิเสธไปว่าไม่มีกุญแจบ้านอยู่ที่ตัว และในบ้านก็มีเด็กหนึ่งคน ซึ่งเป็นลูกของตนที่ร้องไห้ ก็พยายามขอเข้าไปดูแลเด็ก แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ยอม แต่ในท้ายที่สุดก็ยอมให้ตนไปดูแลเด็ก ยกเว้นผู้ชายในบ้านที่ถูกกันบริเวณไว้
นอกจากนี้ น.ส.กิ่งการะเกด ได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดของบ้านในคืนเกิดเหตุมาประกอบการชี้แจงนานกว่า 20 นาทีด้วย โดย นายฉัตรชัย ภู่โคกหวาย รองกรรมการผู้อำนวยการ สำนักข่าวทีนิวส์ ก็ได้ร่วมชี้แจงว่า จากการที่สำนักข่าวทีนิวส์ร่วมกันตรวจสอบภาพวงจรปิดดังกล่าว พบว่า มีความน่าสงสัยถึง 2 ประเด็น คือ 1.มีชายฉกรรจ์ที่ไม่แต่งกายในเครื่องแบบเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกรุกบ้าน ก็ถือว่าไม่ปกติแล้ว 2.ลักษณะการบุกรุกและการพกพาอาวุธของเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับเหมือนว่าบุกบ้านคนร้าย หรือบุกจับคดียาเสพติด ซึ่งไม่ถูกต้อง ขณะเดียวกัน ยังมีการยึดเสื้อเกราะ และวิทยุสื่อสารสำหรับการรายงานข่าว ซึ่งพบในรถของนายสนธิญาณ แต่เจ้าหน้าที่กลับแจ้งข้อหาคนขับรถ และคนดูแลบ้าน ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดแปลก
ด้าน นายสมชาย กล่าวว่า ตนยืนยันแทนได้ว่าภาพกล้องวงจรปิดดังกล่าวไม่มีการตัดต่อตามที่ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ กล่าวหา เพราะตนกับ น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.สรรหา ได้ดูและตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นคนแรก และเป็นผู้เผยแพร่เอง ดังนั้น จึงไม่มีการตัดต่อแต่อย่างใด นายธาริต เองก็เป็นผู้ใหญ่จึงไม่ควรโกหก ทั้งนี้ ทางกรรมาธิการจะได้เชิญ ผกก.สภ.โพธิ์แก้ว จ.นครปฐม ให้มาชี้แจงพร้อมหมายค้น เพราะพื้นที่ดังกล่าวไม่ได้เป็นพื้นที่ตามประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งอาจมีการกระทำเกินกว่าเหตุของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะเดียวกัน จะได้ตรวจสอบชายฉกรรจ์ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริงหรือไม่ พร้อมทั้งจะเชิญ นายธาริต เข้าชี้แจงเช่นกัน ซึ่งจะเป็นการเชิญครั้งที่ 3 แล้ว หากยังไม่มาอีกก็คงจะต้องใช้ พ.ร.บ.คำสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการต่อไป
