“สุรพงษ์” เผยคลอดรายชื่อท่อน้ำเลี้ยง กปปส.ได้วันนี้ ไม่หวั่นส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น ขู่แกนนำอย่าเผลอเจอจับแน่ อ้างตำรวจปีนรั้ว บุกค้นบ้าน “สนธิญาณ” ยามวิกาลเป็นการตรวจค้นตามขั้นตอนกฎหมาย จวก “สมชัย” หยุดเพ้อเจ้อ เร่งจัดการเลือกตั้งให้จบ เหน็บ กกต.เหมือนไม่อยากให้สำเร็จ
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ ในฐานะประธานที่ปรึกษาศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) กล่าวก่อนเข้าประชุม ศรส. ถึงการประกาศรายชื่อกลุ่มทุนท่อน้ำเลี้ยงที่สนับสนุนการชุมนุมของ กปปส.ว่า คาดว่าจะมีการประกาศรายชื่อกลุ่มทุนท่อน้ำเลี้ยงจำนวน 136 รายชื่อ ได้ในวันที่ 12 ก.พ.นี้ เบื้องต้น ศรส.จะให้เป็นผู้ต้องสงสัยเข้าชี้แจงก่อน หากใครชี้แจงได้ถือว่าจบ แต่หากชี้แจงไม่ได้อย่าว่ากัน วิธีการทุกอย่างจะทำเหมือนกับสมัยที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.เป็นผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ทั้งหมด และการเปิดเผยรายชื่อครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น เพราะใครทำอะไรรู้อยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ขอปฏิเสธว่า ศรส.ไม่ได้ถูกบีบให้จัดการกับกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.ให้เด็ดขาดกว่านี้ แต่เราได้ดำเนินการทุกอย่างมาตามขั้นตอน ไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรงเหมือน ศอฉ. ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ขอให้อดทนอดกลั้นให้มากที่สุด ดังนั้น ทุกอย่างเราจะทำโดยละมุนละม่อม อาจจะต้องใช้เวลาสักนิด แต่ต้องว่ากันตามกฎหมาย
“แกนนำ กปปส.ที่มีหมายจับเราพยายามที่จะจับ แต่จะไม่เข้าไปจับในที่ชุมนุม เพราะอาจจะเกิดความรุนแรง โดยได้ตั้งทีมเฝ้าติดตาม ทราบว่าตอนนี้นอนอยู่ในเวที ใช้คนล้อมไว้ เผลอเมื่อไรเราจะจับ ก็อย่าเผลอละกัน”
ส่วนกรณีที่บุตรสาวนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม อดีตผู้บริหารสำนักข่าวทีนิวส์ และแกนนำ กปปส.ร้องเรียนว่าการบุกตรวจค้นบ้านเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ เพราะมีการปีนรั้วบ้านและเข้าไปยามวิกาลนั้น นายสุรพงษ์กล่าวว่า เป็นการค้นตามขั้นตอนของกฎหมาย แล้วเจอเสื้อเกราะและวิทยุสื่อสาร ซึ่งเป็นสิ่งที่คนปกติไม่ควรจะครอบครองเอาไว้ เพราะเป็นยุทธภัณฑ์ทางสงคราม ใครมีครอบครองเอาไว้มีความผิดตามกฎหมายอาญา ทั้งนี้ ตนคิดว่าทางตำรวจทำด้วยความรอบคอบ คงไม่ทำอะไรให้ผิดกฎหมายอยู่แล้ว การที่จะปีนเข้าไปตามภาพวิดีโอเขาคงมีขั้นตอน คงไม่ได้บุกเข้าไปอย่างที่พยายามจะเข้าใจผิดกัน
นายสุรพงษ์กล่าวด้วยว่า อยากจะฝากไปถึงนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการบริหารจัดการเลือกตั้งว่า ควรจะรีบจัดการเลือกตั้ง ขอให้ยุติการเพ้อเจ้อ อย่าพูดมากจนเกินไป ทำงานให้เร็วที่สุดตามขั้นตอนของกฎหมาย การที่จะโยนบางเรื่องมาที่รัฐบาลนั้นไม่ใช่เลย ท่านต้องเข้าใจเพราะมีกฎหมายอยู่ในมือ ถ้า กกต.เป็นผู้มีความรู้ทางกฎหมายจะอ่านกฎหมายเข้าใจอยู่แล้ว นายสมชัยอย่าเพ้อเจ้อและจินตนาการจนเกินไป สิ่งที่กำลังเสนอมานั้นไม่ใช่วิธีการ อดีต กกต.คอยชี้แนะให้อยู่แล้วว่าจะดำเนินการได้อย่างไรบ้าง แต่นายสมชัยทำหน้าที่เกินเลย
ส่วนการเลือกตั้งเขตที่เหลือซึ่ง กกต.จะจัดขึ้นในเดือน เม.ย.นั้นดีแล้ว ขอให้รีบดำเนินการตามกฎหมาย โดย ศรส.พร้อมดูแลความเรียบร้อยอยู่แล้ว ถ้า กกต.ขอความร่วมมือมาให้ชัดเจน แต่ กกต.เหมือนไม่ทำการบ้านก่อนที่จะขอ เหมือนไม่อยากให้การเลือกตั้งสำเร็จ