xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.ยุ “สนธิญาณ” เอาผิดรัฐทำเกินกว่าเหตุ ปูดขี้ข้าจ่อปราบม็อบปูทางอำมาตย์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“องอาจ” ชี้รัฐจับอดีต ผอ.ทีนิวส์ หวังเขียนเสือให้วัวกลัว ขู่ผู้มีส่วนชุมนุม ฉะคลุมเครือพูดล่วงหน้าขังเพิ่ม 30 วัน ใช้อำนาจมิชอบบุกค้นบ้าน ขัด ม.17 ห้ามให้ปฏิบัติในฐานะผู้ทำผิด ตอกนายกฯ ลุอำนาจจัดการเห็นต่าง ยุเอาผิดทำเกินกว่าเหตุ ซัด ศรส.ใช้อำนาจมิชอบ สั่งห้ามดำเนินธุรกรรม อายัดบัญชีผู้ถูกชี้เป็นท่อน้ำเลี้ยง คุกคาม ขรก. ฉะขู่ตบทรัพย์หรือไม่ “จุฤทธิ์” ปูดมีขี้ข้าหวังปราบม็อบเซ่น “นช.แม้ว” เพื่อเป็นอำมาตย์

วันนี้ (12 ก.พ.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการจับกุมนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม แกนนำ กปปส.ว่าเป็นความพยายามเขียนเสือให้วัวกลัว ข่มขู่แกนนำ ผู้ชุมนุมและผู้สนับสนุนการชุมนุม โดยพยายามสร้างความคลุมเครือในการดำเนินคดีต่อนายสนธิญาณ เช่น มาตรา 12 ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน บัญญัติว่า การจับกุมควบคุมผู้ต้องสงสัยตามมาตรา 11 (1) ให้ร้องขอต่อศาลเพื่อขออนุญาต ควบคุมตัวได้ไม่เกิน 7 วัน ซึ่งเจ้าหน้าที่มีการพูดล่วงหน้าว่าเมื่อครบ 7 วันจะควบคุมตัวอีก 30 วันหากยังสืบสวนไม่เสร็จสิ้น ส่วนการขยายเวลาต้องร้องต่อศาลโดยขอได้คราวละ 7 วันเท่านั้น โดยจะต้องพิจารณาเป็นครั้งๆ ไป นอกจากนี้ ในมาตรา 12 บัญญัติไว้ชัดเจนว่า ห้ามมิให้พนักงานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติกับผู้ต้องสงสัยในลักษณะเป็นผู้กระทำผิดมิได้ แต่พฤติกรรมของตำรวจที่บุกค้นบ้านนายสนธิญาณ ชี้ให้เห็นชัดเจนว่าเป็นการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ และขัดต่อมาตรา 17 ที่ระบุว่าต้องดำเนินการโดยสุจริตเท่าที่จำเป็น ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะแม้มีหมายจับนายสนธิญาณแต่กฎหมายระบุชัดว่าจะปฏิบัติในฐานะผู้ทำผิดไม่ได้ แต่ตำรวจกลับมีพฤติกรรมทำเหมือนนายสนธิญาณและครอบครัวกระทำความผิด ตำรวจไม่มีสิทธิปีนบ้านคนอื่นเข้าไปถือเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ แสดงถึงความลุแก่อำนาจ เพราะไม่ใช่การกระทำความผิดซึ่งหน้า อีกทั้งคนในบ้านไม่ได้ทำผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

“ผมกล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ว่าใช้อำนาจความเป็นนายกฯ ดำเนินการกับคนเห็นต่างจากรัฐบาล ใช้อำนาจโดยมิชอบ ลุแก่อำนาจ และเรียกร้องให้ครอบครัวนายสนธิญาณ เอาผิดกับเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยความละเมิดของเจ้าหน้าที่เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างให้มีการใช้อำนาจหน้าที่เกินกว่าเหตุเหมือนที่ดำเนินการกับกรณีนายสนธิญาณ” นายองอาจกล่าว

นายองอาจกล่าวว่า ศรส.ได้พยายามใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเล่นงานผู้ชุมนุม ซึ่งเป็นการใช้อำนาจโดยมิชอบหลายประการ คือ 1. ใช้อำนาจโดยมิชอบผ่านกลไกรัฐ สั่งอายัดบัญชีของผู้ที่รัฐบาลกล่าวหาว่าเป็นกบฏ ถือเป็นการดำเนินการโดยมิชอบ เพราะดีเอสไอมีอำนาจเรียกการเคลื่อนไหวทางบัญชีของผู้ต้องสงสัย หากจะอายัดมีสิทธิอายัดเฉพาะการเคลื่อนไหวเท่านั้น ไม่สามารถสั่งการห้ามการดำเนินธุรกรรมใดๆ ได้ 2 การอายัดบัญชีหรือระงับการทำธุรกรรมของบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่รัฐบาลอ้างว่าเป็นท่อน้ำเลี้ยงนั้น รัฐบาลทำได้แค่เพียงเชิญบุคคลเหล่านั้นมาชี้แจงข้อเท็จจริง ไม่มีอำนาจดำเนินการสั่งระงับยับยั้งการทำธุรกรรมทางการเงิน 3. รัฐบาลพยายามข่มขู่ คุกคาม ข้าราชการ ทั้งทางลับและทางเปิดเผย โดยผู้บริหารระดับสูงหลายกระทรวงเรียกประชุมข้าราชการ ประกาศห้ามไม่ให้ไปร่วมชุมนุมแม้จะเป็นเวลานอกราชการก็ตาม ว่าจะเอาผิดทั้งวินัยและอาญาไม่ให้มีความก้าวหน้าในการประกอบอาชีพข้าราชการต่อไป ดังนั้นจะเห็นได้ว่ารัฐบาลกำลังใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเพราะข้าราชการมีสิทธิตามรัฐธรรมนูญที่จะชุมนุม ซึ่งศาลเคยมีคำวินิจฉัยชัดเจนอยู่แล้วว่าสามารถแสดงออกด้วยการชุมนุมได้ และศาลอนุมัติหมายจับเฉพาะแกนนำเท่านั้น แต่ห้ามไม่ให้ขัดขวางเรื่องการส่งเสบียง อาหาร เครื่องใช้จำเป็น

“การเปิดเผยรายชื่อท่อน้ำเลี้ยง กปปส. เป็นการข่มขู่คุกคาม หวังผลทางการเมืองมากกว่าผลทางกฎหมาย หรือมีความพยายามแสวงหาประโยชน์ในลักษณะข่มขู่ ตบทรัพย์หรือไม่ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่น่ารังเกียจขอให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ควบคุมพฤติกรรมดังกล่าวอย่าให้เกิดขึ้น”

ด้านนายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฏ์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ได้รับทราบว่าการเดินทางไปพม่าเพื่อแก้กรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดีนั้น มีคนที่อยากเป็นอำมาตย์นำเครื่องบรรณาการไปเซ่น พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วยการจัดการกับผู้ชุมนุม เพื่อให้ตัวเองได้เป็นรัฐมนตรีและกลับมาเป็นรัฐบาล จึงเชื่อว่าจะมีการสลายการชุมนุมในเร็ววันนี้ จึงขอฝากไปยัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ว่าเป็นแค่หุ่นเชิดขอให้ลาออก เอาเวลาที่เหลือไปอยู่กับคนที่รัก ก่อนไม่มีแผ่นดินอยู่หรือต้องไปแก้กรรมเหมือนที่พี่ชายตระเวณทำอยู่


กำลังโหลดความคิดเห็น