หน.ปชป.เผยพร้อมลงเลือกตั้ง หากมีการปฏิรูป แต่ไม่ใช่ลาออกดื้อๆ หรือออกกฎหมายเลือกตั้ง วอนนายกฯ ยอมรับความจริง หากยึดพี่ชายบ้านเมืองวุ่นวาย เย้ยพวกทำป้ายใครขวางจำนำข้าวเขียนไปเถอะ ซัดรัฐบาลพยายามโยนบาปธนาคาร กังขาทำไมไม่ขายข้าว ปิดบังทำไม เชื่อรัฐพยายามใช้กลไกโรงสี ของบกลางในที่ประชุม ครม.พรุ่งนี้
วันนี้ (10 ก.พ.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขณะนี้มีจุดร่วมหลายฝ่ายที่สังเกตจากผลโพลที่ทำการสำรวจผู้ชุมนุมหลายฝ่าย เห็นตรงกันหลายเรื่องคือ 1.ต้องการเดินหน้าปฏิรูปประเทศ 2.ทุกคนไม่เอาปฏิวัติ 3.การเลือกตั้ง 2 ก.พ.เดินหน้าต่อไปไม่ได้ และ 4.คนที่จะจัดการปฏิรูปและการเลือกตั้งครั้งต่อไปต้องไม่ใช่คู่ขัดแย้ง
“ถ้ามีการปฏิรูปแน่นอน ขณะเดียวกันการเลือกตั้งเป็นที่ยอมรับทุกฝ่าย พรรคประชาธิปัตย์ก็พร้อมจะลงเลือกตั้ง แต่ไม่ใช่บอกว่านายกฯ ลาออกหรืออยู่ดีๆ บอกว่า มีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง 4 พ.ค.แล้วมาถามพรรคประชาธิปัตย์ลงเลือกตั้งไหม อย่างนี้สถานการณ์ก็อยู่ที่เดิม” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า เชื่อว่าปัญหาขณะนี้มีทางออก แต่อยู่ที่รัฐบาลซึ่งเป็นผู้มีอำนาจจะยอมรับ จุดร่วมของประชาชนหรือไม่ มองว่าการไม่ยอมรับจุดร่วมของรัฐบาลจะทำให้เสียโอกาสหลายด้าน ทั้งเศรษฐกิจ การแก้ไขปัญหาของชาวนา ความเสี่ยงต่อการปะทะ ซึ่งตอนนี้รัฐบาลต้องเปิดทางให้มีการพูดคุยเพื่อเดินหน้า หากรัฐบาลพยายามรักษาอำนาจอยู่ สุดท้ายแค่ยื้อชั่วครู่ชั่วยามบนความสุญเสียของประเทศ ยิ่งนานยิ่งเสียหายและสุดท้ายจะรักษาไม่ได้ เพราะทางที่รัฐบาลเดินอยู่กำลังไปสู่ทางตัน
ส่วนกรณีที่รัฐบาลยืนยันว่า จะให้ กกต.เดินหน้าจัดการเลือกตั้ง ให้ได้ ส.ส.ครบทุกเขตนั้น นายอภิสิทธิ์ ย้อนถามว่า จัดแล้วเปิดสภาภายใน 30 วันได้หรือไม่ ยังไม่มีใครมั่นใจ เพราะที่ผ่านมามีข้อกฎหมายมากมายที่มีปัญหาอยู่ ประชาชนเองก็แสดงออกในวันเลือกตั้งแล้วว่าส่วนใหญ่ เขาไม่ได้ไปเลือกพรรคการเมืองที่ลงสมัคร
“หากตนเองไม่มีความสุข ประเทศไทยก็จะไม่มีความสุข นั่นคือเป้าหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่เหตุใดคนไทยคนอื่นต้องไปสนองความต้องการเขาแล้วปล่อยให้คนไทยทั้งประเทศต้องเดือดร้อน ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯและ รมว.กลาโหม จะต้องรับผิดชอบ ถ้ายังคิดว่าประโยชน์ของพี่ชายสำคัญกว่าบ้านเมืองจะวุ่นวาย และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็จะมีความทุกข์ขึ้นเรื่อยๆ ถ้านายกฯอยากจะรักษาประชาธิปไตยอย่างที่พูดจริง ก็ต้องเริ่มต้นจากการยอมรับความจริง 4 ข้อ ของประชาชนก่อน” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีมีการขึ้นป้ายตามจังหวัดต่างว่า “ใครเอ่ยขวางจำนำข้าว” นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เขียนไปเถอะ ไปห้ามไม่ได้ แต่คนที่มีความรับผิดชอบ มีตำแหน่งอย่างนายกฯต้องคิดอะไรให้ได้มากกว่านั้น การพูดคุยระหว่างชาวนากับรัฐบาลในวันนี้สุดท้ายก็ไม่สำเร็จ เพราะขาดความชัดเจนว่ารัฐบาลจะจ่ายเงินให้ชาวนาเมื่อไหร่ โดยรัฐบาลพยายามออกมาตอกย้ำเรื่องที่จะขอกู้เงินจากธนาคาร พยายามทำให้เหมือนกับว่าปัญหาทั้งหมดขึ้นอยู่กับธนาคาร ขอย้ำว่าตามแผนของรัฐบาลตั้งแต่ก่อนยุบสภารัฐบาลต้องขายข้าวได้เงินมา 1.3 แสนล้านบาท ซึ่งเพียงพอจะจ่ายชาวนาที่รอคอยอยู่ในขณะนี้ ทางแก้เดียวคือต้องขายข้าว
“ทำไมไม่ขาย ปิดบังอะไร กลบเกลื่อนอะไร ข้าวหายไปไหน หรือข้าวไม่เป็นอย่างที่อยู่ในเอกสาร ซึ่งขณะนี้หลายฝ่ายพยายามช่วยชาวนาอยู่ แต่มีข้อจำกัดเพราะว่าตัวใบประทวนเป็นเอกสารซึ่งเป็นข้อผูกมัดของเกษตรกร กับหน่วยงานในโครงการ และรัฐบาล ปัญหาคือความมั่นใจว่าหากเข้าไปช่วย จะสามารถช่วยได้แค่ไหน และในส่วนที่เป็นสัญญากับรัฐบาลจะเป็นอย่างไร ตนก็พยายามพูดคุยกับหลายฝ่าย แต่ดูแล้วไม่มีวิธีไหนง่ายกว่าการที่รัฐบาลขายข้าวอีกแล้ว” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ส่วนกรณีที่รัฐบาลจะของบกลางในการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 11 ก.พ.นี้ เพื่อนำงบกลางมาจ่ายชาวนานั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เข้าใจว่า เป็นความพยายามใช้กลไกของโรงสี จากที่ฟังมีข้อจำกัดมากในวิธีการนี้ ที่จริงแล้วหากได้เงินมาจ่ายชาวนาดีทั้งนั้น แต่การขายข้าวแล้วเอาเงินมาจ่ายชาวนาง่ายที่สุดแล้ว