เลขาฯ สมช.ยอมรับสั่งดูแลสำนักงานปลัดกลาโหม ที่ทำงานชั่วคราว “ยิ่งลักษณ์” ขั้นสูงสุด ใช้กำลังตำรวจและทหารรวมแล้ว 33 กองร้อย รับมือ กปปส.บุกปิดล้อม เย้ยผู้ชุมนุมแค่วาทกรรมเดินสายปิดสถานที่ราชการแต่ไม่เป็นรูปธรรม โวรัฐบาลสามารถเปิดที่ทำงานให้ข้าราชการแล้วหลายจุด รอลุ้นศาลออกหมายจับ 19 แกนนำบ่ายนี้ ส่วนชายชุดดำอยู่ระหว่างการสืบสวนในเชิงลึก เชื่อจะตรวจสอบได้ในที่สุด
วันนี้ (5 ก.พ.) พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการรักษาความปลอดภัยในสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม (สป.กห.) เมืองทองธานี ซึ่งเป็นสถานที่ทำงานชั่วคราวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในขณะนี้ว่า จะเรียกว่าการรักษาความปลอดภัยที่ สป.กห.ขณะนี้อยู่ในขั้นสูงสุดก็ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในพื้นที่เมืองทองธานี เนื่องจากพื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่อยู่ในประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินอยู่แล้ว เพียงแต่อาจจะมีมาตรการที่เข้มข้นขึ้น เช่น ห้ามเข้าอาคารบางแห่ง หรือห้ามใช้เส้นทางบางเส้นทาง ซึ่งถือเป็นมาตรการที่เข้มขึ้นของเจ้าหน้าที่ โดยหากมีรายงานว่ากลุ่ม กปปส.จะเข้ามา ก็จะมีการจัดระเบียบตามแผนที่วางไว้และสกัดกั้นไม่ให้ กปปส.เข้ามา
พล.ท.ภราดรกล่าวว่า ขณะนี้มีการเพิ่มเติมกำลังเข้ามาแล้ว โดยกำลังที่เตรียมไว้ทั้งหมดในส่วนของตำรวจมี 30 กองร้อย ส่วนทหารมีอยู่ 2 กองร้อย ซึ่งรวมถึงทหารอากาศที่มาเพิ่มเมื่อวานอีก 1 กองร้อยด้วย โดยทหารที่มีสัดส่วนน้อยเพราะต้องการให้เน้นดูแลเฉพาะสถานที่เท่านั้น ส่วนตำรวจจะอยู่รอบนอกทั้งหมดและคิดว่าคงไม่ต้องเพิ่มกำลังทหารแล้ว เท่าที่มีอยู่น่าจะเพียงพอ
ผู้สื่อข่าวถามว่าทางกลุ่ม กปปส.ยังคงประกาศปิดสถานที่ราชการต่อไป กฎหมายจะทำอะไรได้ พล.ท.ภราดรกล่าวว่า เป็นการประกาศ แต่ความเป็นรูปธรรมจะเกิดหรือเปล่าเราก็ต้องดูกันต่อไป แต่จริงๆ แล้วเมื่อวานเราก็สามารถเปิดสถานที่ราชการบางแห่งได้แล้ว ที่ศูนย์ราชการ เช่นกระทรวงยุติธรรม และวันนี้จะมีการขยายผลเพื่อให้เปิดทำการได้มากขึ้น โดยเฉพาะกรมการกงสุล เพื่อให้บริการประชาชนได้ และยังมีกระทรวงแรงงาน กระทรวงเกษตรฯ ที่เปิดแล้ว ส่วนที่ ซอยอารีย์ คาดว่าน่าจะเปิดได้ในวันพรุ่งนี้ อย่างไรก็ตาม วันนี้ช่วงบ่ายจะรอฟังหมายจับแกนนำ กปปส.19 คนว่าศาลจะออกให้หรือไม่ ส่วนของหลวงปู่พุทธอิสระ ศาลจะพิจารณาพรุ่งนี้ 13.30 น.
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในการหารือเมื่อวาน นายกรัฐมนตรีได้กำชับอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ พล.ท.ภราดรกล่าวว่า นายกฯ ให้นโยบายกับเจ้าหน้าที่ไม่ให้ใช้ความรุนแรง และให้เน้นการบังคับใช้กฎหมายให้เข้มข้นขึ้น ซึ่งขณะนี้ก็เริ่มดำเนินการตามกฎหมายแล้วภายหลังการเลือกตั้งเสร็จสิ้นทั้งผิดกฎหมายเลือกตั้ง ผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือการก่อเหตุต่างๆ ซึ่งจะมีการประชุมพิจารณาเรื่องของคดีทุกวันเพื่อเร่งรัดให้เกิดเป็นรูปธรรม
ส่วนชายชุดดำที่เข้ามาก่อเหตุหลายจุดในกลุ่ม กปปส.มีการตรวจสอบด้วยหรือไม่ เลขาฯ สมช.กล่าวว่า เราได้ตรวจสอบอยู่และเริ่มลึกเข้าไปเรื่อยๆ แล้ว ซึ่งอยู่ในวิสัยที่เราจะตรวจสอบได้ เพียงแต่ขณะนี้ทางนิติวิทยาศาสตร์ขอการยืนยันที่ชัดเจนอีกหน่อย ตอนนี้เราชัดเจนว่าชายชุดดำเหล่านี้เข้าไปแฝงตัวอยู่ใน กปปส.ซึ่งเรายังไม่ชัดเจนว่าเป็นมือที่ 3 ที่เข้าไปแฝงหรือเป็นคนในกลุ่ม กปปส.เอง ซึ่งจากภาพหรือหลักฐานที่มีก็พอรู้ว่าเป็นใครมาจากไหน
