ปชป.จัดหนัก ยื่นเลือกตั้งโมฆะ ยุบ พท. ถอดนายกฯ-ครม. ห่วงรัฐแถชาวนาโบ้ยธนาคาร

โฆษก ปชป.แถลงประชุม กก.บห.ครั้งแรก กำชับตามติดเลือกตั้งส่อโมฆะ บ่ายนี้ยื่นศาล รธน. ขัด ม.68 นายกฯ ไม่ฟัง กกต.เตือน ขอยุบ พท. ใช้อำนาจให้ได้เปรียบการเมือง ถอดนายกฯ-ครม. โต้ยื่นคำร้องได้แม้ไม่ลงเลือกตั้ง ชี้ความผิดสำเร็จแล้ว ยกเลือกตั้งเหลวครั้งนี้ ปชช.ต้องการปฏิรูป สร้างระบอบการเมืองให้ยอมรับก่อน ห่วงรัฐเอาตัวรอด โยนบาปธนาคาร ซัดไม่โกงก็มีเงินช่วยชาวนา ไล่ระบายข้าว หวั่นมีลอบขายข้าว



วันนี้ (4 ก.พ.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ครั้งแรก หลัง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รับรอง โดยในที่ประชุมหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้กำชับภารกิจหลายประการแม้ว่าพรรคจะไม่ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งนี้ก็ตาม โดยประเด็นที่มีการดำเนินการในขณะนี้ คือ มีการยื่นต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อส่งเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยว่าการเลือกตั้งขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพราะไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้วันเดียวกันทั่วประเทศ จนไปถึงไม่สามารถประกาศเลือกตั้งใน 28 เขตที่ไม่สามรถเลือกตั้งได้ รวมถึงการให้ข่าวของพรรคเพื่อไทยเกี่ยวกับคะแนนเสียง ทั้งที่หลายเขตยังไม่สามารถเลือกตั้งได้ อาจกระทบต่อการตัดสินใจของประชาชน จนทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะหรือไม่

นายชวนนท์กล่าวด้วยว่า เวลา 15.00 น. ฝ่ายกฎหมายของพรรคจะยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ 2 ประการ คือ ขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 เพื่อให้ได้อำนาจการปกครองโดยไม่เป็นไปตามวิถีทางของรัฐธรรมนูญ โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไม่รับฟังคำเตือนของ กกต.ว่าไม่สามารถจัดการเลือกตั้งให้สุจริตเที่ยงธรรมได้ และขอให้ยุบพรรคเพื่อไทยเพราะใช้อำนาจฝ่ายบริหารให้เกิดความได้เปรียบผู้สมัครรายอื่น เช่น การประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทำให้เกิดความได้เปรียบควบคุมคนอื่นในการแสดงออกทางการเมือง เพราะมีผู้บริหารพรรคเพื่อไทยร่วมเป็นกรรมการใน ศรส.ด้วย

นอกจากนี้ พรรคจะยื่นถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ และครม.ทั้งหมดที่ประพฤติผิดในการจัดการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา โดยจะรวบรวมรายชื่อประชาชน 2 หมื่นรายชื่อเพื่อยื่นต่อ ป.ป.ช.ต่อไป และขอย้ำว่าที่พรรคเพื้อไทยวิจารณ์ว่าพรรคไม่มีสิทธิยื่นคำร้องให้เป็นโมฆะเพราะไม่ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะเมื่อเห็นว่ามีการจัดการเลือกตั้งทุจริตไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญก็สามารถยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าพรรคเพื่อไทยใช้การเลือกตั้งเป็นช่องทางให้ได้มาซึ่งอำนาจการปกครองที่ไม่เป็นไปตามวิถีทางของรัฐธรรมนูญ สิ่งเหล่านี้เป็นผลกรรมความผิดสำเร็จแล้วที่พรรคต้องดำเนินการตามกฎหมายเพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นแก่ประเทศไทยในอนาคต

ทั้งนี้ ยังมีการวิเคราะห์ตัวเลขผู้มาใช้สิทธิว่าหากมีการรวมประชาชนที่ไม่ได้ใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าแล้ว จำนวนผู้มาใช้สิทธิน้อยกว่าที่มีการประกาศอยู่ในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม อย่างน้อยประชาชน 15 ล้านคน ปฏิเสธการเลือกตั้งครั้งนี้ และเมื่อวิเคราะห์รายเขตแล้วก็มีคะแนนโหวตโนมากกว่าคะแนนเลือกผู้สมัคร แม้แต่ในพื้นที่ภาคอีสานที่เป็นฐานเสียงสำคัญของพรรคเพื่อไทย แสดงให้เห็นว่าประชาชนต้องการให้มีการปฏิรูปประเทศก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง เพราะประชาชนขาดความเชื่อมั่นนักการเมือง จึงต้องสร้างระบอบการเมืองที่คนไทยให้การยอมรับก่อนเสนอตัวเป็นตัวแทนประชาชน ซึ่งพรรคเพื่อไทยต้องยอมรับความไม่ปกติของการเลือกตั้งครั้งนี้

โฆษกประชาธิปัตย์กล่าวต่อว่า ที่ประชุมพรรคแสดงความเป็นห่วงกรณีโครงการจำนำข้าว เพราะรัฐบาลมิได้มีเจตนาหาทางชำระเงินให้ชาวนา แต่ดิ้นรนหาข้ออ้างกับชาวนามากกว่า โดยผู้กำลังเป็นแพะรับบาป คือ ธนาคารของรัฐ และธนาคารพาณิชย์ ทั้งที่รัฐบาลทราบดีว่าไม่สามารถดำเนินการได้ตามกฎหมาย แต่จงใจที่จะเบี่ยงเบนประเด็นเพื่อให้เกิดความเข้าใจผิด เอาตัวรอด เพราะหากไม่มีการทุจริตตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ รัฐบาลจะมีเงินจ่ายชาวนาทุกคน ดังนั้น รัฐบาลต้องเร่งระบายข้าวเพื่อนำเงินมาจ่ายให้ชาวนาโดยเร็วที่สุด อย่าอ้างการเป็นรัฐบาลรักษาการเพราะสามารถระบายข้าวได้ โดยพรรคให้สมาชิกลงพื้นที่ตรวจสอบความเดือดร้อนของชาวนา เพื่อนำมาประมวลเสนอเป็นแนวทางแก้ไขให้รัฐบาลต่อไป นอกจากนี้ กรณีที่ข้าวหายระหว่างการขนส่งที่จังหวัดราชบุรีนั้น ทำให้เป็นห่วงว่านอกจากรัฐบาลกู้เงินไม่ได้แล้ว ข้าวในสต๊อคอาจถูกลักลอบจำหน่ายไปแล้ว เหลือแต่ข้าวเน่าในโกดัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องแก้ปัญหาเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก ก่อนที่จะคิดกระชับอำนาจให้กับตัวเอง และต้องหยุดซื้อเวลาหลอกลวงชาวนาได้แล้ว ถ้าหาเงินไม่ได้ก็คืนข้าวพร้อมดอกเบี้ยให้ชาวนาไป