“สมชัย” เล็งจ้อประชุม กกต.เลือกตั้งไม่เข้าเป้า เกินหมื่นหน่วยจัดเลือกตั้งไม่ได้ ขอเปลี่ยนตำแหน่งบริหารจัดการเลือกตั้ง ปัดถูกกดดันโยนภาระ พอใจเรื่องเดียวเลือกตั้งสงบ ไร้รุนแรง แต่ผลาญงบแยะ ประมาณใช้สิทธิ 50% น้อยกว่าปีก่อนๆ แจง กกต.ไม่สามารถตอบสนองจัดเลือกตั้งใหม่ใน 7 วันให้เป็น รบ.เต็มตัวได้ ย้อนตอบให้ได้ก่อนสงบตอนไหน ไม่งั้นจัดไปก็ไม่สำเร็จ การเมืองต้องคุยกัน ขออภัยไม่ทำให้ได้ดังใจ บ่ายนี้นัดคุย “เฉลิม”
วันนี้ (3 ก.พ.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวก่อนการประชุม กกต.ว่า ในวันนี้ว่าจะเรียนต่อที่ประชุม กกต.ว่าเนื่องจากการจัดการเลือกตั้งในครั้งนี้ไม่ประสบความสำเร็จใจเชิงประสิทธิผล เนื่องจากมีหน่วยเลือกตั้งจำนวนมากกว่า 1 หมื่นหน่วยที่ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้ ดังนั้นจะขอแสดงความรับผิดชอบด้วยการขอเปลี่ยนตำแหน่งไม่ทำหน้าที่บริหารจัดการเลือกตั้งโดยให้ กกต.คนอื่นมาทำหน้าที่แทน ซึ่งไม่ใช่การโยนภาระ และไม่ได้ถูกกดดัน ส่วน กกต.5 คนจะคิดอย่างไรนั้นคงต้องรอฟังมติในตอนเที่ยงวันนี้
นายสมชัยกล่าวต่อว่า ภาพรวมของการจัดการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมาตนพอใจที่มีความสงบเรียบร้อย เพราะสิ่งที่หลายฝ่ายประเมินก่อนการเลือกตั้งว่าจะรุนแรงนำไปสู่การจลาจล สูญเสีย แต่เหตุการณ์ต่างๆ ไม่เกิดขึ้นเพราะเหตุการณ์สงบเรียบร้อย คงเป็นเพราะทุกฝ่ายในสังคมตระหนักหากเกิดความรุนแรงและสูญเสีย ถือว่าประสบความสำเร็จในมุมมองด้านความสงบเรียบร้อย แต่ในมุมของผลสำเร็จในการจัดการเลือกตั้งคิดว่ายังทำได้ไม่ดี เพราะยังมีการจัดการเลือกตั้งไม่ได้กว่า 1 หมื่นหน่วย หรือกว่า 10%
“สำหรับประสิทธิภาพเรื่องการใช้จ่ายเงิน ถือว่าการเลือกตั้งใช้จ่ายสูง ต้นทุนต่างๆ เกิดขึ้นแล้วไม่ประสบผลสำเร็จ บัตรเลือกตั้งพิมพ์ไปแล้วต้องทำลายทิ้งไม่สามารถนำไปใช้ได้อีก วัสดุอุปกรณ์สูญเสีย สูญหายจำนวนมาก ดังนั้น ผมถือว่าประสบความสำเร็จเรื่องเดียว คือ ช่วยให้เกิดความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง ไม่ได้ทำให้เกิดความสูญเสีย” นายสมชัยกล่าว
นายสมชัยกล่าวว่า ประมาณการเบื้องต้นมีคนมาใช้สิทธิเลือกตั้งประมาณ 50% แต่ไม่สามารถบอกจำนวนบัตรดี-บัตรเสียได้ สำหรับตัวเลขผู้มาใช้สิทธิที่ชัดเจนต้องรอจากเลขาธิการ กกต. ถือว่าไม่สูงเมื่อเทียบกับการเลือกตั้งครั้งก่อนๆ เมื่อถามถึงการกำหนดวันลงคะแนนเลือกตั้งใหม่ในหน่วยที่สั่งงดลงคะแนน นายสมชัยกล่าวว่า มีประเด็นจากฝ่ายการเมืองต้องการให้ กกต.จัดการเลือกตั้งใหม่ภายใน 7 วัน กกต.เข้าใจความประสงค์ที่อยากกลับมาเป็นรัฐบาลโดยเร็ว ทำให้ฐานะการเป็นรัฐบาลรักษาการสิ้นสุดลงกลายเป็นรัฐบาลตัวจริง แต่ กกต.ไม่สามารถตอบสนองความต้องการฝ่ายการเมืองได้ เพราะ กกต.ต้องดูหลักกฎหมายที่มีอยู่และตัดสินใจภายใต้หลักของกฎหมาย สิ่งที่จะหารือในวันนี้คือโจทย์การเลือกตั้งที่ค้างอยู่ ทั้ง 16 เขตที่มีผู้สมัครรายเดียว 28 ไม่มีผู้สมัคร 1 หมื่นกว่าหน่วยไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้ และการจัดการเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตที่เสียไป 83 เขต ดังนั้นคงไม่ใช่ภายใน 7 วัน โจทย์ใหญ่ที่ฝ่ายการเมืองต้องตอบ กกต.คือ เหตุการณ์ไม่สงบต่างๆ เหตุการณ์ความขัดแย้งต่างๆ จะสิ้นสุดลงเมื่อใด ถ้าสิ้นสุดลงเมื่อใด กกต.จะจัดการเลือกตั้งหลังจากนั้น 7 วัน
“ตอนนี้กรอบเวลาคงเป็นไปไม่ได้เกือบทุกกรอบ เอาง่ายๆ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 125 คนจะเกิดขึ้นได้อย่างไร ไม่มีทางเกิดขึ้นได้เพราะตอนนี้การเลือกตั้งขาดไป 1 หมื่นกว่าหน่วย คงเห็นชัดๆ ว่า กกต.ที่เก่งกล้าสามารถคงมาดำเนินการไม่ได้เหมือนกัน ส่วนการเลือกตั้งโมฆะผมคงไม่ขอพูดถึง เราก็ไม่อยากให้เกิดส่วนนั้น เพราะเสียค่าใช้จ่ายไปแล้วก็อยากให้การเลือกตั้งสำเร็จ แต่จะสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อการเมืองนิ่ง ฝ่ายการเมืองไปแก้ไขปัญหาการเมือง ไม่ใช่ให้เกิดอย่างที่เป็นอยู่ และความขัดแย้งยังอยู่ในสังคม ฝ่ายการเมืองต้องช่วยเรา พูดคุยกันตกลงกันให้ได้ ถ้าพูดคุยกันไม่ได้ เราจะจัดการเลือกตั้งกี่ครั้งก็แล้วแต่ไม่มีทางสำเร็จ สิ้นเปลืองงบประมาณไปเรื่อยๆ การจัด 1 ครั้ง 1 เขต งบประมาณ 10 ล้านบาท ถ้าจัดแล้วล้มอีกจะเป็นต้นทุนค่าใช้จ่ายที่สิ้นเปลืองไปเปล่าๆ ดังนั้นคุยกันให้จบ ให้นิ่ง แล้วค่อยมาบอก กกต. เราจะจัดให้หลังจากนั้น จึงขออภัยประชาชนบางครั้งหลายต่อหลายเรื่องคงไม่สามารถทำให้ได้ดังใจ” นายสมชัย กล่าว
นายสมชัยกล่าวด้วยว่า ในช่วงบ่ายวันนี้จะเดินทางไปพบ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผอ.ศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) เพื่อไปฟังรายงานเหตุการณ์ไม่สงบในรอบวันที่ผ่านมามีอะไรบ้าง และคงไปทำความเข้าใจถึงบทบาทหน้าที่ของ ศรส.ว่ามีเส้นแบ่งที่เหมาะสมอย่างไร น่าจะเกี่ยวข้องกับหนังสือที่ ร.ต.อ.เฉลิมทำมาถึงประธาน กกต. เพราะ ศรส.ไม่รู้เส้นแบ่งหน้าที่ที่เหมาะสม ดังนั้นคงต้องพูดคุยว่าหน้าที่ กกต.มีอะไร บรรยากาศคงเป็นมิตรไม่มีอะไร