“อรรถวิชช์” เปิดเอกสารความเห็นเลขาฯ กฤษฎีกา กู้เงินใช้หนี้ชาวนา แต่ “กิตติรัตน์” ลักไก่อ้างความเห็นบอร์ด เตือนหากยังเดินหน้าติดคุกแน่ แฉแบงก์พาณิชย์เมินประมูลพันธบัตร เหตุรู้ทันหวั่นเจอคดี เชื่อรัฐบาลไม่กล้าเปิดประมูลข้าว เพราะมีปริมาณไม่ตรงตามที่แจ้ง แถมไร้คุณภาพ ขู่ธนาคารทหารไทยที่เตรียมปล่อยกู้รัฐสัปดาห์หน้าระวัง หากดำเนินการถือว่าความผิดสำเร็จ ยื่น กกต.-ศาลรัฐธรรมนูญ เอาผิดทันที
นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี อดีต ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ นำเอกสารความเห็นของนายชูเกียรติ รัตนชัยชาญ เลขาธิการกฤษฎีกา ที่ระบุว่ารัฐบาลสามารถกู้เงินมาใช้ในโครงการจำนำข้าวเพื่อจ่ายเงินให้ชาวนาได้มาแสดงต่อสื่อมวลชน พร้อมกล่าวว่า เอกสารฉบับนี้เป็นการยืนยันว่ารัฐบาลลักไก่อ้างความเห็นของเลขาธิการกฤษฎีกาว่าเป็นความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อให้สถาบันการเงินกล้าปล่อยเงินกู้ให้กับรัฐบาล เพื่อนำมาจ่ายให้ชาวนา โดยมีการส่งเอกสารดังกล่าวให้กับนายกิตติรัตน์ณ ระนอง รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง แต่หนังสือดังกล่าวเป็นเพียงความเห็นของเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ไม่มีผลผูกพันหน่วยงานรัฐให้ต้องถือเป็นแนวปฏิบัติ ทำให้ไม่มีธนาคารแห่งไหนเสนอการประมูลพันธบัตรของรัฐบาล เนื่องจากไม่มีใครกล้าออกเงินกู้ให้รัฐบาลเพราะผิดกฎหมาย
“รัฐบาลไม่สามารถกู้เงินเพิ่มได้อีก เนื่องจากได้ใช้เงินเกินกรอบ 5 แสนล้านบาทไปแล้ว ทางออกเดียวในการหาเงินมาให้กับชาวนา คือ การระบายข้าวในโกดัง แต่รัฐบาลกลับไม่ยอมทำ จึงเกิดการผิดนัดในการจ่ายเงินให้ชาวนาหลายครั้ง”
นายอรรถวิชช์กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีเอกสารที่สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ระบุว่าแม้เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา จะบอกว่ารัฐบาลสามารถกู้เงินได้ 1.3 แสนล้านบาท แต่เตือนว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ความเห็นว่าการกู้เงินดังกล่าวอาจจะขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 181 (3) แต่นายกิตติรัตน์กลับให้ดำเนินการตามความเห็นของเลขาธิการกฤษฎีกา ดังนั้น เอกสารชิ้นนี้จึงเป็นหลักฐานสำคัญที่จะทำให้นายกิตติรัตน์ติดคุกหากมีการกู้เงินโดยผิดกฎหมาย
“นายกิตติรัตน์เป็นคนแรกที่ต้องรับผิดชอบรวมทั้งรัฐบาลชุดนี้ด้วย เพราะเป็นการสร้างภาระผูกพันให้กับรัฐบาลใหม่ ทั้งนี้ขอให้รัฐบาลประกาศประมูลขายข้าวในโกดังอย่างเร่งด่วนซึ่งจะทำให้ชาวนาได้เงินเร็วกว่าการไปขอกู้ รัฐบาลควรเลิกซื้อเวลาได้แล้วเพราะไม่มีทางได้เงินกู้ก่อนวันที่ 2 ก.พ. 2557 รัฐบาลต้องเปิดพรมออก แล้วดูว่าของใต้พรมคือข้าวในโกดังเป็นอย่างไร เพื่อเปิดประมูลอย่างโปร่งใส โดยจะทำให้ได้เงินทันที ขอให้เลิกถ่วงเวลาอุ้มคนทุจริตโครงการจำนำข้าว รัฐบาลต้องเจ็บ เปิดโกดังอย่าเอาของดีปนของเลวเพราะในขณะนี้มีการระบายข้าวได้ไม่เกิน 200 ล้านบาท แต่ติดหนี้ชาวนา 1.3 แสนล้านบาท จึงต้องเปิดประมูลทั่วไป แต่กระทรวงพาณิชย์ไม่กล้าเพราะจำนวนที่ระบุกับของจริงที่มีอยู่ในโกดังไม่ตรงกัน หากเปิดข้อมูลออกมาก็จะต้องมีคนติดคุกแน่นอน”
นายอรรถวิชช์กล่าวว่า ชาวนาไม่ได้เงินจำนำข้าวก่อนการเลือกตั้ง วันที่ 2 ก.พ. 2557 แน่นอนเพราะไม่มีสถาบันการเงินใดกล้าปล่อย เนื่องจากผิดกฎหมายจึงเกรงว่าจะถูกดำเนินคดีถึงเวลากระทรวงพาณิชย์เปิดโกดังปรับคุณภาพข้าวใหม่เพื่อหาเงินมาจ่ายให้ชาวนาได้แล้ว หากมีการกู้โดยเสียดอกเบี้ยสูงกว่านี้ก็เป็นเรื่องที่น่าคิด
ทั้งนี้ ได้ข่าวว่าธนาคารทหารไทยจะเสนอการประมูลพันธบัตรของรัฐบาลในสัปดาห์หน้าซึ่งดอกเบี้ยปกติจะอยู่ที่ร้อยละ 3.5 หากมีการก่อหนี้ขึ้นจริงจะทำให้ความผิดสำเร็จแล้ว ก็จะดำเนินคดีทันทีโดยร้องต่อ กกต.ว่า มีการทำผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 181 (3) และ (4) รวมทั้งร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพราะมีการกระทำขัดรัฐธรรมนูญและจะดำเนินคดีอาญา มาตรา 157 เพราะเป็นการทุจริตในหน้าที่