xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” ฉะ “ปู” อยู่ไปไร้ประโยชน์ ไม่เลื่อนเลือกตั้งเจอยื่นถอดพ่วงอาญา จี้คุย กกต.เอง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(แฟ้มภาพ)
หน.ปชป.ย้อนรัฐ กกต.เตือนแล้วลือกตั้งรุนแรง ฝืนไปสะสมปัญหา นายกฯ ต้องรับผิดชอบ จี้อยู่สร้างเงื่อนไขหรือไม่ สงสัยเหตุใดไม่รีบคุย กกต. เล็งแนะ กกต.เร่งปฏิรูปเลือกตั้ง พรรคการเมืองอย่าจุ้น ชี้ กกต.ช่วยหาทางออก ไม่แน่ใจเป้ารัฐ ดื้อมีแต่ขัดแย้ง ไม่รู้อยู่เพื่ออะไร ไม่ได้รักษา ปชต.ตามที่อ้าง ยังไม่เลื่อนฝืนเลือกตั้งขัดรธน. ส่อถูกถอดพ่วงอาญา 157 ไร้ประโยชน์ส่ง “ปึ้ง” คุย กกต.แทน



วันนี้ (27 ม.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้นในการเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวันที่ 26 ม.ค.57 ว่าเป็นเรื่องที่หลายฝ่ายได้เตือนรัฐบาลไว้แล้ว โดยเฉพาะ กกต.เคยออกแถลงการณ์ตั้งแต่ก่อนปีใหม่ว่าขั้นตอนต่างๆ เกี่ยวกับการเลือกตั้งน่าจะมีปัญหาและจะไม่บรรลุความมุ่งหมายตามรัฐธรรมนูญได้ ทั้งในแง่ความสุจริต เที่ยงธรรม และการได้มาซึ่งสภาตามรัฐธรรมนูญ แต่เมื่อรัฐบาลมีจุดยืนว่าไม่ขยับปัญหาก็จะสะสมไปมากขึ้นเรื่อยๆ นายกรัฐมนตรีจะต้องรับผิดชอบกับปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะศาลชี้แล้วว่าเมื่อ กกต.ทำรายงานแล้วก็เป็นอำนาจของนายกฯ และ ครม.ที่จะแก้ไขหรือไม่ เนื่องจากเห็นปัญหาอยู่ชัดเจนแล้วว่าไม่มีผู้สมัครใน 28 เขต เพราะฉะนั้นจำนวน ส.ส.ไม่ครบก็เปิดสภาไม่ได้ ตนจึงสงสัยว่าศาลรัฐธรรมนูญตัดสินวันศุกร์เหตุใดนายกฯต้องรอถึงวันอังคารบ่ายจึงค่อยหารือกับ กกต. ทำให้เหตุการณ์ที่ควรป้องกันได้กลับป้องกันไม่ได้

นายอภิสิทธิ์กล่าวด้วยว่า ในวันนี้ตนจะไปพบ กกต.ตามคำเชิญที่มีการเชิญหัวหน้าพรรคการเมือง โดยมีข้อเสนอต่อ กกต.ว่าควรจะพูดถึงแนวทางการปฏิรูปกับการสร้างความมั่นใจในกระบวนการเลือกตั้งให้เป็นที่ยอมรับต่อทุกฝ่ายโดยควรเร่งปฏิรูปเรื่องของกระบวนการเลือกตั้งก่อนเป็นอันดับแรก และเงื่อนไขที่รัฐบาลยังรักษาการอยู่ก็เป็นเงื่อนไขว่าจะทำให้การเลือกตั้งเป็นที่ยอมรับได้หรือไม่ ตนจึงบอกว่านายกต้องตัดสินใจว่าจะอยู่เป็นเงื่อนไขความขัดแย้งหรือไม่ ซึ่งจุดสมดุลที่จะมีการปฏิรูปประเทศได้ภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญจะต้องมีการหารือกัน และให้คนที่เป็นกลางคือ กกต.กับภาคประชาชนเป็นผู้เสนอ ถ้าพรรคการเมืองฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเสนอจะทำให้เกิดความไม่ไว้ใจ

ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นเจตนาของรัฐบาลที่จะให้มีการเลือกตั้งล่วงหน้าเกิดขึ้น เพื่อใช้เป็นข้ออ้างว่ากำหนดวันเลือกตั้งใหม่ไม่ได้เพราะมีการเลือกตั้งล่วงหน้าไปแล้วจะมีผู้เสียสิทธิหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าเพราะอะไร แต่คิดว่าในขณะที่ กกต.พยายามหาทางออก ข้อกฎหมายที่นายกฯ เคยอ้างว่าทำไม่ได้ศาลก็บอกว่าทำได้แล้ว ก็น่าจะช่วยกันแก้ปัญหามากกว่า ทั้งนี้ตนไม่แน่ใจว่าเป้าหมายในขณะนี้ของรัฐบาลคืออะไร เพราะมองไม่เห็นว่าประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับส่วนรวมคืออะไร หากยังเดินหน้าเลือกตั้งต่อไปโดยไม่บรรลุวัตถุประสงค์ทางใดทางหนึ่งเลย ตอบโจทย์รัฐบาลก็ไม่ได้ ตอบโจทย์ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยก็ไม่ได้ จะมีแต่ความขัดแย้งไปตลอดทาง ซึ่งต่อจากนี้ไปจะเกิดความสูญเสียเพิ่มเติมหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับรัฐบาลว่าจะแก้ปัญหาหรือไม่

“ผมถามว่าวันนี้ที่มีอำนาจอยู่จะมีไว้ทำอะไร เพราะไม่สามารถผลักดันนโยบายได้ เนื่องจากรักษาการ จึงไม่รู้ว่าอยู่เพื่ออะไร ทำไมไม่ช่วยทำให้บ้านเมืองเดินหน้าได้ แต่ถ้ารัฐบาลยังดึงดันอย่างนี้แล้วอ้างว่าจะมีปัญหาเรื่องการถูกฟ้องก็ขอเตือนว่าแม้ไม่เลื่อนเลือกตั้งก็มีปัญหาเหมือนกัน เพราะ กกต.รายงานชัดว่าการเลือกตั้งจะไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ คนที่สามารถแก้ไขได้คือรัฐบาล แต่รัฐบาลไม่แก้ ผมก็มองว่ารัฐบาลจงใจฝ่าฝืนทำให้เกิดเงื่อนไขที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญอยู่ในข่ายที่จะถอดถอน ซึ่งพรรคจะทำในนามของประชาชน เพราะมีปัญหาเรื่องความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของการเลือกตั้งที่ กกต.เป็นผู้ตั้งข้อสังเกต และจะไปถึงการถอดถอนสำหรับคนที่จงใจจัดการเลือกตั้งขัดรัฐธรรมนูญ รวมถึงกฎหมายอาญา มาตรา 157 เป็นคดีอาญาที่จะนำมาพิจารณาพ่วงไปด้วย จึงขอย้ำว่าถ้าไม่เลื่อนเลือกตั้งจะถูกร้องด้วยข้อหาที่หนักแน่นกว่าด้วย”

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า การรักษาการนายกรัฐมนตรีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรว่า ที่กำลังรักษาอยู่ไม่ใช่ประชาธิปไตย เพราะถ้าเป็นประชาธิปไตยต้องเป็นการเลือกตั้งที่สุจริตเที่ยงธรรม ซึ่ง กกต.ก็บอกแล้วว่าไม่ใช่ ตนจึงถามว่านายกอยู่เพื่ออะไร กลายเป็นอยู่เพื่อเป็นเงื่อนไขความขัดแย้งหรือ เพราะไม่เห็นประโยชน์ที่ทำ ทั้งนี้อยากให้นายกฯ หารือกับ กกต.ให้ได้ข้อยุติ หาทางออกโดยไม่ยึดติดกับวันที่ 2 ก.พ. 57 ก็รับหลักการนี้ว่าจะทำอย่างไรให้มีกระบวนการที่ทุกฝ่ายมาร่วมกันหาทางออกได้ แต่รัฐบาลไม่ควรเป็นเจ้าภาพเอง หรือนายกตัดสินใจเลยว่าไม่เลื่อน และรับผิดชอบกับการตัดสินใจของตัวเอง

ส่วนการที่นายกฯ มอบให้นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนไปหารือกับ กกต.นั้นไม่มีประโยชน์เพราะคนรักษาการตามพระราชกฤษฎีกา คือ นายกรัฐมนตรี การมอบหมายให้คนอื่นไปแทนก็เพื่อหลีกหนีปัญหา แต่ความรับผิดชอบอยู่ที่ตัวนายกฯ เพราะเป็นผู้รักษาการตามพระราชกฤษฎีกา


กำลังโหลดความคิดเห็น