“ภราดร” อ้างเหตุบึ้มใกล้เวทีอนุสาวรีย์ชัย เข้าข่ายประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้ว เหลือเงื่อนไขแค่ก่อการร้าย เผยตำรวจชงใช้ลุยตั้งแต่เมื่อ 3 วัน ยันไม่ได้เอามาปราบ เล็งคุยทหารอีกรอบ พร้อมสั่งยกระดับดูแล “ยิ่งลักษณ์”
วันนี้ (19 ม.ค.) พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ระเบิดที่เวทีชุมนุมของกลุ่มกปปส.ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิพบว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 28 ราย และสาหัส 7 ราย ทั้งนี้ จากสถานการณ์ดังกล่าวชี้ให้เห็นว่าสถานการณ์ความรุนแรงสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกพื้นที่ ไม่ใช้แค่ช่วงเวลากลางคืนเท่านั้น ที่สำคัญพบว่าคนร้ายมีการแฝงตัวในกลุ่มผู้ชุมนุม นอกจากนี้ การประกาศยกระดับการชุมนุมในพื้นที่ภาคใต้เท่ากับเป็นการขยายพื้นที่ทำให้การดูแลรักษาความปลอดภัยเป็นไปด้วยความยากลำบาก
“สถานการณ์ความรุนแรงขณะนี้ถือว่าเข้าข่ายประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้ว เนื่องจากเกิดเหตุความรุนแรงที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ซึ่งเหลือเพียงแต่เงื่อนไขการก่อการร้ายเท่านั้น โดยจากเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในช่วงชุมนุมปิด กทม. ทำให้ 2-3 วันที่ผ่านมา ทางตำรวจที่เป็นฝ่ายปฏิบัติได้เสนอรัฐบาลขอใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อให้ง่ายต่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลรักษาความปลอดภัย โดยใช้เป็นเครื่องในการปฏิบัติ ไม่ใช่เป็นการปราบปรามประชาชน เนื่องจากมีความจำเป็นในการบริหารสถานการณ์ในพื้นที่ ทั้งการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และการจัดระเบียบสื่อ แต่ทั้งนี้ จะต้องมีการหารือระหว่างทหารกับตำรวจ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงอีกครั้งหนึ่งก่อน ส่วนการดูแลรักษาความปลอดภัยนายกฯ แน่นอนว่าจะต้องมีการยกระดับการดูแลรักษาความปลอดภัยผู้นำตามหลักสากล โดยเฉพาะการปฏิบัติภารกิจนายกฯ จะไม่มีการเปิดเผยล่วงหน้า” พล.ท.ภราดรกล่าว