"ภุชงค์" เผยสั่งเจ้าหน้าที่หยุดพิมพ์บัตรเลือกตั้ง อ้างถูก กปปส.บุกปิดโรงพิมพ์เอาโซ่คล้อง แถมตัดน้ำตัดไฟ คาดไปสอบความเสียหายพรุ่งนี้ พร้อมเร่งพิมพ์ต่อ ย้ำไม่เกินจำนวน ตรวจสอบได้ เผยส่งบัตรโหวตล่วงหน้าไปแล้ว ระบุ "กิตติรัตน์" คอนเฟิร์มแจงแผนบริหารหนี้เอง จ่อคุย ปลัด มท.หาคนคุมหน่วยเลือกตั้ง 20 ม.ค.
วันนี้ (19 ม.ค.) นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือ กกต. กล่าวถึงการเข้าทำลายบัตรเลือกตั้งที่กกต.กำลังจัดพิมพ์เพื่อใช้ในการเลือกตั้ง ของ คณะกรรมการปฏิรูปประเทศให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กปปส. ที่โรงพิมพ์คุรุสภา จนมีความเสียหายและไม่สามารถจัดพิมพ์เพิ่มได้ ว่า วันนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่หยุดการ ดำเนินการทุกอย่าง และห้ามเจ้าหน้าที่เข้าไปภายในโรงพิมพ์ที่ถูกปิดโดยกลุ่ม กปปส. ได้ใช้โซ่กุญแจและกาวหยอดปิดห้ามเจ้าหน้าที่เข้าไปภายใน มีการตัดน้ำตัดไฟ ทำให้ไม่สามารถเข้าไปตรวจ สอบความเสียหายได้ในขณะนี้ ซึ่งคาดว่า กกต.จะสามารถเข้าไปสำรวจความเสียหายที่ชัดเจนได้ในวันพรุ่งนี้ รวมถึงจะรายงานเหตุที่เกิดขึ้นต่อที่ประชุม กกต.วัน พรุ่งนี้ เพื่อพิจารณาแก้ไขปัญหาดังกล่าว เพราะ แม้ บัตรที่ถูกทำลายจะเป็นบัตรสำหรับวันเลือกตั้งจริงคือวันที่ 2 ก.พ. แต่การจัดพิมพ์นั้นจำเป็นต้องแก้ไขให้ทันเวลาและเป็นไปตามระเบียบ ขั้นตอนที่ถูกต้องเพื่อความสุจริตของการเลือกตั้ง
ทั้งนี้เลขาธิการกกต. ย้ำว่ากกต.จะไม่พิมพ์บัตรเกินจำนวน สามารถชี้แจง ตรวจสอบได้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามบัตรลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าที่จะใช้ในวันที่ 26 มกราคมนี้ ทางกกต. ได้จัดส่งไปยังทุกจังหวัดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้ การเดินหน้าจัดการเลือกตั้งยังคงดำเนินต่อไปได้
นายภุชงค์ ยังกล่าวถึงการที่ที่ประชุมกกต.จะมีการพิจารณากรณีรัฐบาลเสนอปรับปรุงแผนบริหารหนี้สาธารณะ โดยเฉพาะการกู้เงินเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนรับจำนำข้าวเปลือก ปี 2557 จำนวน 1.3 แสนล้านบาท ว่า ทาง กกต.ได้ประสานให้นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รักษาการรองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง มาเป็นผู้ชี้แจง และทราบว่าขณะนี้นายกิตติรัตน์ ก็ยืนยันจะมาเป็นผู้ชี้แจงด้วยตนเองแล้ว อย่างไรก็ตาม กกต. ก็ต้องพิจารณาดูว่าการกู้เงินดังกล่าวจะเป็นการเข้าข่ายขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 181 (3) ที่เป็นเรื่องของการดำเนินโครงการที่อาจมีผลผูกพันต่อรัฐบาลชุดต่อไปหรือไม่ ซึ่งหากกกต.พิจารณาแล้วเห็นว่าการกู้เงินอาจมีผลผูกพันต่อรัฐบาลชุดต่อไป กกต.ก็คงมีคำเสนอแนะต่อรัฐบาลว่าควรดำเนินการหรือไม่ หรือหากว่าพิจารณาแล้วไม่เข้าข่ายขัดต่อมาตรา 181 ก็เป็นอำนาจหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องรับผิดชอบต่อไป
นายภุชงค์ กล่าวอีกว่า ส่วนในวันที่ 20 ม.ค. นั้น สำนักงานกกต.ก็จะมีการหารือกับปลัดกระทรวงมหาดไทย ในเรื่องของการสนับสนุนการเลือกตั้ง โดยเฉพาะการที่จะกกต.จะขอความร่วมมือกับหน่วยงานราชการต่างๆให้จัดส่งบุคลากรเข้ามาเป็นกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) เนื่องจากขณะนี้ยังมีปัญหาเรื่องจำนวนกปน.อาจไม่เพียงพอ แต่ในการหารือครั้งนี้ กกต. ทั้ง 5 คนคงจะไม่เข้าร่วม แต่ได้มอบหมายให้ตนเป็นผู้เข้าร่วมหารือแทน อย่างไรก็ตาม การหารือครั้งนี้ก็เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดให้ กกต. มีอำนาจเต็มที่ในการสั่งการต่อหน่วยงานราชการต่างๆ ให้สนับสนุนการเลือกตั้ง แต่ตนก็เชื่อว่าการพูดคุยในเชิงขอความร่วมมือน่าจะได้ผลดีกว่าและจะทำให้การประสานงานราบรื่นยิ่งขึ้น