เลขาธิการ กปปส.ชูหลักฐานทั้งหมวกสีแดง-รถตู้ตราโล่ จุดค้นคลังอาวุธใกล้จุดบึมบรรทัดทอง ฝีมือตำรวจ ย้ำนายทุนตู้ม้าลงขันไล่ล่า-ก่อการร้ายแลก “แจ๊ด” ไฟเขียวเปิดบ่อนกลางกรุง สั่งเสียหากถูกจัดการให้สู้ต่อจนกว่าจะชนะ ซัด “ปู” นางมารร้าย ถามกฎหมายฉบับไหนสั่งฆ่าคนได้ ตั้งปณิธานอย่าให้ข่มเหงอีกต่อไป พรุ่งนี้เดินอีก 10 โมงเช้า
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ปราศรัย
วันนี้ (17 ม.ค.) ที่สี่แยกปทุมวัน เมื่อเวลา 19.20 น.นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.ขึ้นเวทีปราศรัย โดยระบุถึงเหตุการณ์ลอบวางระเบิดใส่ผู้ชุมนุม กปปส.ที่สี่แยกบรรทัดทอง ว่า เป็นเหตุการณ์ที่สะเทือนใจมาก ตนได้นำผู้ชุมนุมเดินไปตามถนนสายต่างๆ เพื่อชักชวนคนกรุงเทพฯ เข้ามาร่วมชุมนุมโดยตลอด ที่น่าเสียใจคือเมื่อมาถึงแยกบรรทัดทองถูกคนร้ายขว้างระเบิดเข้าใส่ ทำให้มีผู้บาดเจ็บรวม 31 ราย โดยอาการสาหัสที่สุดคือนายประคอง ชูจันทร์ อายุ 46 ปี ชาว จ.นครศรีธรรมราช ถูกสะเก็ดระเบิดที่หน้าอก ตัดเส้นเลือดใหญ่ แพทย์ รพ.รามาธิบดี ได้ทำการผ่าตัดปั๊มหัวใจจนฟื้น แต่ยังไม่รู้สึกตัว
นอกจากนี้ มีผู้บาดเจ็บที่รอผ่าตัด คือนายสมพงษ์ แก้วยศ อายุ 56 ปี ชาว จ.ราชบุรี ถูกสะเก็ดระเบิดที่หน้าอก แต่ไม่สาหัสเท่าคนแรก นอกจากนี้ยังมีผู้ชุมนุมที่รอการผ่าตัดอีกหลายราย ขณะนี้ยังอยู่ที่ รพ.รามาธิบดี อยู่ 6 คน จากทั้งหมด 12 คน แต่แพทย์ให้กลับบ้านได้แล้ว 6 คน ซึ่งคืนนี้ขอให้ผู้ชุมนุมช่วยกันสวดมนต์ให้นายประคองด้วย นอกจากนี้ ยังมีผู้บาดเจ็บอยู่ที่ รพ.หัวเฉียว 4 คน เข้าไปอยู่ในโรงพยาบาล 12 คน ยังเหลือ 10 คน แพทย์บอกว่าปลอดภัยทุกคน ผู้ชุมนุมมีกำลังใจดีมาก ส่วน รพ.กลาง ผู้หญิง 3 คน ยังเหลืออีก 2 คน รพ.จุฬาฯ 9 คน หญิง 1 ชาย 8 คน โดย กปปส.จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลทุกคน
จากนั้น นายสุเทพ ได้เปิดคลิปเหตุการณ์ในช่วงที่เกิดเหตุระเบิด และกล่าวว่า วันนี้เดินเร็ว มีผู้ชุมนุมหิวจึงได้หยุดพักทานข้าว จุดนั้นมีร่มไม้และมีร้านค้าให้ใช้ห้องน้ำ ซึ่งถ้าหากไม่ได้หยุดตรงนั้นก็คงจะหยุดพักทานข้าวตรงจุดเกิดเหตุ เสียดายที่ผู้สื่อข่าวต้องหลบ เพราะมีเสียงปืนซ้ำด้วย จึงไม่มีคลิปเพิ่มเติม ปกติมีรถบรรทุก 6 ล้อนำขบวน แต่รถกระบะได้แซงหน้า จึงประสบเหตุระเบิด จากนั้นนายสุเทพได้แสดงภาพนิ่งในช่วงลำเลียงผู้บาดเจ็บ และแสดงภาพตึกร้างที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกำลังดำเนินการรื้อถอน ซึ่งเป็นจุดที่คนร้ายนำระเบิดไปโยน
จากนั้นได้มีทหารเสนารักษ์ และทหารที่เก็บกู้วัตถุระเบิดตรวจค้นพื้นที่ พบหมวกสีแดงและอาวุธที่เตรียมมาประกอบทั้งปืนกลมือ เอ็ม 16 วิทยุสื่อสาร 4 เครื่อง ส่วนคนร้ายวิ่งหนีไป จึงได้ถ่ายภาพเป็นหลักฐาน ขณะนี้หลักฐานทั้งหมดอยู่ในมือของตำรวจ ดูว่าจะแถลงอย่างไร มีผู้สันทัดกรณีบอกกับตนว่า วิทยุสื่อสารเหล่านี้สามารถสืบค้นว่าใช้ติดต่อกับใคร และหมวกสีแดงหน้าหมวกระบุ “ชุดปฏิบัติการจู่โจม” เป็นของหน่วยงานตำรวจ 13 อำเภอใน จ.นราธิวาส ซึ่งฝึกอบรมชุดปฏิบัติการพิเศษเพื่อดำเนินการแก่ผู้ก่อเหตุความไม่สงบ ซึ่งตนจะคอยดูว่า พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร., พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร.และ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.จะแถลงว่าอย่างไร
นายสุเทพ ยังตั้งข้อสังเกตรถตู้ตราโล่ที่จอดเอาไว้ใกล้กับที่เกิดเหตุนั้น มีป้ายว่าให้ติดต่อ ร.ต.ท.เอกพล กุดหอม รองสารวัตรกลุ่มงานวิจัยและประเมินผล 3 กองวิจัย สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมหมายเลขโทรศัพท์ติดไว้ที่หน้ารถ เมื่อสองคืนก่อนตนได้ขึ้นเวทีตรงนี้ กล่าวว่า ตำรวจได้นำข้อมูลมาบอกว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ได้มอบภารกิจให้กับคนที่หากินกับการทำตู้ม้า คือ เสี่ยเหลียง เจ้าของตู้ม้าใน จ.นครปฐม ร่วมกับ จิต เมืองนนท์ และเสี่ยอ้วน ปทุมธานี ให้จัดหาคนร้าย แลกกับการเปิดตู้ม้าทั่วกรุงเทพฯ โดยจัดการกับแกนนำ กปปส.แล้วให้ผู้ชุมนุมแตกฮือกลับบ้านให้หมดโดยการก่อการร้าย
ทั้งนี้ ตั้งแต่การชุมนุม 2 เดือนกว่า ไม่เคยทำร้ายใคร เป็นประชาชนมือเปล่า ต่อสู้ตามสิทธิที่รัฐธรรมนูญให้สิทธิ์เอาไว้ว่า ถ้ารัฐบาลเป็นทรราช ไม่เคารพกฎหมายบ้านเมือง ใช้อำนาจเผด็จการ ไม่ฟังเสียงประชาชน ทุจริตคอร์รัปชัน ประชาชนมีสิทธิ์ต่อต้านรัฐบาลได้ และประกาศตั้งแต่ต้นว่าเราใช้สันติวิธี ไม่มีความรุนแรง ต่อสู้แบบอหิงสา ย่างเข้าเดือนที่ 3 ไม่มีกระจกบ้านไหนแตกแม้แต่บานเดียว ห้างร้านต่างๆ ยังเปิดขายได้ตามปกติ โรงแรมเปิดตามปกติ เราไม่ใช่ผู้ร้าย ไม่ใช่ นปช.มาเผาบ้านเผาเมือง มาฆ่าคน เป็นผู้ก่อการร้าย สิ่งที่กระทำกับเรา ข่มเหงรังแกมา 27 ครั้งแล้วโดยตลอด เมื่อคืนก็เกิดเหตุขว้างระเบิดใส่บ้าน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ที่ก่อนหน้านี้จะปลดออกจากตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ขณะเดียวกัน นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ และ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รักษาการ รมว.แรงงาน สั่งจะจัดการตนที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล จึงไปนอนที่เต็นท์สวนลุมพินีร่วมกับผู้ชุมนุม แต่ก็ตามไปยิงที่สวนลุมพินีเมื่อเวลา 02.00 น.เพื่อนตำรวจบอกตนมาตลอดว่าให้ระวังตัว คืนนี้จ้องอีกว่า หากตนเดินทางระหว่างเวทีก็จะดักจับกลางทาง และบอกว่า เที่ยวนี้จัดหนัก เชื่อว่าหากตนตาย มวลมหาประชาชนเลิกกลับบ้านหมด และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้ตนจะจำไว้ทั้งชีวิต
นายสุเทพ ยังกล่าวอีกว่า ในไลน์ตำรวจออกมาบอกเลยว่าพวกเราสร้างสถานการณ์กันเอง ตนขอเรียกร้องให้ พล.ต.ท.วรพงษ์ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่า ตนไม่ใช่พวก นปช.ที่จะฆ่าพวกเดียวกันเพื่อสร้างสถานการณ์ พวกนั้นสถานการณ์เมื่อปี 2553 ฆ่าตำรวจ ฆ่าทหาร ฆ่าประชาชน เพื่อให้เกิดสงครามการเมือง ตั้งใจจะยึดอำนาจเอา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดีอาญาแผ่นดิน กลับจากดูไบ แต่ตนไม่ใช่ คนอย่างตนไม่ฆ่าพวกเดียวกัน ไม่เหมือนอีกฝ่าย ใครได้ประโยชน์ก็ฆ่าคนนั้น
ส่วน พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่าที่ตนกล่าวหา พล.ต.ท.คำรณวิทย์ นั้นไม่จริง ที่ขว้างระเบิด ยิงตนวันนี้ เพราะคนเขาไม่ชอบที่มาปิดถนน ตนบอกแล้วว่า บรรดาคนที่เป็น สมช.คนนี้ห่วยแตกที่สุด เลียแข้งเลียขา ไม่เคยพูดความจริงกับประชาชน ตนมั่นใจว่าที่คนเขาเดินออกมาเพราะตนไม่โกหกกับประชาชน เอาหลักฐาน เอาข้อมูลมายืนยัน เพราะพวกมันประกาศว่าต้องจับตนให้ได้ ไม่ว่าเป็นหรือตาย
“ผมสั่งเสียไว้แล้วว่า เราต่อสู้ครั้งนี้เราทุกข์ยาก เสียสละกันมาก เสียเลือดเสียเนื้อ เสียชีวิตแล้ว 2 คน บาดเจ็บอีกเยอะ รวมทั้งเหตุการณ์ครั้งนี้ ผมรับรองไม่ได้ว่าจะอยู่ต่อไปหรือไม่ แต่ถ้ามันจัดการกับผมได้ ขอฝากไว้ว่า อย่าไปยอมแพ้ สู้ให้ชนะ อย่าให้ญาติ พี่น้องประชาชนเสียเลือดเสียเนื้อ เสียชีวิตโดยเปล่าประโยชน์ สืบสานปณิธานโค่นระบอบทักษิณให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทยด้วยมือของเรา ผมบอกแล้วว่าเทหมดหน้าตัก ไม่ต้องห่วงที่ว่าจะหาค่าใช้จ่ายไม่พอ ผมได้หาเงินมาอย่างสุจริตไว้ตามที่ต่างๆ ตนสั่งกรรมการ กปปส.ไว้แล้ว ถ้าเป็นอะไรไป ให้เอาเงินมาโค่นล้มระบอบทักษิณให้สำเร็จ ให้ชนะ” นายสุเทพ กล่าว
นายสุเทพ กล่าวอีกว่า เหตุการณ์วันนี้ตนอยากให้ผู้ชุมนุมจดจำความโหดร้าย ความทารุณที่มันทำกับประชาชน ไม่ต้องมาปฏิเสธว่าเป็นฝ่ายอื่น มือที่สาม เป็นฝีมือของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ตอนที่เป็นนายกรัฐมนตรี สั่งอุ้มฆ่าคน 2.8 พันคน อ้างว่าทำสงครามกับยาเสพติด ไม่เห็นชีวิตคนไทยมีคุณค่า ไม่เปิดโอกาสให้พิสูจน์ความจริง วัยรุ่นชาวอีสานที่เสียชีวิต เพราะตำรวจเกลียดจึงยัดข้อหาค้ายาเสพติด และอีกร้อยรายที่ตายฟรี จากเหตุการณ์ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ สั่งฆ่าแกนนำ ทำให้เกิดเหตุตากใบ กรือเซะ และคนตาย 5 พันกว่าคน
“คิดจะสถาปนารัฐตำรวจ มีอำนาจทุกอย่างเหนือกฎหมาย อุ้มฆ่าก็ได้ อุ้มฆ่าทนายสมชาย นีละไพจิตร และผมเชื่อว่ายังอุ้มฆ่า เอกยุทธ อัญชันบุตร อีกด้วย น.ส.ยิ่งลักษณ์ จัญไรเหมือนพี่ชาย มันไม่ใช่คน เพราะไม่เคารพชีวิตคนอื่น บ้าอำนาจ อยากเป็นนายกฯ สั่งฆ่าคนได้ จัญไรทั้งโคตร โยนระเบิดโดยไม่ดูเด็ก คนแก่ สร้างสถานการณ์ให้ประชาชนกลัวเพื่อให้มันเองมีอำนาจต่อไป ถึงได้บอกว่าจัญไรทั้งโคตร” นายสุเทพ กล่าว
นายสุเทพ กล่าวอีกว่า ตนไม่กลัวมัน ตนไม่ได้ใส่เสื้อเกราะ ตนจะไปกับพี่น้องประชาชน พรุ่งนี้ 10 โมงเช้า ตนจะเดินอีก ฝากบอก พล.ต.ท.คำรณวิทย์ พล.ต.อ.วรพงษ์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถ้าฆ่ากำนันสุเทพได้ จะมีคนชื่อกำนันสุเทพเกิดขึ้นอีกล้านคน ทั้งตระกูลชินวัตรประชาชนจะไม่ให้ใครอยู่ในแผ่นดินนี้อีกต่อไป ที่บอกว่าต้องปฏิบัติตามกฎหมายนั้นตอแหล กฎหมายฉบับไหนที่ให้สิทธิ์ฆ่าประชาชน เหตุการณ์นี้พิสูจน์ได้ชัดว่าเป็นนางมารร้าย ไม่ใช่อีโง่ ถ้ามีแรงอะไรสามารถทำให้ประชาชนกลับบ้านได้ ตนยอมตายเลย ขอให้ตั้งปณิธานร่วมกันว่า จะไม่ยอมให้ทรราชยุคนี้ข่มเหงประชาชนอีกต่อไป ไม่ให้มันมีอำนาจต่อไปเด็ดขาด พรุ่งนี้ผู้ชุมนุมทุกจังหวัด เตรียมการปิดจังหวัดไม่ต้องให้มีราชการที่จังหวัดนั้น
ชาวกรุงเทพฯ ถ้าไม่ใช่คนที่ขว้างระเบิดตามที่ พล.ท.ภราดรว่า ออกมาเดินกับพวกเรา เพราะเราคือประชาชนเหมือนกัน นี่คือบ้านของเรา จะปล่อยให้โจรฆ่าผู้บริสุทธิ์ที่มีมือเปล่า ให้มันตำตาอยู่ได้อย่างไร วันพรุ่งนี้และวันต่อๆ ไป ขอให้ออกมาไล่โจรด้วยกัน อย่าปล่อยให้กรุงเทพฯ กลายเป็นซ่องโจร และยังถามถึงข้าราชการจากเหตุการณ์ครั้งนี้ จะยอมรับใช้ระบอบทักษิณอีกหรือไม่ ถ้าไม่ออกมา ลูกหลานไม่สามารถตอบได้ ว่าทำไมถึงยอมดูดายรับใช้ระบอบทักษิณต่อไป อาศัยคราบประชาธิปไตยทำมาหากิน เฉพาะโกงเรื่องข้าวเรื่องเดียว 4 แสนกว่าล้าน รวยพุงปลิ้น ชาวนายังไม่ได้เงินเลย ไม่รู้สึกหรืออย่างไร ซึ่งเราจะต้องทำให้เสร็จ ทำให้จบ และระบอบทักษิณต้องพังลงไป