กมธ.ป้องกันทุจริตฯ วุฒิฯ ประชุมเหตุ อธิบดีดีเอสไอ ดำเนินคดี “สุเทพ” เจ้าตัวส่งตัวแทนแจง “ไพบูลย์” สรุป ดีเอสไอเร่งรับคดีพิเศษ ขัดแย้งศาล รธน.วินิจฉัยชุมนุมสงบ ไม่เป็นกบฏแน่นอน ชี้ วันเดียวตั้ง กก.สอบ “ธาริต” คุมเอง ทั้งที่มีคดีกับ “สุเทพ” แจงไม่เหมาะ ติงอายัดบัญชีขัด กม.ใช้อำนาจมิชอบขู่ ปชช.งัด พ.ร.บ.คำสั่งเรียกฯ บี้ “ธาริต” เข้าแจงเอง 26 ธ.ค.
วันนี้ (19 ธ.ค.) นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการ(กมธ.) ป้องกันการทุจริตและตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ ในคณะกรรมาธิการศึกษา ตรวจสอบเรื่องการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา ได้เรียกประชุมคณะอนุกรรมาธิการเพื่อพิจารณากรณีการปฏิบัติหน้าที่ของนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่เกี่ยวกับดำเนินคดีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) โดยนายธาริตไม่ได้มาชี้แจงด้วยตัวเอง แต่ได้ส่งตัวแทนมาให้ข้อมูล
นายไพบูลย์ กล่าวว่า จากการประชุมดังกล่าวที่ประชุมคณะอนุกรรมาธิการมีความเห็นดังนี้ 1.คณะกรรมการคดีพิเศษมีมติรับเป็นคดีพิเศษในลักษณะเร่งรีบ มติดังกล่าวขัดแย้งกับคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญซึ่งได้วินิจฉัยด้วยมติเสียงข้างมาก 6 ต่อ 3 ว่าการชุมนุมของประชาชน นำโดย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นการใช้เสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธเพื่อแสดงเจตนารมณ์ทางการเมือง อันถือเป็นการใช้เสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ และเป็นการเรียกร้องและแสดงพลังด้วยการสนับสนุนของประชาชนจำนวนมาก ซึ่งจากคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญเห็นชัดเจนว่าการกระทำของนายสุเทพ ไม่ใช่องค์ประกอบของการกระทำผิดฐานกบฏอย่างแน่นอน จึงไม่เป็นเหตุที่คณะกรรมการจะมีมติรับเป็นคดีพิเศษ
ส.ว.สรรหา กล่าวอีกว่า 2.นายธาริต ได้เร่งรัดแต่งตั้งคณะพนักงานสอบสวนขึ้นภายในวันเดียวกัน โดย นายธาริต ได้ตั้งตัวเองเป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน ทั้งที่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ ก็เป็นคู่กรณีฟ้องร้องหลายๆ คดีกับนายสุเทพ จึงไม่มีความเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะดำรงตำแหน่งหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีนี้ และ 3.คณะพนักงานสอบสวนยังไม่ได้ดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม แต่กลับออกคำสั่งอายัดบัญชีของแกนนำผู้ชุมนุมรวม 18 คน ซึ่งน่าจะขัดต่อกฎหมาย และยังข่มขู่คุกคามประชาชนที่ให้การสนับสนุนการชุมนุมในรูปแบบต่างๆ น่าจะเป็นการใช้อำนาจโดยมิชอบ ขัดแย้งกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
ทั้งนี้ ทางคณะอนุกรรมาธิการเห็นว่า นายธาริต มีการดำเนินการที่อาจไม่เป็นไปตามกฎหมาย ขัดต่อหลักธรรมาภิบาล จึงมีมติเสนอให้คณะกรรมาธิการออกหนังสือเรียกตามพระราชบัญญัติคำสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนและวุฒิสภา พ.ศ.2554 เพื่อให้ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มาชี้แจงต่อคณะอนุกรรมาธิการ ในวันพฤหัสบดีที่ 26 ธ.ค.นี้ พร้อมขอรายงานการประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ รวมทั้งคำสั่งแต่งตั้งคณะพนักงานสอบสวน และคำสั่งอายัดบัญชีแกนนำทั้ง 18 คนด้วย