สะเก็ดไฟ
หนีร้อนไปพึ่งเย็น ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ และรมว.กลาโหมรักษาการ ตีกรรเชียงหนีความวุ่นวายในเมืองหลวง ไปเติมพลังใจจากชาวบ้านที่ภาคเหนือต่อเนื่องไปภาคอีสาน
หลังความกลัดกลุ้มรุมเร้า กินไม่เต็มอิ่มหลับไม่เต็มตาจากสถานการณ์การเมืองที่กระแทกกระทั้นใส่หน้าตัวเองจนน้ำตากระเซ็น เผยให้เห็นความอ่อนแอและตอแหล
ยิ่งลักษณ์คงไม่อยากจะคิดอะไรให้ปวดหัวหลังยุบสภาไปแล้วก็ลอยตัวปล่อยให้คณะยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยไปคิดเกมกันเสียส่วนใหญ่ ตัวเองก็ขอหลบลี้หนีหน้าไปนานๆ ทีก็โผล่ออกมาอ่านสคริปต์ เนื้อหาเดิมๆ วนเวียนซ้ำเก่าขอให้ทุกฝ่ายเคารพกติกาเคารพเสียงส่วนใหญ่
พ่นวาทะอยู่แค่นี้ไม่มีอะไรแปลกใหม่
รอหัวหน้าแก๊งโจรนายใหญ่ ณ ดูไบ ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหลบหนีคดี ไปวางเกมช็อตต่อไป ตัวเองมีหน้าที่รับคำสั่งไปปฏิบัติตามภารกิจนายกฯหุ่นเชิดที่คนเขารู้กันทั่วบ้านทั่วเมือง
แว่วว่า มีความคิดจะยอมแพ้ถอยอีกก้าวจากยิ่งลักษณ์ ด้วยการยอมลาออกจากนายกฯ รักษาการ ตามที่ “กำนันเทือก"” กดดัน เพราะเบื่อที่ต้องแบกรับความกดดันไว้อย่างนี้
แต่หัวเด็ดตีนขาดอย่างไรคนรอบข้างก็ยอมไม่ได้ รวมทั้ง “นายใหญ่” ก็สั่งห้ามถอยอีกแล้วมิฉะนั้นเกมเปลี่ยนทันที
โดยปัจจัยตัวแปรสำคัญอย่าง “เหล่าทัพ” ไม่เล่นด้วยกับ “เทพเทือก” นายกฯ จึงต้องทู่ซี้ยืนยันตามหมากนี้ต่อไปไม่ลาออกเดินหน้าสู่กระบวนการเลือกตั้งอย่างเดียว
เกมปาหี่จึงถูกงัดออกมาใช้อีกครั้ง ระดมพลมาร่วมงานปฏิรูปการเมืองหาทางออกประเทศไทยแต่อย่างที่เห็นมันก็เป็นพวกกากี่นั้ง เครือข่ายพรรคการเมือง นปช. ส.ว.เลือกตั้งที่เอียงกะเท่เร่ไปทางรัฐบาลเสียส่วนใหญ่
พูดจากันจบก็รวบรัดสรุปความกันหน้าด้านๆ ว่า ทุกคนอยากเห็นการเลือกตั้งแต่พ่วงเงื่อนไขมานิดหน่อย ไม่ให้ดูน่าเกลียด
ลองไปถามอีกฝ่ายเขาก็ไม่เห็นด้วยแน่ๆ ขนาดมาร่วมยังไม่มาเลย แล้วจะไปปฏิรูปกันในแบบที่ทุกฝ่ายยอมรับได้อย่างไร
ก่อนหน้านี้รัฐบาลก็เคยให้ 2 เทพ พงศ์เทพ เทพกาญจนา-วราเทพ รัตนากร ไปเดินสายเชิญคนนั้นคนนี้มาร่วมพูดจาปฏิรูปปรองดอง สุดท้ายก็ไฟไหม้ฟาง เกมปาหี่เสียงบประมาณ
อย่างว่ารัฐบาลชุดนี้ โดยกึ๋นของยิ่งลักษณ์มันก็ทำได้เท่านี้ ไม่จริงใจต่อสังคมซ้ำยังบั่นทอนความเชื่อมั่น
เกมต่อไปของยิ่งลักษณ์คือต้องเอาใจบรรดาแม่ทัพนายกอง อย่างสุดลิ่มทิ่มประตู มีอะไรประเคนให้หมดเพื่อดึงเอาไว้อยู่ข้างเดียวกับรัฐบาล เพราะถ้าไหลไปเข้าทาง “สุเทพ” เมื่อไหร่ ก็จบเห่เมื่อนั้น
ต้องจับตาสืบค้นสิ่งที่เรียกว่า “สัญญาว่าจะให้” มีอะไรบ้าง
ถ้าการเลือกตั้งเกิดขึ้นได้ในวันที่ 2 ก.พ. 2557 แล้วหลังจากนั้นจะมีอะไรตกใส่เท้าบรรดาแม่ทัพบ้างหรือเปล่า วันนี้รัฐบาลขอให้กองทัพเล่นบทวางเฉยก็พอแล้วกลัวที่สุดก็คือกองทัพนี่แหละ
การเมืองหลังจากนี้ถ้ามีทหารคอยกำกับให้ทุกอย่างเดินไปสู่การเลือกตั้งแนวโน้มมันก็ดูดีทำให้สถานการณ์บ้านเมืองเรียบร้อยแต่ลองคิดถึงผลที่จะตามมาหลังจากนั้น หลังการเลือกตั้งเราก็จะได้การเมืองแบบเดิมๆ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
ระบอบทักษิณ และเครือข่ายฉ้อฉลปล้นชาติกลับเข้ามาอีกที่บอกว่าจะปฏิรูปคู่ขนาน ปฏิรูปหลังเลือกตั้ง ตัวอย่างก็เห็นชัดๆ แล้ว ปฏิรูปมา 2 ครั้งเป็นอย่างไร
ถ้าบ้านเมืองหลังเลือกตั้งยังเลวร้ายเหมือนเก่าก็น่าสงสารประเทศไทย และอาจจะต้องโทษกองทัพที่รู้เห็นเป็นใจ!!!