โฆษกทัพบก สวนปลัด กห.ยันเสวนาปฏิรูปกองทัพแค่รับฟัง ไม่ได้มีข้อสรุปจะปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง หรือเลือกตั้งก่อนแล้วจึงปฏิรูป ลั่นจุดยืนกองทัพอยากให้สถานการณ์คลี่คลาย โดยไม่ให้มีผู้บาดเจ็บสูญเสีย ยันจะไม่ไปกดดันฝ่ายใด เนื่องจากทหารมีระเบียบวินัย และกฎกติกาชัดเจน เตรียมย้ายศูนย์บัญชาการกลับ บก.ทบ.พุธนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (16 ธ.ค.) พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงการแก้ไขสถานการณ์ความขัดแย้งในบ้านเมืองว่า ทางกองทัพบกมองว่า การแก้ปัญหาโดยการใช้ความรุนแรง หรือการไม่เคารพในเกียรติ ศักดิ์ศรี ซึ่งกันและกัน ทำให้ไม่มีทางที่จะประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนได้แน่นอน ที่สำคัญที่สุดในเวลานี้ คือ ทราบว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรงขึ้นมาก ซึ่งถือเป็นความปีติของคนไทยทุกคน ดังนั้นทางกองทัพและพสกนิกรทุกคนจึงควรร่วมใจกันน้อมถวายพระพรแด่ทั้งสองพระองค์ให้ทรงพระเกษมสำราญตลอดไป ซึ่งเชื่อว่าเรื่องมงคลดังกล่าวจะเป็นจุดเริ่มให้ทุกฝ่ายได้ตระหนักถึงการช่วยกันทำให้สถานการณ์บ้านเมืองคลี่คลายลง นำไปสู่ทางออกที่ยั่งยืนต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เตรียมที่จะกลับมาทำงานที่กองบัญชาการกองทัพบก ถ.ราชดำเนิน ตามเดิม หลังจากย้ายไปตั้งกองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) สำรองภายในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1รอ.) ตั้งแต่วันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยมีกำหนดว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะปิด บก.ทบ.สำรองที่ ร.1รอ.และกลับมาทำงานที่ บก.ทบ.ถ.ราชดำเนิน พร้อมกับ 5 เสือกองทัพบก กรมฝ่ายเสนาธิการทหารทั้งหมดในช่วงวันที่ 18-19 ธ.ค.นี้ เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ มองว่า ขณะนี้เส้นทางการจราจรโดยรอบกองบัญชาการกองทัพบกเริ่มคลี่คลาย จึงมีความคิดว่าควรจะกลับมาเข้ามาทำงานภายในกองทัพบกตามปกติ
แหล่งข่าวนายทหารระดับสูงจากกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากกรณีที่ พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวยืนยันในระหว่างการร่วมเสวนาที่จัดขึ้นโดยรัฐบาลว่า กองทัพสนับสนุนให้มีการเลือกตั้ง พร้อมจัดกำลังพลดูแลให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์นั้น ทาง ผบ.เหล่าทัพยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน ซึ่งขณะนี้มีความคิดเห็นอยู่ 2 ฝ่าย คือ ต้องการให้มีการปฏิรูปประเทศไทยก่อนการเลือกตั้ง กับต้องการเลือกตั้งก่อนแล้วจึงปฏิรูป ซึ่งการเสวนาที่กองทัพไทยยังไม่ได้ข้อสรุปหรือข้อยุติว่าควรดำเนินการอย่างไร ซึ่งวัตถุประสงค์ของการเสวนา กองทัพไทยต้องการให้นำข้อเสนอแนะจากการเสวนานำไปหารือต่อ เพื่อแก้ไขปัญหากันต่อไป ส่วนกองทัพเป็นเพียงผู้อำนวยความสะดวกเชิญทุกฝ่ายให้มาหารือกัน เพราะกองทัพไม่ได้เป็นคู่เจรจา และไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งกับใคร ดังนั้นกองทัพจึงมีหน้าที่เพียงแค่รับฟัง และรับทราบ ไม่ได้นำประเด็นการเสวนาดังกล่าวมาเป็นข้อสรุปหรือข้อยุติแต่อย่างใด
“ยืนยันว่า การเสวนาที่กองทัพไทยไม่ได้เป็นการแสดงจุดยืนของ ผบ.เหล่าทัพ เพียงแต่ทหารมีเส้นและหลักในการยึดถือปฏิบัติตามกฎระเบียบของทหาร เพราะความเป็นทหารต้องมีระเบียบวินัย และพร้อมสนับสนุนการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น แต่สิ่งที่ พล.อ.นิพัทธ์ นำไปพูดไม่ใช่ข้อยุติของ ผบ.เหล่าทัพ และไม่ได้นำคำพูดของ ผบ.สส.ไปพูดทั้งหมด ทำให้มีความหมายต่างกันพอสมควร ทั้งนี้ในการประชุม ผบ.เหล่าทัพในวันที่ 24 ธ.ค.นี้ จะมีการนำเรื่องดังกล่าวมาหารือกัน จุดยืนของกองทัพคือ อยากให้สถานการณ์คลี่คลาย โดยไม่ให้มีผู้บาดเจ็บสูญเสีย ยืนยันว่ากองทัพจะไม่ไปกดดันฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด เนื่องจากทหารมีระเบียบวินัย และกฎกติกาชัดเจน” แหล่งข่าวระดับสูง กล่าว
