เกาะกระแส
00 เริ่มรำคาญเต็มทนแล้วกับพวกไร้เดียงสา และพวกที่ขลาดกลัว “ระบอบทักษิณ”จนหัวหด ไม่กล้าแม้แต่จะแอบยืนข้างหลัง “มวลมหาประชาชน”ไม่กล้าแม้แต่ให้การสนับสนุนประชาชน หรือหนุนไปก็ไม่ทำให้สุดๆ ยึกๆ ยักๆ ซึ่งในที่นี้มีทั้งพวกภาคธุรกิจที่รับรู้ว่าถ้าตัวเองไม่ใช่อยู่ในเครือข่ายกลุ่มทุนของ ทักษิณ ชินวัตร และรัฐบาล ไม่ได้จ่าย “หัวคิว” ร้อยละ 35-40 ก็ไม่มีทางได้รับ “กากเดน”ที่โยนมาให้หรอก ทำยังกะเวลานี้เศรษฐกิจภายใต้การบริหารชี้นำของรัฐบาลหุ่นเชิด ที่นำโดย ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก่อนหน้านี้มันดีเด่นักหนา มันก็ให้สมเพชพวกสภาหอการค้า และองค์กรภาคธุรกิจ 7 องค์กร อะไรที่จนบัดนี้ยังไม่รู้ว่า ตัวเองต้องการอะไรแน่ จะให้ระบอบทักษิณพ้นไป ตอนแรกก็ทำเป็นสนับสนุนการต่อต้าน กม.นิรโทษล้างคนโกง ซึ่งก็เสนอโดยรัฐบาลทรราชพวกนี้แหละ
00 ก็ในเมื่อมันก็กล้าเสนอ “กม.อุบาทว์”แบบนี้ได้แล้ว เรื่องอื่นมันก็ไม่ต้องพูดถึงมัน “เลว”ได้ทุกเรื่องอยู่แล้ว แต่มาวันนี้เมื่อมวลมหาประชาชนออกมารวมพลังกันขับไล่ “ระบอบทักษิณ”ให้ออกไปทั้งโคตร ไม่ยอมรับการมีอยู่ของรัฐบาลที่หมดความชอบธรรมอย่างสิ้นเชิง ต้องการให้มีการปฏิรูปประเทศใหม่ เพื่อคนไทยทุกคน มีเป้าหมายเพื่อนักธุรกิจ “ใจมด”เหล่านี้ด้วย เพราะหากทำสำเร็จ ก็จะได้ทำธุรกิจแข่งขันกันอย่างเสรีและเป็นธรรม แต่พวกเอ็งใจไม่ถึง ไม่กล้าที่จะเปิดหน้าออกมาให้ชัด และดันกันไปให้สุด ชาวบ้านเขายืนยันให้ “ปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง”แต่คนพวกนี้กลับมองแบบ “ขี้ขลาด”เสนอให้“เจรจา”กับโจร !!
00 ถามว่าเจรจาไปท่ามกลางรัฐบาลโจร ยังมีอำนาจ ข่มขู่คุกคามฝ่ายตรงข้าม เอาเปรียบและ “ปล้น”ได้อยู่ต่อไป ทั้งที่ความหมายที่ประชาชนที่เป็น “เจ้าของบ้าน”ต้องการขับไล่โจรออกไป และต้องร่วมมือกันทุกภาคส่วนช่วยกัน “ออกแรง”พร้อมกันเพื่อให้เกิดผลสำเร็จเร็วขึ้น แต่กลับมีอีกบางคนที่พร้อมที่จะยอมรับผลสำเร็จ และจะได้เก็บเกี่ยวประโยชน์มากกว่าใครซึ่งก็คือพวกนักธุรกิจขี้ขลาดพวกนี้แหละ
00 คนพวกนี้ไม่เข้าใจว่า คราวนี้ไม่ใช่การต่อสู้ระหว่างระบอบทักษิณ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กับ “กำนัน”สุเทพ เทือกสุบรรณ แต่เป็นการลุกขึ้นมาของมวลมหาประชาชนเจ้าของประเทศ ต้องการเอาอำนาจที่ถูกปล้นไปกลับมาเท่านั้น ไม่ใช่เป็นคู่กรณีระหว่างรัฐบาล กับสุเทพ เป็นเรื่องประชาชนล้วนๆ และพวกเขาจะ “ไม่ยอม”อีกต่อไปแล้ว และที่สำคัญไม่มีทาง “ฝ่อ”ลงอย่างเด็ดขาด ตรงข้ามมีแต่จะเพิ่มปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่เชื่อก็คอยดูไปก็แล้วกัน ถ้าอยากเห็น 10 ล้านคนออกมาก็รอดูก็แล้ว อีกไม่นานคงได้เห็นแน่ !!
00 นั่นเป็นพวกนักธุรกิจที่ขี้ขลาด ที่ต้องด่าให้เจ็บแสบ ไม่เคยเสียสละ คอยคิดแต่ฉวยโอกาสตีกิน และพร้อมที่จะเข้าไปรองรับรัฐบาลไหนก็ได้ที่คิดว่าตัวเอง “พอได้ประโยชน์”ได้เศษเงินที่โยนมาให้ แทนที่จะช่วยกัน “เดินไปให้สุด”แต่นี่ดันไปเสนอให้เจรจากับโจร ที่ยังอยู่ในบ้าน มันบ้าหรือเปล่า ทั้งที่มีทางเลือกเดียวคือ ต้องไล่พวกโจรเหล่านี้ออกไปให้หมดจากนั้นก็ค่อย “ช่วยกันล้างบ้านใหม่ให้สะอาด”การเจรจาก็เหมือนกับการ “ซื้อเวลาให้โจร”เท่านั้น
00 ขณะที่ฝ่าย “ขุนทหาร”ไม่ว่าจะเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดลงมาจนถึงผู้บัญชาการทุกเหล่าทัพ ที่ไม่มีความกล้าหาญแม้แต่ “เศษเสี้ยว”ของประชาชนมือเปล่า ที่ยอมเสียสละได้ทุกอย่าง เสียสละความสุขส่วนตัว เสียรายได้ เสียทุกอย่าง มาตากแดดตากลมนานนับเดือน สู้เพื่อชาติ แต่กลับถูกพวกผู้นำเหล่าทัพพวกนี้บวกให้ “ถอยกันคนละก้าว”ไปพร้อมกับโจร แล้วตัวเองบอกว่า “ขอเป็นกลาง”บ้าหรือเปล่าวะ คิดว่าชาวบ้านในยุคนี้เขาโง่ตามไม่ทันสติปัญญา “กระจอกๆ”แบบนี้หรือ ขณะเดียวกันได้เห็นท่าทีการพบของกำนันสุเทพ กับพวกขุนทหารเหล่านี้ ที่นำโดย ผบ.สส. พล.อ.ธนศักดิ์ ปฏิมาประกร และ ผบ.เหล่าทัพ เช่น ผบ.ทบ.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่สรุปก็คือยัง “ขี้ขลาด” อ้างแต่เป็นกลาง อ้างกฎระเบียบเคร่งครัด โดยไม่สนใจว่า รัฐบาลนี้มันหมดความชอบธรรมไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว และชาวบ้านเขาแสดงออกอย่างชัดเจนแล้วว่า ไม่ต้อนรับคนในตระกูลชินวัตร อีกต่อไป ดังนั้นจึงไม่มีความเป็นกลาง มีอยู่สองทางคือ เลือกข้างประชาชนช่วยกันปฏิรูปไล่โจร หรืออยู่ข้างระบอบทักษิณ ซึ่งแม้ไม่กล้าตอบ แต่เมื่อพิจารณาจากท่าที มันก็พอมองเห็นชัดแล้วว่า คนพวกนี้เลือกยืนข้างไหน เพราะผลประโยชน์เฉพาะหน้ามันจะจุกอกตายอยู่แล้ว ทุด !!
00 มาถึงฝั่ง ปชป.บ้าง นาทีต้องติดสินใจให้ขาดแล้วว่า “จะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง”หรือไม่ แต่ถ้าลงสมัคร ก็จบเห่ ความหมายก็คือ ปชป. นะที่จบสิ้น เพราะรู้กันอยู่แล้วว่า มวลมหาประชาชนที่ออกมายืนยันว่า “ต้องปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง”และกำนันสุเทพ ก็ยืนยันหนักแน่นแบบนี้ ถ้า ปชป. ตัดสินใจ “สวนทาง”มันก็ไม่ต้องพูดกันมาก และเชื่อว่าคนอย่าง “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ”และ ชวน หลีกภัย น่าจะอ่านออกได้ไม่ยาก และไม่ต้องพูดกันมากแล้ว !