“ทนายนกเขา” นำอาสา คปท.ปีนทำเนียบรื้อลวดหนามสำเร็จ ท่ามกลางการโต้คารมจาก ตร.-ผู้ชุมนุม แต่ไร้เหตุปะทะ แกนนำประกาศตร.ถอนกำลัง 11.30 น. มีรายงานผบก.น. 6 ขอตร. 500 นายออกจากทำเนียบ ก่อนทหารมาดูแลแทนล่าสุด 13 .00 น.ตร.ยังคงไม่ออกจากทำเนียบฯ จนกลุ่มผู้ชุมนุมทำการตัดไฟในทำเนียบ ขณะเดียวกันก็มีเสียงดังขึ้นคล้ายระเบิดปิงปองหรือประทัดยักษ์
วันนี้ (12 ธ.ค.) บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) นำโดย นายนิติธร ล้ำเหลือ ที่ปรึกษา คปท. และนายอุทัย ยอดมณี ผู้ประสานงาน คปท. ที่บริเวณถนนพิษณุโลก ข้างทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาได้มีมวลชนทยอยเดินทางเข้าพื้นที่ชุมนุมต่อเนื่อง และเตรียมความพร้อมในการทำกิจกรรมรื้อรั้วลวดหนามรอบทำเนียบรัฐบาล ที่ทางแกนนำ คปท.ได้ระบุไว้ว่าจะเริ่มในเวลา 10.00 น.
ขณะที่บริเวณด้านในทำเนียบรัฐบาล ยังคงมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร อยู่ประจำรักษาการณ์ในพื้นที่อย่างเข้มงวด ซึ่งเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมาได้มีการผลัดเปลี่ยนกำลังทหาร 500 นาย ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังคงปฏิบัติงานอยู่ โดยมีการสนธิกำลังเพื่อรักษาพื้นที่ทำเนียบรัฐบาลร่วมกับทหาร และไม่ได้มีการถอนกำลังตามที่มีกระแสข่าวแต่อย่างใด ภายหลังจากที่ผู้ชุมนุมได้มีการกดดันให้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกนอกพื้นที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนเวลา 24.00 น.เมื่อคืนที่ผ่านมา
จนเมื่อเวลา 10.30 น. การ์ดอาสา และมวลชน คปท. บางส่วนได้ใช้บันไดพาดตามแนวรั้ว และเริ่มเข้ารื้อแนวรั้วลวดหนามที่ติดโดยรอบทำเนียบรัฐบาล โดยมีการแจกถุงมือ และอุปกรณ์ตัดรั้วลวดหนามให้แก่ผุ้ปฏิบัติภารกิจ ซึ่งเริ่มจากบริเวณประตู 2 หน้าตึกไทยคู่ฟ้า
ทั้งนี้นายนิติธร และนายอุทัย ได้เน้นย้ำให้ผู้ชุมนุม ปฏิบัติภารกิจด้วยความมีระเบียบวินัย สงบ สันติและปราศจากอาวุธ รวมถึงช่วยกันสอดส่องผู้เข้ามาสร้างสถานการณ์ในพื้นที่ ไม่ให้มีการขว้างสิ่งของหรือขวดน้ำเข้าไปในบริเวณทำเนียบรัฐบาล ขณะเดียวกันก็ได้เน้นย้ำอีกว่า ไม่ให้ผู้ชุมนุมเข้าไปในพื้นที่ทำเนียบรัฐบาล นอกเหนือจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในภารกิจ การเก็บเศษรั้วลวดหนามเท่านั้น
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงเตือนผู้ชุมนุมไม่ให้เข้ามาในพื้นที่ เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความจำเป็นที่ต้องรักษาสถานที่ราชการ และมีการเตรียมกองร้อยควบคุมฝูงชุมประจำการหน้าตึกสันติไมตรี ทั้งนี้ ทางทีมรักษาความปลอดภัย คปท. ได้มีการวางกำลังการ์ดอาสาใน 4 จุด หากพบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการใช้ความรันแรงกับผู้ชุมนุม จะมีการปฏิบัติการตอบโต้ขั้นสูงสุดทันที ซึ่งระหว่างการปฏิบัติภารกิจ เหตุการณ์เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีความรุนแรงใดๆ
เวลา 11.15 น. แกนนำ คปท.ได้ประกาสผ่านเตรื่องขยายเสียง โดยยื่นคำขาดให้ตำรวจถอนกำลังภายใน 1 ชั่วโมง
ต่อมาเมื่อเวลา 12.00 น. มวลชน คปท.ได้ทำการรื้อรั้วลวดหนามที่อยู่โดยรอบทำเนียบรัฐบาลออกหมดแล้ว และนำไปกองรวมกันไว้ด้านข้างตึกสันติไมตรี ขณะที่มวลชนได้กระจายตัวล้อมทำเนียบรัฐบาล เพื่อกดดันเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ออกจากพื้นที่ โดยก่อนหน้านั้นเวลาประมาณ 11.15 น. แกนนำ คปท.ได้ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงแจ้งยื่นคำขาดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเก็บสิ่งของสัมภาระออกจากพื้นที่ภายใน 1 ชม. ซึ่งหากครบกำหนดในเวลา 12.15 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ออกจากพื้นที่ ทางกลุ่มผู้ชุมนุมจะตัดน้ำประปา ตัดไฟฟ้า และตัดสัญญาณโทรศัพท์ภายในทำเนียบรัฐบาล
โดยระหว่างนั้นมีรายงานว่า พล.ต.ต.วัลลภ ประทุมเมือง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล 6 ได้โทรศัพท์ประสานงานมายัง นายนัสเซอร์ ยีหมะ หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัย คปท. ขอให้ผู้ชุมนุมช่วยเปิดทาง ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ 500 นาย ออกนอกทำเนียบรัฐบาลในช่วงบ่ายวันนี้ แต่ภายหลังมีการยืนยันว่าเป็นเพียงการขอสับเปลี่ยนกำลังเท่านั้น ทำให้ทางกลุ่มผู้ชุมนุมไม่พอใจ
จากนั้น 12.30 น. ทางกลุ่มผู้ชุมนุม คปท.ได้ทำการตัดกระแสไฟฟ้าภายในทำเนียบรัฐบาล หลังจากที่ครบกำหนดเวลาที่ยื่นคำขาดให้นำกำลังตำรวจออกจากพื้นที่ทำเนียบรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกเหนือจากมาตรการตัดกระแสไฟฟ้า –น้ำประปาและสัญญาณพื้นฐานภายในทำเนียบรัฐบาลแล้ว ทาง คปท.ได้เพิ่มจัดมวลชนการปิดทางเข้าออกและไม่ให้มีการส่งข้าวส่งน้ำให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ภายใน รวมถึงจะไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจคนใดออกนอกพื้นที่ทำเนียบรัฐบาลโดยเด็ดขาด เว้นเสียจากการถอนกำลังออกนอกพื้นที่ไปทั้งหมด อย่างไรก็ตามผู้ชุมนุมได้ยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ป่วยจำนวน 3 นาย ออกไปพักรักษาตัว โดยมีรถพยาบาลมารับออกไป ผ่านทางประตู 5 ตรงข้ามกระทรวงศึกษาธิการ โดยไม่มีเหตุรุนแรงใด
ทั้งนี้ เมื่อเวลาประมาณ 12.20 น. ได้มีเหตุชุลมุนขึ้นที่บริเวณประตูทางเข้าสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล ฝั่งริมคลองผดุงกรุงเกษม โดยกลุ่มผู้ชุมนุมอ้างว่ามีการยิงปืนออกมาจากทำเนียบรัฐบาล มวลชนจึงจึงลุกฮือไปที่เกิดเหตุ จากนั้นได้มีเสียงดังคล้ายประทัดยักษ์ดังขึ้นมา 2 ครั้ง มวลชนจึงไปรวมตัวกันที่ประตูดังกล่าว และด่าทอเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าทำร้ายประชาชน ทั้งนี้ยังพบว่ามีการยิงลูกหินและหัวน็อตออกมาจากพื้นที่ทำเนียบ ทำให้มีมวลชน คปท.บาดเจ็บเล็กน้อย 1 ราย การ์ดอาสาจึงเข้าควบคุมสถานการณ์และให้มวลชนถอยห่างจากบริเวณดังกล่าว โดยไม่มีเหตุรุนแรงใดๆ
เมื่อเวลา 16.40 น.กลุ่มผู้ชุมนุม คปท.ได้เปิดทางให้แพทย์และพยาบาลจากโรงพยาบาลตำรวจที่อยู่ภายในทำเนียบรัฐบาลจำนวน 6 คนจากทั้งหมด 7 คน คนออกจากทำเนียบรัฐบาลบริเวณประตู 1 โดยหนึ่งในพยาบาลเปิดเผยว่า ไม่สามารถดำเนินการตรวจรักษาได้เพราะไม่มีไฟฟ้าส่วนอีก 1 คนที่อยู่ภายในนั้นเพื่อเฝ้ารถฉุกเฉิน
โดยแกนนำ คปท.ได้ย้ำว่า หากเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องการออกขอให้ออกมาทางประตู 1 เช่น กันหากออกทางประตูอื่นจะไม่รับรองความปลอดภัย รวมถึงผู้สื่อข่าวที่อยู่ภายในทำเนียบรัฐบาล เริ่มทยอยปีนรั้วออกมาบริเวณประตู 1 เช่นกัน
ขณะที่บนเวทีปราศรัยตั้งแต่ช่วงบ่ายที่ผ่านมามีการปราศรัยโจมตีรัฐบาล เจ้าหน้าที่ตำรวจ สลับกับเล่นดนตรี ส่วนผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ยังคงพักผ่อนอยู่รอบๆทำเนียบรัฐบาล หลังแกนนำประกาศให้ผู้ชุมนุมสังเกตการณ์ไม่ให้ใครเข้าไปในทำเนียบรัฐบาล หลังใช้มาตรการตัดน้ำตัดไฟฟ้า และไม่ให้มีการส่งอาหารและน้ำเข้าไปภายใน