โฆษก ปชป.ย้ำนายกฯ ต้องยื่นมือหา ปชช. ยุบสภาไม่จบ ไม่มีคำว่าถอยที่สุด จี้ปรามฝ่ายรัฐแข็งกร้าวผู้ชุมนุม ระงับเดือด ฉะเติมเชื้อไฟเปิดช่องนักวิชาการเชลียร์รัฐออกสื่อโจมตี ปชช. อัด รมว.กต.รับผิดชอบดึง ตปท.เอี่ยวการเมืองไทย ย้ำรัฐต้องแจงปฏิรูปการเมืองอย่างไร อย่าท่องบทแต่เลือกตั้งที่ไม่ได้รับรองการโกง ล้างผิด “นช.แม้ว” เลื่อนประชุมพรรคเร็วขึ้น 16-17 ธ.ค.นี้ หวังกำหนดทิศทางฝ่าวิกฤต พร้อมตั้ง กก.บริหารใหม่ให้ตัดสินใจส่งเลือกตั้งหรือไม่
วันนี้ (11 ธ.ค.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ว่าแม้นายกรัฐมนตรีจะยุบสภา แต่วิกฤตความขัดแย้ง ความเห็นต่างเรื่องทางออกประเทศยังมีอยู่ จึงคิดว่านายกฯ มีภารกิจและหน้าที่ต้องยื่นมือออกมาหาประชาชน แม้จะอ้างว่าถอยถึงที่สุดแล้วแต่สำหรับคนเป็นนายกฯ ไม่มีคำว่าที่สุด ถ้ายังมีความขัดแย้งต้องยื่นมือเข้าหาประชาชนในการสร้างทางออกหาคำตอบให้กับประเทศ บทบาทนายกฯ ที่แสดงความอ่อนไหวเป็นเรื่องที่รับได้ แต่องคาพยพของรัฐบาลอีกหลายฝ่ายยังใช้ความแข็งกร้าวในการกล่าวหาประชาชนที่ออกมาชุมนุม เช่น แกนนำคนเสื้อแดงอย่างนางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธาน นปช.และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ ที่ยังพูดจาเสี่ยงต่อการเกิดความรุนแรงนายกจะต้องปรามคนเหล่านี้ หยุดสร้างบรรยากาศให้มวลชนเกิดการเผชิญหน้าซึ่งไม่ช่วยให้สถานการณ์ต่างๆ นั้นดีขึ้น
นายชวนนท์กล่าวด้วยว่า ในขณะนี้ยังมีกลุ่มนักวิชาการที่สนับสนุนรัฐบาลได้รับพื้นที่สื่อของรัฐอย่างเต็มที่ เปิดช่องทางให้กับนักวิชาการ นักการเมืองฝั่งรัฐบาลและคนเหล่านี้เวลาออกรายการก็กล่าวหาประชาชน และแกนนำมวลชน ซึ่งตนคิดว่าเรื่องแบบนี้ไม่เหมาะสม และจะเป็นการเติมเชื้อฟืนลงบนกองไฟ ทำให้สถานการณ์ความขัดแย้งทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น สุดท้ายคือนักการเมืองที่มีความรับผิดชอบ โดยเฉพาะนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ อ่านแถลงการณ์ประเทศต่างๆ เพื่อให้ประชาชนรู้สึกว่าต่างชาติสนับสนุนรัฐบาลต่อต้านประชาชน การเอาประเทศอื่นเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมืองภายในเป็นการผิดมารยาททางการทูต โดยก่อนหน้านี้เคยคิดถึงขนาดจะเอาทูตมาเป็นตัวประกัน แต่เขาไหวตัวทันจึงมีการประกาศยุบสภา เช่นเดียวกับขณะนี้ที่มีการนำแถลงการณ์ต่างชาติมาอ้างเป็นยุทธศาสตร์ที่คิดสั้นและเป็นการฆ่าตัวตาย เพราะสิ่งที่ประชาชนอยากได้ยินคือแถลงการณ์จากรัฐบาลไทยว่านายกรัฐมนตรีเมื่อยุบสภาไปแล้วจะมีแนวคิดปฏิรูปประเทศนี้อย่างไร มีความคิดที่จะตอบสนองข้อเรียกร้องของประชาชนเพื่อให้นำไปสู่ประเทศที่ปราศจากการคอร์รัปชัน การละเมิดนิติรัฐ นิติธรรม ไม่มีการซื้อเสียงได้อย่างไร เป็นสิ่งที่นายกต้องหาคำตอบให้ประชาชน ไม่ใช่อ้างการเลือกตั้งและเสียงข้างมากมาทำผิดให้เป็นถูก
“ขอเรียนนายกฯ อีกครั้งว่า การชนะเลือกตั้งไม่ใช่ใบอนุญาตให้ท่านโกง ไม่ใช่ใบอนุญาตออกกฎหมายทำลายระบบนิติรัฐ การชนะเลือกตั้งไม่ได้ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้บริสุทธิ์ เพราะสิ่งเหล่านี้คือเหตุผลที่ทำให้ประชาชนไม่ยอมรับรัฐบาลชุดนี้ หากนายกยังไม่เข้าใจประเด็นนี้พยายามใช้การเลือกตั้งมาทำลายระบบ กลับดำให้เป็นขาว การเลือกตั้งก็ไม่ช่วยอะไร จึงอยากให้นายกตั้งใจคิดเรื่องนี้และกล้าหาญที่จะออกมากำหนดทิศทางให้ประเทศยื่นมือหาประชาชนก่อนที่จะสายเกินไป”
นายชวนนท์ยังกล่าวถึงการประชุมใหญ่วิสามัญประจำปีของพรรคประชาธิปัตย์ ว่าเดิมที่มีกำหนดในวันที่ 23-24 ธันวาคม แต่เนื่องจากสถานการณ์การเมืองมีความเข้มข้น พรรคประชาธิปัตย์เห็นว่าคำตอบที่เป็นทางออกของประเทศพรรคควรมีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางเพื่อให้ประเทศพ้นจากวิกฤต จึงเลื่อนการประชุมใหญ่ให้เร็วขึ้นเป็นวันที่ 16-17 ธ.ค.นี้ เพื่อเสนอข้อบังคับพรรคใหม่ในการปฏิรูปโครงสร้างครั้งใหญ่เลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ทั้งหมด 25 คน ดังนั้นในวันที่ 17 ธ.ค.จะเป็นวาระสำคัญ จากนั้นภารกิจจะถูกขับเคลื่อนโดยคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ เพื่อดำเนินการหาทางออกที่เหมาะสมของประเทศ ส่วนพรรคจะส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งหรือไม่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ที่จะมีการประชุมใหญ่