“เอกนัฏ” ยันต่อสู้ครั้งสุดท้าย 9 ธ.ค. ถ้ามาเยอะเปลี่ยนแปลงแน่ แฉ ศอ.รส.เกณฑ์ รด.นับแสน หวั่นนำลุยม็อบ ย้ำ ม.3 และ7 ใช้ทางออกแก้สุญญากาศ ลั่นไม่ได้ปฏิวัติแต่ทวงคืนอำนาจประชาชน
วันนี้ (7 ธ.ค.) ที่ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษก กปปส. แถลงข่าวยืนยันวันที่ 9 ธันวาคมนี้จะเป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้าย โดยจะมีการเคลื่อนมวลชนทุกกลุ่มในเวลา 09.39 น.ไปที่ทำเนียบรัฐบาล เชื่อหากประชาชนมาจำนวนมากจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในวันนั้นแน่นอน แต่หากประชาชนมาน้อยจะยุติการต่อสู้ และมอบตัวเพื่อต่อสู้คดีต่อไป ขณะเดียวกัน เป็นห่วงสถานการณ์การปฏิบัติหน้าที่ของ ศอ.รส.ที่พยายามยุยง และยิงแก๊สน้ำตา ใช้นอตยิงใส่ประชาชน รวมถึงการจ้างอันธพาลให้ก่อกวนเวทีต่างๆ และล่าสุด ศอ.รส.ได้ประกาศระดมชายอายุ 20-30 ปี ที่ผ่านหลักสูตรนักศึกษาวิชาทหารและผ่านการเกณฑ์ทหารกว่า 100,000 คน ซึ่งอยากให้ชี้แจงเรื่องนี้ เนื่องจากเป็นห่วงว่าจะเป็นการต่อต้านผู้ชุมนุม จนนำไปสู่ความรุนแรง
พร้อมกันนี้ นายเอกนัฏยังชี้แจงเกี่ยวกับการวิพากวิจารณ์การใช้รัฐธรรมนูญมาตรา 3 และมาตรา 7 ของนักวิชาการบางส่วนว่า เป็นการเสนอทางออกในภาวะที่บ้านเมืองเกิดสุญญากาศ เนื่องจากรัฐบาลและรัฐสภาสิ้นสภาพในการบังคับใช้กฎหมาย เนื่องจากประชาชนไม่ยอมรับ และป้องกันไม่ให้เกิดการปะทะที่จะนำไปสู่เหตุการนองเลือด พร้อมยืนยันการชุมนุมของกลุ่ม กปปส.ไม่ใช่การปฏิวัติรัฐประหาร แต่เป็นการทวงคืนอำนาจให้กับประชาน เพราะไม่ได้มีการฉีกรัฐธรรมนูญ
ส่วนบรรยากาศการชุมนุมที่ศูนย์ราชการ ในช่วงเช้ามวลชนยังคงพักผ่อนตามอัธยาศัยบริเวณลานอเนกประสงค์ภายในอาคารบี ศูนย์ราชการ ขณะที่บางส่วนได้รับฟังการถ่ายทอดการปราศรัยของเวทีราชดำเนิน และกระทรวงการคลัง ผ่านจอโปรเจกเตอร์ด้านหน้าเวที
ส่วนการดูแลรักษาความปลอดภัยได้เพิ่มขึ้นจากเดิม โดยเฉพาะบริเวณทางเข้าพื้นที่การชุมนุม ที่เมื่อวานนี้มีการนำรั้วเหล็กมากั้น เพื่อให้มีทางเข้าออกเหลือเพียงจุดเดียวเท่านั้นคือ ที่บริเวณด้านหน้าถนนแจ้งวัฒนะ โดยมีการ์ดเพิ่มขึ้นประมาณ 20 คน สลับกันตรวจตราสิ่งของสัมภาระ อาวุธต้องสงสัย รวมถึงประชาชนที่เข้ามาร่วมชุมนุม โดยมีการใช้เครื่องสแกนโลหะเข้ามาเป็นอุปกรณ์เสริมด้วย
ขณะที่บรรยากาศกลุ่มผู้ชุมุนุม คปท.ยังคงอยู่ในที่ตั้งไม่มีการเคลื่อนขบวนไปไหน ยังคงมีแกนนำขึ้นปราศรัยบนเวทีสลับกับการเล่นดนตรีของศิลปินกลุ่มต่างๆ
